วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2561

เขาทำชั่ว แล้วทำไมยังได้ดีละ?



ความคิดที่อันตรายมากๆอีกอย่างหนึ่ง คือการคิดอิจฉาริษยาคนที่กระทำชั่ว แล้วได้ดี นี่เป็นเรื่องธรรมดา บางทีท้อแท้กับชีวิต เพราะ “ทำดีมาตั้งนาน คนนี้เห็นเขาทำชั่ว ไม่เห็นได้ชั่วเลย เขาทำชั่ว ทำไมได้ดี” เยอะแยะ ตลอดเวลา

ดูที่สุภาษิต 24:1 พระคัมภีร์บันทึกเรื่องนี้ไว้อย่างไร
“อย่าคิดริษยาคนชั่ว หรือปรารถนาอยู่ร่วมกับเขา”

และสุภาษิต 24:19
“เจ้าอย่ากระวนกระวาย เพราะคนกระทำบาป และอย่ามีใจริษยาคนชั่วร้าย”

พระคัมภีร์ได้สั่งว่า “อย่ากระวนกระวายใจ” เป็นหน้าที่ของพระเจ้า ไม่ใช่หน้าที่ของเรา บนโลกนี้ เราจะเห็นคนที่ทำชั่ว แล้วได้ดีเยอะแยะไปหมด แต่ไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะต้องกระวนกระวายใจ หรือเป็นเดือดเป็นแค้น ทุกคนที่ทำความบาป ความชั่ว ก็ต้องได้รับผลของมันอยู่แน่นอน เราอาจมองไม่เห็นผลนั้น แต่จงวางใจในความสัตย์ซื่อ ซื่อตรง ความยุติธรรมของพระเจ้า แน่นอนว่าพระเจ้าจะดูแล ให้เป็นไปตามความยุติธรรม อย่างแน่นอน เราไม่ต้องไปห่วง เราก็ขอบคุณพระเจ้า อธิษฐานให้เขา ให้พระเจ้าเมตตาแก่เขา ให้เขามีโอกาสได้กลับใจใหม่ อย่างนี้เป็นต้น

สดุดี 37 Thai New Contemporary Bible (TNCV)
(บทประพันธ์ของดาวิด)
37 อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะคนชั่ว
หรืออย่าอิจฉาคนที่ทำผิด
2 เพราะว่าในไม่ช้าเขาก็จะเหี่ยวแห้งไปเหมือนต้นหญ้า
และเขาจะเฉาตายไปเหมือนพืชผัก

3 จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำความดี
จงอาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นและรื่นรมย์อยู่ในทุ่งหญ้าอันปลอดภัย
4 จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์จะประทานสิ่งที่ใจของท่านปรารถนา

5 จงมอบทางของท่านไว้กับองค์พระผู้เป็นเจ้า
จงวางใจในพระองค์ และพระองค์จะทรงทำสิ่งเหล่านี้ คือ
6 พระองค์จะทำให้ความชอบธรรมของท่านฉายแสงดั่งรุ่งอรุณ
ให้ความยุติธรรมในคดีของท่านเจิดจ้าดั่งแสงอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน

7 จงสงบนิ่งต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและเพียรรอคอยพระองค์
อย่าเดือดเนื้อร้อนใจเพราะเหตุที่พวกเขาประสบความสำเร็จในทางของเขา
เมื่อแผนชั่วของเขาลุล่วงไปด้วยดี

8 จงระงับโทสะ เลิกโมโหโกรธาเสีย
อย่าเดือดเนื้อร้อนใจ ซึ่งมีแต่จะนำไปสู่ความเลวร้าย
9 เพราะคนชั่วร้ายจะถูกกำจัด
แต่บรรดาผู้ที่หวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก

10 เพียงชั่วประเดี๋ยว คนชั่วก็จะสูญสิ้นไป
แม้ท่านจะมองหาเขาแต่จะไม่พบ
11 ส่วนคนที่ถ่อมสุภาพจะได้รับแผ่นดินนั้นเป็นมรดก
และชื่นชมกับสันติสุขอันยิ่งใหญ่

12 คนชั่ววางแผนปองร้ายผู้ชอบธรรม
และขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่พวกเขา
13 แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงหัวเราะเยาะคนชั่ว
เพราะพระองค์ทรงทราบว่าวันเวลาของเขาใกล้จะมาถึงแล้ว

14 คนชั่วชักดาบและโก่งคันธนู
เพื่อโค่นล้มคนยากไร้และขัดสน
เพื่อเข่นฆ่าคนที่ดำเนินในทางเที่ยงธรรม
15 แต่ดาบของเขาเองจะเสียบทะลุหัวใจของเขาเอง
และธนูของเขาจะถูกหักทำลาย

16 สิ่งเล็กน้อยที่คนชอบธรรมมีอยู่
ก็ดีกว่าความมั่งคั่งของคนชั่วร้าย
17 เพราะอำนาจของคนชั่วจะถูกขจัดไป
แต่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเชิดชูผู้ชอบธรรม

18 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทราบวันเวลาของคนไร้ตำหนิ
มรดกของพวกเขาจะยั่งยืนนิรันดร์
19 ในยามเกิดภัยพิบัติ พวกเขาจะไม่อับเฉา
ในยามกันดารอาหาร พวกเขาก็จะเริงร่าในความอุดมสมบูรณ์

20 ส่วนคนชั่วจะพินาศ
แม้ว่าศัตรูขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะเป็นเหมือนดอกไม้ในทุ่งหญ้า
พวกเขาก็จะสูญสิ้นไปเหมือนควัน

21 คนชั่วขอยืมแล้วไม่ใช้คืน
ส่วนคนชอบธรรมให้ด้วยใจกว้างขวาง
22 บรรดาผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าอวยพรจะได้แผ่นดินนั้นเป็นมรดก
แต่บรรดาผู้ที่พระองค์ทรงสาปแช่งจะต้องถูกตัดออก

23 ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัยทางของคนใด
ก็ทรงให้ย่างก้าวของคนนั้นมั่นคง
24 แม้เขาสะดุด เขาจะไม่ล้มลง
เพราะพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าค้ำชูเขาไว้

ความอิจฉาริษยาก็เหมือนเชื้อบาปตัวอื่นๆ ที่ฝังลึกอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน เราจะเห็นชัดๆ เด็กตัวเล็กๆ ก็รู้จักอิจฉาแล้ว พอมีน้อง ก็อิจฉาน้อง พอไปโรงเรียนเห็นเพื่อน เขามีอะไรที่เราไม่มี ก็อิจฉาเพื่อน พอเรียนจบทำงาน เพื่อนที่เรียนมารุ่นเดียวกันได้เงินเดือนมากกว่า ก็อิจฉาเขา มีครอบครัว ก็อิจฉาครอบครัวของคนอื่น มีบ้าน ก็อิจฉาบ้านของคนอื่นเขา เห็นไหม นี่เป็นวงจร เป็นเรื่องจริงๆ บนโลกใบนี้ จะเป็นอย่างนี้ แต่เราเป็นคริสตชนแล้ว เราเป็นลูกของพระ เรามีชัยชนะเหนือโลกแล้ว พระเยซูคริสต์อยู่กับเราแล้ว พระองค์ทรงกลับเป็นขึ้นมาใหม่ในวันที่ 3 แล้ว  พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ ทรงสถิตอยู่กับเรา เราสามารถเผชิญทุกสิ่งได้ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเสริมกำลังให้กับเราแล้ว เราจะไม่ดำเนินชีวิตเป็นอย่างนี้อีกต่อไป

เหมือนมีคำกล่าวว่า “ทุ่งหญ้าของเพื่อนบ้าน เขียวสดกว่าเราเสมอ” เป็นความคิดของคนที่มีความอิจฉาริษยา อยู่ภายในจิตใจ มองไปทีไร บ้านโน้นเขาดีกว่าบ้านเราทุกที ที่ของเราดีๆ ไม่เคยมอง มองแต่ของคนอื่น อันนั้นดีๆ ทำไมไม่เอาตามอย่างบ้านนั้นล่ะ เสร็จแล้ว มาทะเลาะกันเอง

เช่นเดียวกันกับเชื้อบาป ตัวอื่นๆ ที่ยากมากๆ สำหรับการต่อสู้ในชีวิตของเรา ก็คือต่อสู้กับกิเลสตัณหา ทางฝ่ายเนื้อหนังของตัวเราเอง เป็นเชื้อของบาปที่จะทำให้เราเกิดความไม่พึงพอใจ เกิดการเปรียบเทียบ เกิดความอิจฉาและริษยา และทำบาปในที่สุด ตัวนี้ตัวสำคัญและอันตรายมาก ก็คือเราจะต้องต่อสู้กับมัน ระงับมันให้ได้ ตั้งแต่ตอนที่ตั้งไข่อยู่ในร่างกายของเรา ถ้าปล่อยมันออกมาแล้ว มันสายไปเสียแล้ว ต้องรู้ตัวตลอดเวลา เริ่มรู้ตัวแล้ว ต้องจัดการให้สงครามนี้เสร็จสิ้น ภายในจิตใจของเรา จัดการตรงนั้น ไม่ใช่ปล่อยมันออกมาเลย แล้วมันก็ไปกระทำบาป แล้วมาเสียใจทีหลัง

แต่โดยพระเยซูคริสต์ ที่เราได้ชัยชนะเหนือความบาป และความตายแล้ว เรื่องยากๆ อย่างนี้ ก็กลายเป็นเรื่องง่าย เพราะ ฟีลิปปี 4:13 บันทึกไว้ว่า “ข้าพเจ้าสามารถเผชิญทุกสิ่งได้ ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเสริมกำลังให้กับข้าพเจ้า” “เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าสามารถเผชิญกับความอิจฉาริษยาได้ ผ่านทางพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเสริมกำลังให้กับข้าพเจ้า” ต้องจำตรงนี้ไว้เลย เจอสิ่งเหล่านี้เข้าไป นึกถึงพระเยซูคริสต์เลยว่า พระองค์ทรงประทานกำลังให้กับเรา ชนะมันได้ ถ้าไม่มีกำลังนี้ เราอาจจะแพ้ เมื่อไรที่เริ่มรู้ตัวว่าเรากำลังมีความอิจฉาใคร อธิษฐานขอกำลังจากพระเจ้า ให้เราสามารถที่จะมีความยินดี ที่คนอื่นเขามีมากกว่าเรา ขอพระองค์ทรงโปรดอวยพรเขา “ขอพระเจ้าทรงโปรดประทาน ให้ลูกมีความยินดี ในความเจริญรุ่งเรืองของเขาด้วยเถิด”

ให้เรามีจิตใจเข้มแข็ง ที่สามารถจะชนะความอิจฉาริษยา ในจิตใจของเราได้ ขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่ง ที่พระองค์ทรงประทานให้แก่เรา สิ่งที่เรามีอยู่และเป็นอยู่ในวันนี้ คือสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเราแล้ว ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร เป็นใคร ตำแหน่งอะไรในสังคม ในครอบครัว บ้านของเรา ขอบคุณพระเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่พระเจ้าประทานให้กับเรา

การขอบคุณพระเจ้า ตัวนี้จะเป็นตัวสำคัญ ในการหล่อหลอมให้จิตใจของเรา เป็นเกราะป้องกันความอิจฉาริษยาคนอื่น และไม่ตกลงไปในการทำบาป และไม่หล่นลงไปในความทุกข์ยากลำบากอื่นๆ ด้วย

กาลาเทีย 5:24-26
“ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ ได้เอาเนื้อหนังกับความอยาก และตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่กางเขนแล้ว ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย เราอย่าถือตัว อย่ายั่วโทสะกัน และอย่าอิจฉาริษยากันเลย”

“เรา” ผู้ที่อยู่ในฝ่ายพระเยซูคริสต์เจ้า เราจะไม่ดำเนินชีวิตของเราเป็นไปตามเนื้อหนัง แต่เราเอาความอยากของเนื้อหนัง ตรึงไว้ที่ไม้กางเขน ตรึงความอยากเก่าๆ ความโลภ ความโกรธ ความอิจฉา ริษยา ความบาปต่างๆ ความคิดชั่วต่างๆ ซึ่งมันอยู่ในตัวเรา อยู่ในกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง อยู่ในความคิดเก่าๆ ของเรา ตรึงมันทุกวัน

เพราะพอตื่นเช้าขึ้นมา มันก็เป็นขึ้นมาใหม่ ท่านต้องตรึงมันแต่เช้าเลย ตรึงมันด้วยคำอธิษฐาน เพราะมันอยู่ในตัวของเราตลอดเวลา เป็นศัตรูที่สนิทที่สุดในชีวิตของเรา ก็คือกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ซึ่งเราหนีมันไม่ได้ จนกว่าเราจะตาย พระคัมภีร์จึงบอกว่าตายก็ได้กำไร ก็จะได้พ้นจากศัตรูตัวนี้ จบสักทีหนึ่ง หมดหน้าที่สักทีหนึ่ง

มาคิดอีกทางหนึ่งก็คือ การต่อสู้กับกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ซึ่งอยู่ในระบบของโลกนี้ พระคัมภีร์บอกว่า เรากำลังทำงานให้กับพระเจ้า ก็ขอบคุณพระเจ้า

หน้าที่ของเรา อันดับแรกคือระงับ จัดการ กำจัด ตรึงความรู้สึกของกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ให้อยู่หมัดให้ได้ และที่เหลือพระเจ้าจะนำพาเราผ่านไปเอง ให้ถวายเกียรติพระองค์ในทุกแง่มุม สำหรับเราชาวคริสต์ เราจะตรึงกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ที่ไม้กางเขนทุกวัน และขอพระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตเราใหม่ ให้เราเป็นเหมือนพระเจ้าทุกวัน ให้เราดำเนินโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่ด้วยกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ตัดสินใจ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่สถิตอยู่กับเรา ไม่ใช่โดยความคิดเก่าๆ ของกิเลสตัณหาของเนื้อหนัง ชีวิตจึงแตกต่างกับคนที่อยู่ในโลกนี้ ที่ยังไม่รู้จักพระเจ้า ให้เราร่วมกันอธิษฐานเพื่อกันและกันนะคะ

การขอบพระคุณพระเจ้า
คือวิธีเยียวยาความอิจฉาอย่างดี
ส่วนของคนที่ทำชั่ว แต่ยังได้ดี
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระเจ้าเราไม่ต้องไปห่วง เราก็ขอบคุณพระเจ้าในส่วนของเรา
และ อธิษฐานให้เขา ให้พระองค์เมตตาแก่เขา ให้เขามีโอกาสได้กลับใจใหม่ ในเร็ววัน

บทภาวนาประจำวัน
ข้าแต่พระเจ้า
โปรดประทานพลังงานแก่ข้าพเจ้า
โปรดให้ข้าพเจ้าชื่นชมแม้ในสิ่งเล็กน้อย
โปรดประทานดวงตาที่สามารถมองเห็นความสวยงาม
ทะลุผ่านความไม่น่ารักของเพื่อนมนุษย์
โปรดประทานลิ้นเพื่อข้าพเจ้าจะได้พูดแต่ความจริง
โปรดประทานดวงใจที่จะรัก
โปรดประทานความคิดที่มีเหตุผล
โปรดประทานความเห็นอกเห็นใจที่จะเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆด้วยเถิด
โปรดช่วยให้ข้าพเจ้า เข้มแข็งและปฎิเสธความไม่ดีหรือความอิจฉาริษยา
และโปรดประทานความใจดีที่แท้จริง
และให้ลูกเป็นคนที่มีความสุขเพราะรู้ค่าของคำว่า พอเพียง และพอใจ
ณ เวลาสิ้นสุดของทุกวัน
โปรดทำให้ข้าพเจ้าตื้นตันไปด้วยความกตัญญูรู้คุณ และขอบคุณ
สำหรับพระพรทั้งหมดที่พระองค์ทรงมอบให้ด้วยเทอญ
อาแมน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
KC Love God



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...