ทำไมเราต้องการพระคัมภีร์ในชีวิตประจำวันของเรา
คริสตชนควรจะได้อ่านพระคัมภีร์เป็นประจำทุกวัน อาจจะอ่านวันละตอนสั้นๆ
หรือจะเป็นตอนยาว ๆ หรือทั้งบทก็ได้
แต่ไม่ควรจะอ่านบ้างหยุดบ้าง(นอกจากกรณีจำเป็น)
เพื่อจะได้มีพระวาจาหล่อเลี้ยงชีวิตของเราทุกคน
การอ่านพระคัมภีร์ก็เหมือนการได้คุยกับพระเพื่อจะทราบว่าพระเป็นเจ้ามีความประสงค์จะให้เราทำอะไร
เพื่อจะได้ทราบว่าพระเป็นเจ้ามีความประสงค์จะให้เราทำอะไร
เพื่อเราจะได้ทราบความบกพร่องชีวิตจิตของเรา และจะทำการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร
รวมทั้งเมื่อเรามีปัญหาบางอย่างในชีวิตของเรา
เราจะนำพระวาจาจากพระคัมภีร์มาแก้ไขปัญหาชีวิตของเราอย่างไร
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ เราจะได้เข้าใจถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรามากขึ้น
และทำให้เราได้มีชีวิตใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น ทำให้เราไม่มีความรู้สึกว้าเหว่
และทำให้เรามีความสุขสันต์อย่างที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน
การนำพระคัมภีร์มาใช้กับชีวิตของเราอาจจะจำแนกออกเป็นข้อๆ
ดังนี้
1. การนำพระวาจาของพระมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา
คริสตชนทุกคนควรจะยึดพระวาจาของพระมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเรา
เพื่อเราจะได้ทำทุกอย่างเพื่อเป็นการให้เกียรติพระองค์
และเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์
หากเราไม่อ่านพระคัมภีร์
เราก็คงไม่ทราบถึงรายละเอียดว่าพระจะให้เราทำอะไรบ้างในการดำเนินชีวิต
เพราะชีวิตของคริสตชนมิได้ขึ้นกับการแก้บาป รับศีล
และไปวัดทุกวันอาทิตย์ตามที่เราได้เรียนรู้ เมื่อตอนเรียนคำสอนเท่านั้น
แต่ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมายที่พระสอนเราและให้เราปฏิบัติ
ซึ่งอยู่นอกเหนือจากที่เราเรียนรู้ เมื่อคราวที่เราเรียนคำสอน
การอ่านพระคัมภีร์จะทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับคำสอนของพระเป็นเจ้ามากขึ้นและทำให้เราสามารถปฏิบัติตนเป็นคริสตชนที่ดีได้มากขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้ชีวิตจิตวิญญาณของเราได้เจริญเติบโตยิ่งๆ ขึ้น พร้อมๆ
กับการเจริญเติบโตทางร่างกาย
ไม่ใช่ร่างกายเจริญเติบโตอย่างเดียวแต่จิตวิญญาณไม่ยอมเจริญเติบโตด้วย
ยิ่งปัญหาภาวะแวดล้อมของสังคมโลกปัจจุบันที่จะทำให้มนุษย์มีความชื่นชมยินดีกับชีวิตฝ่ายโลกจนลืมชีวิตฝ่ายจิตแล้วอ่านพระคัมภีร์ก็ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้น
เพราะเราจะได้มีพระวาจาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวชีวิตของเรา
การอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำทุกวันจึงเป็นของจำเป็นยิ่งสำหรับคริสตชนในยุคปัจจุบันนี้
การอ่านพระคัมภีร์จะอ่านจากพระคัมภีร์โดยตรง
หรือจากพระวรสารทั้งสี่หรืออ่านจากไบเบิลไดอารีที่มีพิมพ์ออกจำหน่ายก็ได้
ใช้ได้เหมือนๆกัน หรือการดาวโหลดแอปมากมายให้เลือกอ่าน แล้วแต่ท่านจะสะดวก
2. การนำพระคัมภีร์ไปใช้แก้ปัญหาชีวิตของตนเองและครอบครัว
มนุษย์ทุกคนมีปัญหาชีวิตของตนเองไม่มากก็น้อย
รวมทั้งปัญหาของครอบครัวหรือปัญหาของญาติพี่น้องของเราด้วย
การอ่านพระคัมภีร์เป็นประจำวันจะทำให้เราสามารถนำพระวาจาจากพระคัมภีร์มาใช้ในการแก้ไขปัญหาของเรา
และครอบครัวได้เป็นอย่างดี
เพราะคำสอนของพระเยซูเจ้าได้บอกถึงวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี
ส่วนปัญหาใดที่เราไม่สามารถแก้ไขเองได้
พระองค์ก็ได้ทรงบอกให้เราขอพระเป็นเจ้าและมอบปัญหาของเราแก่พระเป็นเจ้า
แล้วพระองค์จะช่วยเราเอง หากเราขอด้วยความเชื่ออย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม
มีบางคนได้เอาพระวาจาของพระเยซูเจ้าไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น
พระเยซูเจ้าบอกว่า “จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิด”
แต่ให้ผู้ขอขอด้วยความเชื่อแล้วพระองค์จะจัดการให้เราเอง โดยผู้ขอ ขอแล้วก็ไม่ยอมทำอะไรเลย
คงรอคอยให้พระเป็นเจ้าทำงานช่วยเราแต่เพียงฝ่ายเดียว แล้วเราก็ไม่ได้อย่างที่เราขอ
แล้วก็โทษพระ หรือโกรธพระว่าพระองค์ไม่ทรงช่วยเรา
ประโยชน์ที่ได้รับจากการอ่านพระคัมภีร์ที่สำคัญก็คือ
(1) พระคัมภีร์ทำให้เราเกิดความสำนึกผิดเมื่อทำบาป
พระคัมภีร์จะช่วยให้เราได้เห็นความผิดหรือ
บาปที่เราได้กระทำอย่างชัดเจน
ทำให้เรามีความสำนึกที่ตัวในการทำบาปของเรา
และมีความเป็นทุกข์ถึงบาปด้วยการขอกลับคืนดีกับพระเจ้า และด้วยการละทิ้งบาปนั้นที่จะไม่ทำต่อไปอีกในชีวิตของเรา
ดังที่มีกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ว่า...
“ข้าแต่พระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์
เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อไป”
(สดด.119:11)
"ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และมีประโยชน์
เพื่อสั่งสอน ว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขและอบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม
คนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพเพื่อกิจการดีทุกอย่าง" (2
ทธ.3:16-17)
(2) การศึกษาพระคัมภีร์จะทำให้เรามีความหวัง
ความหวังเป็นของประทานอันอุดมสมบูรณ์มาจากพระเป็นเจ้า
ซึ่งจะมีอยู่ท่ามกลางผู้มีความเชื่อเท่านั้น พระคัมภีร์ก็คือ พระวาจาหรือคำสอนของพระเจ้า
ผู้ใดที่เชื่อและปฏิบัติตาม ผู้นั้นก็จะพบกับความหวัง
ซึ่งเป็นพระวิญญาณของพระเป็นเจ้าที่ปรากฏอยู่ในพระวจนะของพระองค์ในพระคัมภีร์ที่มีกล่าวถึงว่า
“สิ่งที่เขียนไว้ก่อนนั้นก็เขียนไว้สำหรับสั่งสอนเรา
เพื่อเราจะมีความหวังอาศัยความอดทนพากเพียรและการปลอบใจที่มาจากพระคัมภีร์” (โรม 15 : 4)
(3)การศึกษาพระคัมภีร์ทำให้เกิดสันติสุข
ผู้ที่รู้และเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า จะมีความรู้สึกปิติยินดีและมั่นคงที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขามากขึ้น
และจะทำให้เขาได้มีโอกาสพบกับสันติสุขกับพระเจ้าซึ่งเป็นสันติสุขที่มนุษย์ทุกคนทั่วโลกเสาะแสวงหาและสันติสุขดังกล่าวจะค้นหาได้จากที่เดียวคือ
ในพระคัมภีร์
คริสตชนใดที่ขาดการศึกษาพระวจนะจากพระเจ้าในพระคัมภีร์
เขาผู้นั้นจะไม่มีโอกาสพบกับสันติสุขที่แท้จริงในชีวิตของเขาเลย
ดังที่มีการกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ว่า
“บุคคลที่รักพระธรรมของพระองค์ จะมีสันติสุขอันยิ่งใหญ่” (สดด.119:165)
(4)
การศึกษาพระวจนะของพระเจ้าจะทำให้เราสามารถจัดการกับปัญหาต่างที่เกิดกับชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี
ผู้ที่ศึกษาพระคัมภีร์จะพบว่าปัญหาต่างๆที่เรามีในชีวิตของเรานั้น
พระคัมภีร์ได้บอกถึงแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้นไว้ให้เราแล้วทุกประการ
หากเราได้ปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้า และมีความเชื่อและไว้วางใจในพระองค์อย่างแท้จริงแล้วปัญหาต่างๆก็จะได้รับการช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า
ดังที่ได้มีการเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
“ข้าพเจ้ารู้เพียงว่า พระจิตเจ้าทรงเตือนข้าพเจ้าในทุก ๆ เมืองว่า
โซ่ตรวนและความยากลำบากกำลังรอข้าพเจ้าอยู่” (กจ.20:23)
"ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และมีประโยชน์
เพื่อสั่งสอน
ว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไขและอบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม
คนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพเพื่อกิจการดีทุกอย่าง" (2 ทธ.3:16-17)
นอกจากนี้ยังมีเหตุผลอื่นๆอีกมมากมายที่ยืนยันว่าการอ่านพระคัมภีร์จะช่วยทำให้ชีวิตคริสตชนของท่านดีขึ้น
และจะทำให้ท่านได้เจริญชีวิตจิตกับพระเป็นเจ้ามากขึ้น
ซึ่งจะทำให้ท่านได้พบกับสันติสุขกับพระเจ้ามากขึ้น
จึงควรที่คริสตชนจะได้ให้ความสนใจต่อการอ่านพระคัมภีร์
เพื่อจะได้ให้พระคัมภีร์เป็นแสงสว่างนำชีวิตของตนได้พบกับความรอด
คริสตชนจึงไม่ควรจะปล่อยเวลาให้ผ่านพ้นไปโดยมิได้อ่านพระคัมภีร์หรืปล่อยให้พระคัมภีร์วางไว้บนชั้นหนังสือหรือในตู้โดยปราศจากการเหลียวแล
เช่น คนจำนวนมากกระทำกันอยู่
จงลุกขึ้น...ไปหยิบพระคัมภีร์มาอ่านเสียในเวลานี้เถิด
แล้วท่านจะได้พบว่าชีวิตของท่านช่างมีสันติและความสุขเสียนี่กระไร
ทำไมหนอจึงไม่มีใครแนะนำให้เราอ่านพระคัมภีร์ก่อนหน้านี้มานานแล้ว
และชีวิตของเราในทุกวันนี้ก็จะดียิ่งกว่านี้มากมายนัก
kamsondeedee.com
kamsondeedee.com
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านผู้ที่มีความเชื่อ ความรักและวางใจในพระเจ้า
Kc Love God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น