วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

ภายใต้ดวงอาทิตย์...ทุกสิ่งมีวาระ



ภายใต้ดวงอาทิตย์...ทุกสิ่งมีวาระ

ปัญญาจารย์ได้กล่าวไว้ว่าชีวิตภายใต้ดวงอาทิตย์ สิ่งต่างๆจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวาระ  ตามฤดูกาล  เวลาไม่ได้เห็นแก่หน้าใคร ทุกคนล้วนได้เวลาแต่ละวันที่เท่ากันหมด เราไม่สามารถควบคุมเวลาได้ ดูเหมือนเวลาจะเป็นผู้ควบคุมเรามากกว่า ชีวิตมีการผันแปรอยู่ตลอดเวลา บ่อยครั้งดูเหมือนว่าเราสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆให้เป็นไปตามแผนการณ์ของเรา แต่ก็เป็นความจริงว่ามีไม่น้อยครั้งที่เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามวาระ ตามกาลเวลาของมัน อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้เกิด อย่างไรก็ตามพระเจ้าได้ทรงบรรจุนิรันดร์กาลไว้ในจิตใจมนุษย์เพื่อมนุษย์จะเข้าใจชีวิตนิรันดร์ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้สำหรับมนุษยชาติ ด้วยเหตุนี้มนุษย์ขณะอยู่บนโลกนี้ต้องยำเกรงพระเจ้าและชื่นชมยินดีกับชีวิตที่พระเจ้าทรงประทานให้

ข้อ 1-10 วาระและเวลาเป็นพระพรที่พระเจ้าทรงประทาน
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงและมีความหลากหลายในเรื่องราวต่างๆ แต่ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้น ล้วนเป็นประโยชน์สำหรับคนที่รักพระองค์ (โรม 8:28) เพราะพระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมสิ่งเหล่านี้

วาระ การเกิดการตายการปลูกการถอนการฆ่าการรักษาการสร้างการทำลายการหัวเราะการร้องไห้ การเต้นรำการไว้ทุกข์
หมายถึง ชีวิตของมนุษย์การเกษตรทางการแพทย์การก่อสร้างชีวิตที่มีกาลเทศะ ความเห็นอกเห็นใจ

วาระ การสวมกอด การงดเว้น
หมายถึง สัมพันธภาพของคู่สมรส

วาระ การรักการเกลียด การรวบรวมหิน การโยนทิ้งน้ำ
หมายถึง การสร้างมิตรภาพหรือการสร้างศัตรู

วาระ การเก็บรักษาการโยนทิ้ง
หมายถึง อะไรควรรักษา อะไรควรอนุรักษ์

วาระ การหา การหาย
หมายถึง อะไรควรโยนทิ้งหรือไม่ต้องซื้อ

วาระ การสงคราม การสันติ การพูด การเงียบ
หมายถึง อะไรที่เรามีส่วนร่วม อะไรที่ควรอยู่เฉยๆ ทั้งการพูดหรือการร่วมงาน เพราะบางครั้งการนั่งเฉยก็เกิดประโยชน์กว่าการแสดงความคิดเห็น

วาระ การฉีกขาด การเย็บ
หมายถึง  การรู้จักาละเทศะ  อะไร ที่ไหน อย่างไร

ข้อ 11-22 วาระและเวลาในโลกนี้เป็นสิ่งชั่วคราว แต่ชีวิตนิรันดร์เป็นพระคุณที่พระเจ้าทรงประทาน
โลกนี้อนิจจัง กินลมกินแล้ง ทั้งสั้น ทั้งร้าย ทั้งชั่วคราว และต้องตาย พระธรรมปัญญาจารย์เอ่ยถึง “อนิจจัง” 21 ครั้ง “กินลมกินแล้ง” 7 ครั้ง “ตาย” 7 ครั้ง ชีวิตเปรียบเหมือนวันๆหนึ่ง เปรียบเหมือนหมอก เปรียบเหมือนนักทัศนาจร มนุษย์และสัตว์ก็ต้องตาย คนดีคนชั่วก็ต้องตาย คนชอบธรรมคนอธรรมก็ต้องตาย คนฉลาดคนโง่ก็ต้องตาย ปัญหาอยู่ที่ว่า “ตายแล้วจะไปไหน”

ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงเตรียมวาระและเวลาในอนาคตให้กับมนุษย์

* นิรันดร์กาลเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงตระเตรียมไว้สำหรับมนุษย์ เป็นแผนการตั้งแต่เริ่มต้นการทรงสร้าง เป็นน้ำพระทัยสูงสุดของพระเจ้า (3:11-12)

* ทุกคนต้องรับการพิพากษาจากพระเจ้าตามผลการกระทำของตนขณะที่อยู่ภายใต้ดวงอาทิตย์

* ภายใต้ดวงอาทิตย์มีความตาย แต่เหนือดวงอาทิตย์มีชีวิตนิรันดร์

ข้อคิดสำหรับเรา

1.พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่งทุกอย่างบนแผ่นดินโลกนี้ รวมถึงการเป็นเจ้าของเราชีวิตเราด้วย เรายอมมอบถวายชีวิตเวลาครอบครัว การงาน ทรัพย์สินเงินทอง ฯลฯ ให้พระเจ้าควบคุมหรือไม่

2.เวลาที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่มนุษย์เป็นสิ่งที่มีคุณค่าและเป็นพระพร จงรู้จักใช้วันเวลาที่มีอยู่อย่างมีคุณค่าและความหมาย เพราะวันเวลาผ่านไปเหมือนกระแสน้ำที่ไม่ไหลคืนมาอีก เราใช้เวลาของเราให้เกิดคุณค่าอย่างไร

3.พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมเวลา (โดยเฉพาะเรื่องการเกิดและการตาย) แต่ให้อิสรเสรีภาพแก่มนุษย์ในการบริหารเวลา เราบริหารเวลาของเราอย่างไร

4.พระเจ้าทรงให้โลกนี้มีฤดูกาล มีสีสัน มีความสวยสดงดงามในตัวของมันเอง เราขอบพระคุณสำหรับสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอหรือไม่

5.พระเจ้าทรงให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆตามวาระ ก็เพื่อให้มีชีวิตไม่จืดชืด มีรสชาติ เรารู้สึกว่าชีวิตมีสีสัน มีความสุข และชื่นชมยินดีได้มากน้อยแค่ไหน

6.พระเจ้าทรงสอนให้เรารู้จักเรื่องกาลเทศะ มีบางสิ่งที่เราควรทำและไม่ควรทำ เราแยกแยะและวางตัวในสังคมได้ดีหรือไม่ เราได้ใช้สติปัญญาที่มาจากพระเจ้าในการเข้าใจวาระต่างๆที่เกิดขึ้น เรารับมือหรือปรับตัวหรือแก้ไขได้ดีหรือไม่

7.วาระต่างๆที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินโลก ไม่มีวาระใดที่จีรังยั่งยืน ล้วนอนิจจัง ไม่เที่ยงทั้งสิ้น เรายังยึดติดอยู่กับเงินทอง วัตถุ ชื่อเสียง ความสะดวกสบาย และสิ่งรอบกายต่างๆอย่างเหนียวแน่นหรือไม่

9.และสิ่งที่สำคัญสุดๆของมนุษย์ทุกคนภายใต้ดวงอาทิตย์ ที่ต้องรู้ ที่ต้องเข้าใจ ที่ต้องรับเอาไว้ นั่นคือ “นิรันดรกาล” (ข้อ 11) เรามีวิธีการอย่างไรในการบอกกล่าวให้สมาชิกในครอบครัว เพื่อน นำพวกเขาเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์กาลนี้ได้อย่างไร
(โดย ศจ.วิรัช เศรษฐโสภณกุล คำสอนจากพระธรรมปัญญาจารย์  บทที่  3)

 “มีฤดูกาลสำหรับทุกสิ่ง” ผู้เขียนปัญญาจารย์กล่าว “มีวาระสำหรับเรื่องราวทุกอย่างภายใต้ฟ้าสวรรค์” (ปญจ.3:1) ท่านได้บรรยายถึงฤดูกาลต่างๆ ที่มนุษย์ประสบ ได้แก่การเกิดและตายการสูญหายและได้มา การร้องไห้และหัวเราะการไว้ทุกข์และเต้นรำ ดังฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติ ซึ่งฤดูกาลในชีวิตมนุษย์ก็เป็นเช่นเดียวกัน ไม่มีสถานการณ์ใดในชีวิตของเราที่คงเดิมเป็นเวลานาน


บางครั้งเราก็ยินดีกับการเปลี่ยนแปลงที่เข้ามาในชีวิตเรา แต่บ่อยครั้งเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความทุกข์และการสูญเสียเกิดขึ้นกระนั้น เราสามารถขอบคุณพระเจ้าได้ เพราะพระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลงพระเจ้าตรัสกับมาลาคี ผู้เผยพระวจนะว่า“เราคือพระเจ้าไม่มีผันแปร” (มลค.3:6)

เพราะพระเจ้ายังคงเหมือนเดิม เราจึงวางใจในพระองค์ได้ท่ามกลางฤดูกาลชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป พระองค์ทรงสถิตกับเราเสมอ (สดด.46:1) สันติสุขของพระองค์มีฤทธิ์อำนาจคุ้มครองจิตใจของเรา (ฟป.4:7) และความรักของพระองค์ ทำให้จิตวิญญาณของเรามั่นคง (รม.8:39)

พระเจ้าผู้ทรงเป็นป้อมปราการ ทรงปราบมารด้วยฤทธิ์อันเกรียงไกรมันจู่โจมถึงตายดังคลื่นใหญ่ ทรงปกป้องเราเอาไว้พ้นภัยพาล – Luther
(thaiodb.org)







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...