วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2561

พระเจ้าข้า ถ้าพี่น้องทำผิดต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องยกโทษให้เขาสักกี่ครั้ง ?


ทำไมพี่น้องจึงทะเลาะกัน
พี่น้องทะเลาะกัน เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ที่ต้องมีปัญหา ระหองระแหง ขัดแย้งกันบ้าง ตามประสาคนที่เห็นกันมาและรู้จักกันตั้งแต่อ้อนแต่ออก บ้านไหนพี่น้องทะเลาะกัน อาจเป็นเพราะ อยู่แบบต่างคนต่างอยู่ พี่ไม่เล่นกับน้อง น้องก็ไม่เล่นกับพี่ไม่มีความสนิทสนมกัน หรือมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตั้งแต่เด็ก

พระเจ้าทรงเป็นความรักท่านที่รักทั้งหลาย ขอให้เรารักซึ่งกันและกัน เพราะว่าความรักมาจากพระเจ้า และทุกคนที่รักก็บังเกิดจากพระเจ้า และรู้จักพระเจ้า ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก 1 ยอห์น 4:7, 8

พี่น้องจึงทะเลาะกันเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ที่มีบาป กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ ไม่มีใครในโลกนี้ที่สมบูรณ์ เราทุกคนเคยกระทำความผิด เรากระทำในสิ่งที่พระเจ้าไม่ทรงโปรดปราน จึงทำให้เราอยู่ในภาวะยุ่งยาก ความบาปเป็นเหตุให้เรารบกวนประสาทซึ่งกันและกัน เกิดความโกรธเคืองกัน   แม้เราจะโต้แย้งและต่อสู้กับผู้อื่น แต่เรารักพ่อ แม่ และพี่น้องของเรา พระเจ้าทรงประทานกฎต่างๆ เพื่อชีวิตของเรา ถ้าเราปฏิบัติตามกฎของพระองค์ เราจะสามารถไปด้วยกันได้

ข้อความสำคัญ    อยู่มาคาอินเอาพืชผลที่เก็บเกี่ยวมาถวายพระเจ้า ครั้นต่อมาอาแบลก็นำแกะตัวผู้หัวปีจากฝูงของเขามาฆ่า แล้วเอาส่วนที่ดีที่สุดมาถวายบูชาแด่พระเจ้า พระเจ้าพอพระทัยอาแบล และเครื่องบูชาของเขา แต่พระองค์ไม่ทรงรับเครื่องบูชาของคาอิน คาอินก็โกรธหน้าตาบึ้งตึง พระเจ้าจึงทรงรับสั่งถามคาอินว่า “เหตุใดจึงโกรธขึ้งหน้าบึ้งหน้างอ ถ้าเจ้าทำดีแล้วก็จงยิ้มซิ แต่ที่เจ้าทำนั้นชั่ว ความบาปจะเป็นเหมือนสัตว์ป่า คอยจ้องตะครุบเจ้า มันอยากจะเข้าครอบงำเจ้า แต่เจ้าจะต้องเอาชนะมันให้ได้ (ปฐมกาล 4:3-7)

พระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง 
ปฐมกาล 4:8 8 ​กา​อิน​พูด​กับ​อา​แบล​น้อง​ชาย​ว่า “เรา​จง​ไป​ใน​ทุ่งนา​กัน​เถิด”4 ขณะที่​ทั้ง​สอง​คน​อยู่​ใน​ทุ่งนา กา​อิน​ก็​ลงมือ​ทำร้าย​อา​แบล​น้อง​ชาย​และ​ฆ่า​เสีย
ยากอบ 4:1 การ​ต่อสู้​และ​การ​ทะเลาะวิวาท​ใน​หมู่​ท่าน​นั้น​มา​จาก​ที่ใด มิใช่​มา​จาก​กิเลส​ตัณหา​ซึ่ง​ต่อสู้​อยู่​ภายใน​ร่างกาย​ของ​ท่าน​หรือ
kamsonbkk.com

“ถ้าอวัยวะอันหนึ่งเจ็บ อวัยวะทั้งหมดก็พลอยเจ็บด้วย ถ้าอวัยวะอันหนึ่งได้รับเกียรติอวัยวะทั้งหมดก็พลอยชื่นชมยินดีด้วย” (1 โครินธ์ 12:26)

ครอบครัวที่แตกแยก พี่น้องไม่รักสามัคคีกัน เห็นคนอื่นดีกว่าแต่ยามตนมีทุกข์กลับเรียกหาพี่น้อง นั่นก็เพราะต่างคนต่างเอาตนเองเป็นใหญ่ ต่างคิดว่าตนถูกโดยไม่ได้หันมองดูว่าพระเจ้าต้องการอะไรในครอบครัวของพระองค์ เพราะเราต่างก็ไม่ได้รู้สึกว่าเราเป็นกายอันเดียวกัน เราจึงละเลยต่อการเอาใจใส่พระกายของพระคริสต์(คือพวกเราเอง) เราเอาเรื่องของอารมณ์มาเป็นใหญ่กว่าที่จะใส่ใจว่าพระวจนะของพระเจ้ากล่าวอย่างไรบ้าง มารยั่วยุให้(พี่น้อง)เกิดการหมางใจกัน ก็เหมือนที่มันเคยทำกับคาอินและอาเบล แม้ว่าอาเบลไม่ได้ทำผิดอะไรต่อคาอินแต่คาอินก็อิจฉาน้องและฆ่าน้อง แม้พระเจ้าจะเตือนคาอินแล้วว่าให้เอาชนะบาปนั้นให้ได้เพราะมันหมอบรอที่ตะครุบคาอินอยู่ที่ประตู แต่คาอินก็ยังดึงดันเอาตัวเองเป็นใหญ่ ในที่สุดเขาก็ทำบาปหนักหนาด้วยการ(ฆ่าน้อง)ตาย

ความอิจฉา เกิดขึ้นเพราะคาอินเอาความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ เมื่อเขาทำผิดเขาควรจะมองดูที่(ตัวของเขาเองว่าผิดอะไร)และคิดแก้ไขให้ถูกต้อง แต่ความรักตัวเองแบบผิด ๆ การเอาแต่ใจตัวเองเป็นใหญ่ทำให้คาอินมองท่อนไม้ในตาตัวเองไม่เห็น เมื่อเขามองไปที่น้อง แม้น้องไม่ผิดเลยแม้แต่น้อยเขาก็เห็นว่าน้องเป็นตัวการทำให้เขาไม่ได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า เราต้องระวังเชื้อที่มารหว่านลงในใจของคาอิน ระวังอย่าให้มันเข้ามาใกล้ใจของเราเด็ดขาด

การอยู่ร่วมกันฉันท์พี่น้องเป็นภาพที่เมื่อพ่อแม่มองดูแล้วก็ชื่นหัวใจ เช่นเดียวกันกับเมื่อพระเจ้ามองดูครอบครัวของพระองค์และเห็นพวกเราสมัครสมานสามัคคีรักเอ็นดูห่วงใยกัน พ่อแม่จะไม่ดีใจเลยถ้าเขามีลูกล้วนแต่เป็นคนเก่ง ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแต่ทะเลาะ แข่งขัน ชิงดีชิงเด่นกัน ไม่มีใครยอมใคร ความสุขของพ่อแม่ก็อยู่กับการที่เขามีลูก ๆ ที่รักกันและเป็นคนดี

พระคัมภีร์สอนเราให้ “จงไวต่อความต้องการของคนอื่น” ความรักกันฉันท์พี่น้องจะหมดไปจากครอบครัวไม่ได้ เพราะนั่นคือสง่าราศีของครอบครัวคริสตชน เมื่อคนทั้งหลายมองมาในครอบครัวรเขาเห็นความอบอุ่น เห็นความรัก เห็นการอภัย แม้พวกเราจะยังไม่ใช่ครอบครัวที่มีชีวิตที่ “ดีพร้อมทุกอย่าง” คนก็ยังอยากจะมาเข้าร่วมกับเรา เพราะเขากระหายหาความอบอุ่นจริงใจอย่างที่พวกเรามี

พี่น้องที่รักให้เรามองดูพี่น้องของเราด้วยสายตาอย่างพระคริสต์ ปัญญาจารย์ 4:9-10 กล่าวว่า 9“สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดี 10ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง อีกคนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีผู้อื่นพะยุงยกเขาให้ลุกขึ้น” อย่าทำตัวเป็นคนโดดเดี่ยว หรือคนสันโดษ แต่จงแสดงความเชื่อฟังพระคริสต์ด้วยการรักพี่น้องในครอบครัวพระคริสต์อย่างจริงใจ เพราะคนเดียวเราจะไม่ถูกเรียกว่าเป็นครอบครัว แต่รวมกันเขาจะเรียกเราว่า “ครอบครัว” และความงดงามของครอบครัวคือความรักกันฉันท์พี่น้องไม่ใช่ที่สิ่งของนอกกาย
เจิม ซัม

พี่น้องไม่รักกันสักที แต่ไปดีกับคนอื่น
นอกจากไม่รักกันแล้ว ยังอิจฉาริษยา ก้าวร้าว ทะเลาะกันเมื่อโตขึ้น แต่จะไปทำดีกับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องของตัวเอง บางครอบครัวถึงขั้นทะเลาะวิวาทแทบจะฆ่ากัน เพราะต่างไม่ชอบกัน หรือแย่งมรดกกัน ใครเป็นพ่อแม่แม้ตายไปแล้ว ถ้ารู้เข้าก็ไม่สบายใจแน่ๆ เพราะพ่อแม่ก็หวังว่าลูกๆ จะรักกัน พ่อแม่จะได้มีความสุข


สาเหตุที่พี่น้องไม่รักกัน
1.มีการแข่งขันชิงดี ชิงเด่นกันเองตามธรรมชาติ ภาษาทางจิตเวชเขาเรียก Sibling Rivalry แม้เด็กจะมาจากพ่อแม่เดียวกัน แต่ก็อดจะเปรียบเทียบกันเองไม่ได้ ทั้งรูปร่าง หน้าตา สรีระ ความฉลาด ปมเด่น ปมด้อย การได้ความรักจากพ่อแม่ เมื่อเปรียบเทียบแล้วก็แข่งกันเองด้วย  สิ่งนี้ถ้ามีน้อยๆ ก็ไม่เป็นไร พ่อแม่เข้าใจก็หาทางให้พี่น้องปรองดองกันเสีย ด้วยวิธีการชมหรือตำหนิอย่างเหมาะสม ถ้าพ่อแม่ทำไม่เหมาะสมจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันรุนแรงขึ้น

2.พ่อแม่อบรมลูกไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเวลาดุตักเตือนและชมเชยลูก ถ้าพ่อแม่ดุตำหนิลูกคนหนึ่งต่อหน้าคนอื่นๆ คนถูกดุก็เสียเครดิต คนอื่นก็ไม่เกรงใจ ถ้าชมลูกคนหนึ่ง คนใด บ่อยๆ ต่อหน้าคนอื่นๆ คนที่ถูกชมก็จะเกิดอีโก้สูง คนอื่นก็จะอิจฉาและหมั่นไส้ได้ง่ายๆ

3.โหยหาความรัก จึงไปทำดีกับคนอื่น พบได้บ่อยๆ ที่เด็กในครอบครัวขาดความรักเพราะพ่อแม่ไม่ชมหรือเอาแต่ดุตักเตือน เด็กจึงไม่รักกันและไปทำดีกับคนอื่นนอกครอบครัว เพื่อให้ได้รับความรักและความสนใจ

 4.เกิดภาวะการเมืองในครอบครัว พี่น้องแบ่งพวกกันเอง เข้าข้างกันเอง เพื่อผลประโยชน์ทางมรดกหรือสมบัติ ลูกบางคนจะดีกับอีกคน เกาะกลุ่มกัน ตั้งข้อโต้แย้งเป็นศัตรูกับอีกกลุ่มหนึ่ง เกิดการทะเลาะรุนแรงเพราะหวังผลประโยชน์ทางมรดก บางครอบครัวถึงขั้นฆ่าหรือทำลายกันก็มี

5.ขาดความรักในใจ พี่น้องทั้งหมดขาดวามรักในใจ เพราะไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่มาก่อน ไม่รู้จักการให้ความรักคนอื่น หรือให้กับพี่น้องตัวเอง แต่อยากได้รับความรักจากคนอื่นและจากพี่น้องของตน พี่น้องกันเองก็ยังให้ความรักกันไม่เป็น ให้ไม่ได้เพราะขาดความรักมาก่อนเช่นกัน จึงมีแต่ความก้าวร้าวห่างเหิน แบ่งพวก อีกหลายๆ คนก็หันไปหาความรักจากคนอื่นนอกครอบครัว แต่ก็ทำได้ไม่นานหรอก เพราะจะเรียกร้องความรักจากเขาแบบไม่รู้จักพอ จึงมักโกรธน้อยใจ หรือเลิกคบกันไป บางคนหันไปทำบุญ สร้างสิ่งสาธารณประโยชน์ เพื่อหวังได้บุญและการยกย่องจากสังคม แต่ถ้ามองนิสัยจริงๆ แล้วก็ยังกระด้าง มีเงื่อนไขมากและเรียกร้องความรักความสนใจจากสังคมมากอยู่ดี มักจะทำเหมือนคนใจบุญ แต่จะขี้เหนียวกับคนใกล้ตัวและพี่น้อง

6.มีความเศร้าและรู้สึกผิดที่เกิดมาเป็นคน เข้าข่าย Existential Guilt คือความคิดว่าเกิดมาทำไม ไม่น่าเกิดมาเลย ไม่เห็นดี ไม่มีความสุขเลย ต้องอยู่กับพ่อแม่ที่ไม่รักเขา อยู่กับพี่น้องที่ไม่รักกัน เขาจะคิดมาก คิดไปเอง มักโทษตัวเองและโทษคนรอบตัว บางคนเศร้ามากถึงขั้นอยากตาย  แต่บางคนอาจจะแสดงออกทางด้านความก้าวร้าว หรืออยากทำบุญ ทำทานมากๆ หวังจะได้ไปเกิดใหม่ให้ดีๆ หรือทำดีกับคนอื่นให้มากๆ แต่ก็ไม่รักกันเองในกลุ่มพี่น้อง มีหลายคนทุกข์จากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่บางคนปรับตัวได้ ไม่เดือดร้อนอะไรนัก
หมอวิทยา



ถ้าคุณกำลังทุกข์เพราะคนในครอบครัว มีคำหนุนใจแนะนำว่า

1.จงเข้าใจและยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมของตัวเอง
ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราทั้งหลายเช่นนี้ เราก็ควรจะรักซึ่งกันและกันด้วย 1 ยอห์น 4:11

2.ประคองตัวเองให้ทำดีให้มากที่สุดต่อไป อย่าไปเกี่ยงว่าต้องให้พี่น้องคนอื่นทำดีด้วย ซึ่งเขาอาจไม่ได้ทำเลยก็ได้ เป็นเรื่องของเขา บาปกรรมของเขาเราอย่าไปเอามาเป็นทุกข์
คริสเตียนมีความรักและสามัคคีธรรมซึ่งกันและกันจงให้ความรักปราศจากมารยา จงเกลียดชังสิ่งที่ชั่ว จงยึดมั่นในสิ่งที่ดี โรม 12:9

3.ถ้ามีโอกาสให้สร้างมิตรภาพและความรักกับพี่น้องให้มากขึ้น แม้เขาจะไม่ทำกับเราก็ตาม
จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน และถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกันก็จงยกโทษให้กันและกัน พระคริสต์ได้ทรงโปรดยกโทษให้ท่านฉันใด ท่านจงกระทำอย่างนั้นเหมือนกัน แล้วจงสวมความรักทับสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด เพราะความรักย่อมผูกพันทุกสิ่งไว้ให้ถึงซึ่งความสมบูรณ์ โคโลสี 3:13, 14

4.ตัวเองต้องลดทิฐิลง เปิดใจกว้างก่อน ทำความดีและสร้างมิตรกับพี่ๆ น้องๆ ไปเรื่อยๆเถิด ได้ผลแค่ไหนก็แค่นั้น ถือว่าเก่งมาก ดีใจแล้ว
เราให้บัญญัติใหม่ไว้แก่เจ้าทั้งหลายคือให้เจ้ารักซึ่งกันและกัน เรารักเจ้าทั้งหลายมาแล้วอย่างไร เจ้าจงรักกันและกันด้วยอย่างนั้น ยอห์น 13:34

และขอให้ยอมรับสภาพความเป็นไปดังกล่าวด้วย ในชีวิตมนุษย์ก็เป็นเช่นนี้เอง  รู้แล้วอย่าตกใจ ยอมรับเสียเกิด ก็จะไม่ทุกข์นาน
(พระบัญญัตินี้เราทั้งหลายก็ได้มาจากพระองค์ คือว่าให้คนที่รักพระเจ้านั้นรักพี่น้องของตนด้วย 1 ยอห์น 4:21)


การให้อภัยความผิด
(21)เปโตรเข้ามาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพี่น้องทำผิดต่อข้าพเจ้า ข้าพเจ้าต้องยกโทษให้เขาสักกี่ครั้ง ถึงเจ็ดครั้งหรือไม่” (22) พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราไม่ได้บอกท่านว่าต้องยกโทษให้เจ็ดครั้ง แต่ต้องยกโทษให้เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง”

ดังนั้นหากเราสามารถทำได้ตามคำสอนนี้ ใจเราก็เกิดสุข 
ขอพระเจ้าอวยพรพี่น้องที่รักทุกท่าน


“ผลของพระจิตเจ้าก็คือความรัก ความชื่นชม ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง” (กท 5:22-23)


พระเยซูเจ้าทรงสอนว่า “ขณะที่ท่านนำเครื่องบูชาไปถวายยังพระแท่น ถ้าระลึกได้ว่าพี่น้องของท่านมีข้อบาดหมางกับท่านแล้ว จงวางเครื่องบูชาไว้หน้าพระแท่น กลับไปคืนดีกับพี่น้องเสียก่อน แล้วจึงค่อยกลับมาถวายเครื่องบูชานั้น” (มธ 5:23-24)

KC Love God

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...