การเป็นคริสตชนที่มีความสุข
จงสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า
ความสุขมีแก่ผู้ที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า
ผู้ที่ปีติยินดีในพระบัญชาของพระองค์
สดุดี112:1
คุณกำลังแสวงหาความสุข ความอุดมสมบูรณ์ และความพึงพอใจใช่หรือไม่? ถ้าใช่ นี่คือสิ่งที่คุณควรทำ: รักพระเจ้าและพระบุตรของพระองค์ พึ่งพาพระเจ้าเพื่อความเข้มแข็ง
พยายามสุดความสามารถเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า
และพยายามเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์ เมื่อคุณทำสิ่งเหล่านี้ คุณจะค้นพบความสุขที่ควบคู่ไปกับความชอบธรรม คนที่มีความสุขที่สุดไม่ใช่คนกบฏต่อพระเจ้า แต่คนที่มีความสุขที่สุดคือคนที่รักพระเจ้าและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์
คุณจะไม่มีวันพอใจเพราะมีสิ่งของมากมาย ดังนั้นจงเรียนรู้ที่จะเพียงพอ
และจงมีใจขอบพระคุณพระเจ้าในสิ่งที่พระองค์ทรงเป็นเพื่อคุณ เมื่อคุณต้องเริ่มต้นการเดินทางของชีวิตในขั้นต่อไป
อย่าลืมฉลองชีวิตที่พระเจ้ามอบให้คุณ พระองค์เป็นพระผู้สร้างผู้มอบพระพรที่เกินขอบเขตให้คุณอยู่เสมอ
จงขอบพระคุณพระเจ้า ให้เกียรติพระองค์ด้วยการอธิษฐาน คำพูด การกระทำ และความชื่นชมยินดีของคุณ
คุณจะเป็นคริสตชนที่มีความสุขอย่างแท้จริงได้อย่างไร?
คุณต้องมุ่งเน้นไปที่การอธิษฐานและการศึกษาพระวจนะของพระเจ้า หากคุณต้องการพบความสุขที่แท้จริง
คุณจะต้องจัดลำดับความสำคัญของการอธิษฐานและการอ่านพระวจนะของพระเจ้าเป็นสิ่งแรก
หากคุณเชื่อมต่อกับพระเจ้า คุณจะมีความสุขและพึงพอใจอย่างแท้จริง การรู้จักพระเจ้า
การศึกษาพระวจนะของพระองค์และการมีใจที่รู้ขอบพระคุณ จะช่วยเยียวยาปัญหามากมายที่เราเผชิญอยู่
10 วิธี ที่จะช่วยให้คุณเป็นคริสตชนมีความสุข
1) หยุดอยู่กับอดีต “ความขมขื่นก็เหมือนกับการดื่มยาพิษและรอให้อีกฝ่ายตาย”
โจแอนนา วีเวอร์ได้กล่าวไว้. การหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่คุณเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีแต่จะทำให้คุณแย่ลง
ไม่ว่าอดีตของคุณจะหลอกหลอนคุณ หรือถ้าคุณคิดถึง "วันเก่าๆ" ขอให้ลืมสิ่งที่ผ่านไปแล้วและใช้ชีวิตกับสิ่งที่พระเจ้ามีให้คุณในปัจจุบันแทน
2) เปลี่ยนมุมมองของคุณ พระคุณหรือความเมตตา
ทั้งหมดนี้เป็นของขวัญที่สวยงามทั้งที่เราไม่สมควรที่จะได้รับ และถ้าคุณเข้าใจสิ่งนี้แล้วเปลี่ยนมุมมองของตัวเอง
คุณจะมีความสุขเพิ่มขึ้น
3) ลดความคาดหวังของคุณ ทุกคนเกิดมามีต้นทุนชีวิตที่ไม่เหมือนกัน
มีบ้างบางครั้ง ที่เรามองไปยังชีวิตคนอื่นแล้วเกิดความรู้สึกแย่กับตัวเอง คุณรู้หรือไม่ ถึงชีวิตเราจะดีพร้อมอยู่แล้ว แต่ถ้าหากยังมีความคาดหวังที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ
และไม่ยอมปล่อยวาง ระยะห่างระหว่าง ความสุข กับ ความต้องการ
ก็จะยังคงมากเกินไปอยู่ดี เพราะฉะนั้นลองมาลด ความรู้สึกแย่ในใจ ด้วยวิธี ปล่อยวาง และ มีความสุขกับชีวิตที่พระเจ้ามอบให้ จะดีกว่ามั้ย ?
4) ใช้เวลากับพระเจ้าทุกวัน แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้เวลากับพระเจ้าเป็นประจำผ่านการอธิษฐานและการอ่านพระคัมภีร์ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าความคาดหวังที่อยากจะพบกับความสุขอันมากมายนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
5) ดูแลร่างกายของคุณ ด้วยการนอนหลับให้เต็มอิ่ม ทานวิตามินรวมเสริม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารให้ครบทุกหมู่ คุณจะเริ่มประหลาดใจว่าการดูแลร่างกายย่างเหมาะสมมันได้ส่งผลต่อความเป็นอยู่ฝ่ายวิญญาณของคุณได้ดีเพียงใด
6) เติบโตในความกตัญญู(การมีใจขอบพระคุณพระเจ้าในทุกสิ่ง) จอห์น ไพเพอร์ เคยกล่าวไว้ เรามักจะพลาดพระพรของพระเจ้าเพราะตัวเราไม่เคยหยุดที่จะรับรู้และขอบพระคุณ คนส่วนใหญ่มักหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ตนไม่มีจนไม่เคยรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่ตนมี นับจากนี้ให้คุณตั้งใจมากขึ้นในการอธิษฐานหรือบางทีคุณอาจทำสมุด
"บันทึกการขอบคุณ" ที่คุณสามารถเขียนสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณไม่ว่าคุณจะทำอะไร คุณต้องเรียนรู้ที่จะเติบโตด้วยการมีหัวใจที่รู้ขอบพระคุณเพื่อคุณจะได้สัมผัสกับความสุขแท้จริง
7) ทำหน้าที่ประกาศข่าวดี นำคนอื่นมารู้จักกับพระคริสต์ เมื่อทำได้ คุณจะได้เห็นใบหน้าของพวกเขาเปล่งประกายด้วยความสุข
8) คิดถึงตัวเองให้น้อยลง การหมกมุ่นอยู่กับตัวเองเป็นหนทางสู่ความทุกข์อย่างรวดเร็ว
ในขณะที่การรับใช้และการคิดถึงผู้อื่นก่อนตัวเองจะนำไปสู่ความสุข
9) รับใช้ชุมชน/คริสตจักร/วัดของคุณ คุณถูกสร้างมาให้อยู่ในชุมชน
ชีวิตคริสตชนจึงไม่ใช่แค่ “คุณกับพระเยซู” เมื่อรู้จักรับใช้
และเสียสละ คุณจะพบว่าตัวเองมีความสุขมากขึ้นเมื่อคุณอุทิศชีวิตให้กับบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวคุณเอง
10) หยุดการเปรียบเทียบ หากการขอบพระคุณเป็นหัวหน้าของความปิติ
การเปรียบเทียบก็คือขโมยของความปิติยินดีไม่มีอะไรจะมาขโมยความสุขของคุณ
(หรือเพิ่มความภูมิใจของคุณ) ได้เร็วไปกว่าการเปรียบเทียบชีวิตของคุณกับคนอื่น
ความอิจฉาเกิดขึ้นเมื่อคุณเริ่มสังเกตว่าพระเจ้าอวยพรคนอื่นอย่างไร แต่กลับลืมไปว่าพระเจ้าอวยพรคุณอย่างไร
ไม่มีใครมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมแท้จริงอย่างที่พวกเขาพรรณนาไว้บนโลกออนไลน์หรอก (ดังนั้นไม่ต้องไปอิจฉาเขา)
มีวิธีอีกมากมายและมีทรัพยากรอีกมากมายที่สามารถชี้นำให้คุณไปสู่ความสุขได้ และด้วยพระคุณของพระเจ้า
พระองค์สามารถทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นสำหรับพระสิริของพระองค์ “พระเจ้าสามารถทำให้คุณมีความสุขได้ในทุกสถานการณ์
ไม่มีอะไรที่พระองค์ทำไม่ได้”
1ความสุขมีแก่ผู้ที่วิถีทางของเขาไร้ที่ติ
ผู้ซึ่งประพฤติตามบทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้า
2ความสุขมีแก่ผู้ที่รักษากฎเกณฑ์ของพระองค์
และแสวงหาพระองค์หมดทั้งใจ
สดุดี119:1-2
หากพวกเขาเชื่อฟังและปรนนิบัติพระเจ้า
พวกเขาจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความเจริญรุ่งเรือง
และปีเดือนของพวกเขาจะเป็นที่อิ่มเอมใจ
โยบ 36:11
ผู้ที่ใส่ใจในคำสั่งสอนจะเจริญ
ผู้ที่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับพร
สุภาษิต 16:20
ความสุขมีแก่ผู้ที่กำลังของเขาอยู่ในพระองค์
ผู้ซึ่งใฝ่ใจมุ่งหน้าไปยังเยรูซาเล็ม
สดุดี 84:5
พระคริสต์ทรงเป็นแหล่งกำเนิด แก่นสาร ศูนย์กลาง
และวงรอบของความยินดีที่แท้จริงและความยั่งยืนทั้งหมด
ชาร์ลส
ใจที่เบิกบานเป็นเหมือนแสงตะวันแห่งความรักของพระเจ้า-
ความหวังแห่งความสุขนิรันดร์- เปลวไฟแห่งพระเจ้า...และถ้าเราอธิษฐาน
เราจะกลายเป็นแสงตะวันแห่งความรักของพระเจ้า ในบ้านของเราเอง ในที่ที่เราอาศัยอยู่
และในโลกนี้ด้วย
แม่ชีเทเรซา
เมื่อเรานำแสงแดด(ความรักความอบอุ่น)เข้ามาในชีวิตของผู้อื่น เราก็จะได้รับความอบอุ่นนั้นไปด้วย
เมื่อเราเติมความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้กับผู้อื่น
เราก็พลอยมีความสุขไปด้วย
บาร์บาร่า
เมื่อเราทำสิ่งที่ถูกต้อง เราก็มีความพอใจ สันติสุข และความสุข
เบเวอร์ลี่
คำอธิษฐานประจำวันนี้
ข้าแต่พระเจ้าที่รัก พระองค์ทรงเป็นกำลังและความสุขของลูก ลูกจะเปรมปรีดิ์และชื่นชมยินดีในวันที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นนี้
และลูกจะขอบพระคุณสำหรับพระพรอันนับไม่ถ้วนที่ทรงประทานแก่ลูกตลอดมา ขอให้ลูกเป็นคริสตชนที่ร่าเริง
ลูกจะขอทำหน้าที่แบ่งปันข่าวประเสริฐของพระบุตรของพระองค์ ลูกขอสรรเสริญพระองค์สำหรับการอัศจรรย์ทั้งปวงที่ทรงกระทำเพื่อลูกและครอบครัวเสมอมา
ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจจาก
100
Days of Praising God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น