ให้เวลากับพระเจ้า
11อย่าขาดความกระตือรือร้น
แต่จงรักษาความร้อนรนฝ่ายจิตวิญญาณของท่านไว้และรับใช้องค์พระผู้เป็นเจ้า
12จงชื่นชมยินดีในความหวัง อดทนต่อความทุกข์ยากและสัตย์ซื่อในการอธิษฐาน
โรม 12:11-12
ชีวิตที่วุ่นวายได้ปล้นเอาความสงบสุขที่อาจเป็นของคุณผ่านทางพระเยซูคริสต์ไปใช่หรือไม่? ถ้าใช่ แสดงว่าคุณยุ่งเกินไปที่จะมารับสิทธิประโยชน์ที่เป็นของคุณเอง พระเจ้าทรงประทานสันติสุขที่เกินความเข้าใจของมนุษย์ผ่านทางพระเยซู
พระบุตรของพระองค์ แต่พระองค์จะไม่ทรงบังคับสันติสุขนั้นให้กับคุณหากคุณไม่เรียกร้องในการใช้สิทธินั้น
เพื่อจะได้สัมผัส คุณต้องทำตัวเองให้ว่างและมีเวลามากพอที่จะสัมผัสถึงการประทับอยู่ของพระองค์และความรักของพระองค์
ทุกช่วงเวลาเช้าเป็นช่วงที่เรามีศักยภาพที่จะคิดอย่างสร้างสรรค์หรือใช้เวลากับพระเจ้าเพื่ออธิษฐานจากใจจริง ดังนั้นแม้ว่าคุณจะเป็นหนึ่งในคนที่มีตารางเวลาชีวิตที่วุ่นวาย
และมีเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่จะทำทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วงได้
อย่ากังวลใจ แต่จงสบายใจในความรู้ที่ว่าเมื่อคุณพยายามค้นหาพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตคุณอย่างจริงใจ
ก่อนสิ่งอื่นใด พระองค์จะตอบสนองด้วยวิธีที่น่าอัศจรรย์และน่าประหลาดใจ จำไว้ว่านี่คือวันที่พระองค์ทรงสร้างและเติมเต็มด้วยโอกาสมากมายที่คุณจะสามารถรัก
รับใช้ และแสวงหาการนำทาง จงคว้าโอกาสเหล่านั้นตั้งแต่วันนี้
และคว้าโอกาสเหล่านั้นในทุกวันที่คุณยังมีลมหายใจอยู่
สุภาษิต21:5
แผนงานของคนขยันนำมาซึ่งผลกำไร
เช่นเดียวกับที่ความรีบร้อนนำมาซึ่งความขัดสน
โรม 13:10-11
10ความรักไม่ทำร้ายเพื่อนบ้านของตน
ฉะนั้นการมีความรักจึงเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติอย่างครบถ้วนแล้ว
11และจงทำอย่างนี้ด้วยเข้าใจว่าปัจจุบันเป็นเวลาอะไร ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะตื่นจากหลับเพราะบัดนี้ความรอดของเราใกล้เข้ามามากยิ่งกว่าเมื่อเราแรกเชื่อ
ยอห์น 8:23-24
23แต่พระองค์ตรัสต่อไปว่า “พวกท่านมาจากเบื้องล่าง เรามาจากเบื้องบน
ท่านเป็นของโลกนี้ เราไม่ได้เป็นของโลกนี้ 24เราบอกแล้วว่าท่านจะตายในบาปของท่าน
ถ้าท่านไม่เชื่อว่าเราเป็นผู้นั้น ท่านจะตายในบาปของท่านอย่างแน่นอน”
การทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จนั้นไม่สำคัญเท่ากับการใช้เวลาเพื่อแสวงหาความรักและพระประสงค์ของพระเจ้า
เจเน็ต โอเค
ความต้องการของทุกวันทำให้เรามีงานยุ่งมากจนเราเอางานยุ่งๆของเรามาเทียบเคียงกับคำมั่นสัญญาในพระคริสต์โดยที่เราไม่รู้ตัว
โวเนต ไบรท์
ทำไมการจัดเวลาให้พระเจ้าจึงสำคัญ?
ทุกความสัมพันธ์ต้องใช้เวลา ความสัมพันธ์กับพระเจ้า
แม้จะแตกต่างจากความสัมพันธ์อื่นๆ ในหลาย ๆ ด้าน
แต่ก็ยังทำตามกฎของความสัมพันธ์อื่นๆ
พระคัมภีร์เต็มไปด้วยการเปรียบเทียบเพื่อช่วยให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า
ตัวอย่างเช่น พระคริสต์ถูกพรรณนาว่าเป็นเจ้าบ่าว
และศาสนจักรถูกพรรณนาว่าเป็นเจ้าสาว การแต่งงานคือสองชีวิตรวมกันเป็นหนึ่งเดียว
(ปฐมกาล 2:24) ความสนิทสนมดังกล่าวเกี่ยวข้องกับเวลาที่อยู่ด้วยกันตามลำพัง
อีกความสัมพันธ์หนึ่งคือความสัมพันธ์ของพ่อและลูก ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองที่ใกล้ชิดคือความสัมพันธ์ที่เด็กและผู้ปกครองมีเวลาพิเศษร่วมกัน
การใช้เวลาตามลำพังกับคนที่คุณรักเปิดโอกาสให้ได้รู้จักบุคคลนั้นอย่างแท้จริง การใช้เวลาตามลำพังกับพระเจ้าก็ไม่ต่างกัน
เมื่อเราอยู่กับพระเจ้าตามลำพัง เราจะใกล้ชิดพระองค์มากขึ้นและทำความรู้จักพระองค์ในวิธีที่ต่างไปจากที่เราทำในกลุ่ม
การใช้เวลาตามลำพังกับพระเจ้าช่วยขจัดความฟุ้งซ่านของเรา
เพื่อให้เราสามารถจดจ่อที่พระองค์และได้ยินพระคำของพระองค์ โดยอยู่ในพระองค์
กุญแจสำคัญในการใช้เวลากับพระเจ้าคือการอ่านและศึกษาพระคำของพระองค์
การอธิษฐาน การแบ่งปันว่าพระเจ้าตรัสกับคุณอย่างไรกับเพื่อนๆของคุณและดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า
โดยการเป็นพรแก่ผู้อื่น
คำอธิษฐานประจำวันนี้
ข้าแต่พระบิดาที่รัก พระองค์ทรงเป็นศิลาของลูก ลูกขอสรรเสริญพระองค์สำหรับพระพรของพระองค์
ลูกยอมรับว่าบางครั้ง ลูกเองก็ฟุ้งซ่านอยู่กับความยุ่งวุ่นวายของชีวิตในแต่ละวันหรือบางครั้งก็จมอยู่กับความต้องการของช่วงเวลานั้นๆ
หากลูกวิตกหรือกังวลใจ โปรดช่วยให้ลูกหันกลับมาหาพระองค์
โปรดช่วยให้ลูกวางใจในพระองค์ และปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ และยอมรับสันติสุขของพระองค์ทั้งในวันนี้และตลอดไป
ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจจาก
100
Days of Praising God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น