จงฟังเสียงของพระเจ้า

 

จงฟังเสียงของพระเจ้า

ผู้ที่เป็นคนของพระเจ้าย่อมรับฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัส เหตุที่พวกท่านไม่ยอมรับฟังก็เพราะพวกท่านไม่ได้เป็นของพระเจ้า”

ยอห์น8:47

บางครั้งพระเจ้าก็แสดงความประสงค์ของพระองค์ในแบบที่เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ในบางโอกาสพระหัตถ์ของพระองค์ก็ทรงอ่อนโยนต่อเรามากเช่นกัน หลายครั้งพระเจ้าก็ตรัสกับเราด้วยน้ำเสียงที่เงียบสงบ และเมื่อพระองค์ตรัส เราก็ควรฟัง...อย่างระมัดระวัง

คุณเคยใช้เวลาในแต่ละวันเป็นพิเศษกับการอธิษฐานบ้างหรือไม่? และในช่วงเวลาอันมีค่าเหล่านั้น คุณได้เปิดใจให้กับพระผู้สร้างของคุณอย่างจริงใจหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น แสดงว่าคุณฉลาดและได้รับพรแล้ว

โลกอาจเป็นที่ที่มีเสียงดัง เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวน สิ่งล่อลวง และมีความผิดหวังมากมายคอยรบกวนคุณอยู่ และถ้าคุณไม่ทันระวัง การดิ้นรนและความเครียดในการใช้ชีวิตประจำวันก็สามารถขโมยเอาสันติสุขที่ควรเป็นของคุณไปได้ สันติสุขที่เกิดจากความสัมพันธ์ส่วนตัวของคุณกับพระคริสต์ ดังนั้นจงใช้เวลาในแต่ละวันเพื่อสื่อสารกับพระผู้ช่วยให้รอดอย่างเงียบๆ เมื่อคุณทำเช่นนั้น คุณจะพบกับพระหัตถ์อันอ่อนโยนของพระเจ้า และถ้าคุณฉลาด คุณจะปล่อยให้พระหัตถ์ของพระองค์นำทางคุณไปตามเส้นทางที่พระองค์ได้ทรงเลือกไว้

เราจะตั้งใจฟังพระเจ้าอย่างตั้งใจอย่างไร?

พระเจ้าอาจพยายามดึงความสนใจของเรา แต่เรามุ่งความสนใจไปที่สิ่งอื่นมากกว่า เราเร่งความเร็วไปกับสิ่งต่างๆรอบตัว จนไม่มีเวลาเงียบสงบเพื่อฟังเสียงพระเจ้า เราควรลดความเร็วของเราลงให้มากพอ ลองสงบสติอารมณ์ของตัวเองลงเพื่อที่เราจะได้ใช้เวลากับพระเจ้ามากขึ้น  เมื่อเรามีช่วงเวลาที่สงบเงียบเราก็จะได้ยิน และเราจะเข้าใจในสิ่งที่พระองค์กำลังบอกกับเรา

การอ่านและการฟังพระวจนะของพระเจ้าเป็นประจำและสม่ำเสมอมีประโยชน์หลายประการ ประการแรก พระคัมภีร์แสดงให้เราเห็นถึงพระลักษณะของพระเจ้าและประทานการเปิดเผยของพระองค์แก่ประชากรของพระองค์  ในแต่ละตอนของพระคัมภีร์ เราจะเห็นพระลักษณะของพระเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ ไม่เปลี่ยนแปลง ทรงสัตย์ซื่อ สง่างาม และมีความรักของพระเจ้าอยู่ในนั้นเสมอ

การศึกษาพระคำของพระเจ้า ช่วยให้เราทำตามแบบอย่างของพระเยซูในทุกสิ่ง พระคำของพระเจ้าช่วยชี้นำเราด้วยปัญญา พระคำของพระเจ้าให้กำลังใจที่จำเป็น พระคำของพระเจ้าทำให้เรามีความรับผิดชอบ พระคำของพระเจ้าช่วยเปลี่ยนครอบครัว สถานที่ทำงาน และชุมชนของเราให้น่าอยู่ขึ้น

 

“เกาะทั้งหลายเอ๋ย จงเงียบและฟังเรา!

ให้ประชาชาติต่างๆ ฟื้นกำลังขึ้นใหม่!

ให้พวกเขาก้าวออกมาพูดข้างหน้านี้

ให้เรามาพบกันในสถานพิพากษา

อิสยาห์ 41:1

คนที่ปิดหูไม่ยอมฟังคำสั่งสอน

แม้แต่คำอธิษฐานของเขาก็น่าชิงชัง

สุภาษิต 28:9

5จงวางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างหมดใจ

อย่าพึ่งความเข้าใจของตนเอง

6จงยอมรับพระองค์ในทุกวิถีทางของเจ้า

แล้วพระองค์จะทรงทำทางของเจ้าให้ราบเรียบ

สุภาษิต3:5-6

พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านคือผู้ที่ท่านต้องติดตามและยำเกรง จงปฏิบัติตามพระบัญชาและเชื่อฟังพระองค์ จงปรนนิบัติและยึดมั่นในพระองค์

เฉลยธรรมบัญญัติ 13:4

 

เมื่อฉันวิ่งไปเรื่อย ๆ คุณจะไม่มีเวลาสำหรับการฟัง

แมเดลีน

เมื่อเราเข้าหาพระเยซูโดยปราศจากการเสแสร้ง ด้วยจิตวิญญาณที่ร้อนรน และพร้อมจะรับฟัง พระองค์จะพบกับเราในยามจำเป็น

แคทเธอรีน

เราต้องหยุดจดจ่อกับความบกพร่องของเรา หยุดหาข้อแก้ตัว และเริ่มมองหาและฟังพระเยซู

แอน

ฉันทำเหมือนว่าอยู่ตัวคนเดียว แต่ความจริงก็คือฉันไม่ได้โดดเดี่ยวเลย เมื่อคำอธิษฐานของฉันอ่อนแรงลง พระเจ้ากำลังฟังอยู่ เมื่อคำอธิษฐานของฉันเหมือนเป็นเหมือนการท่องจำ พระเจ้ากำลังฟังฉันอยู่  เมื่อใจของฉันแห้งเหือด พระเจ้าก็ยังทรงฟังอยู่

แองเจล่า

 

คำอธิษฐานประจำวันนี้

ข้าแต่พระเจ้า  ลูกยังต้องเรียนรู้อีกมาก และพระองค์ทรงยังต้องสอนลูกอีกมาก ขอทรงประทานสติปัญญาให้เพื่อลูกจะได้รู้จักสงบนิ่ง และโปรดประทานความความเฉลียวฉลาดให้เพื่อที่ลูกจะได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ทั้งในวันนี้และทุกๆวัน ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจจาก

100 Days of Praising God