วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2565

เมื่อรู้สึกหลงทางและสับสน

 


5 บทเรียนที่ฉันเรียนรู้จากสดุดี 23

วันที่ สาม

บทเรียนที่ 3 เมื่อรู้สึกหลงทางและสับสน 

 สดุดี 23 พูดถึงการที่พระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงแกะของเราที่เลี้ยงดูเราและฟื้นฟูเรา ยิ่งเราวางใจในพระองค์มากเท่าไร เราก็ยิ่งกังวลน้อยลงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีหลายครั้งในชีวิตของเราที่เรารู้สึกหลงทางและสับสน และเป็นเรื่องยากมากที่จะคิดว่าพระเจ้ายังสถิตอยู่กับเรา เราอาจตัดสินใจผิดพลาดหรือติดขัดเมื่อเรารู้สึกหลงทาง เราไม่สามารถไปต่อได้ ในช่วงเวลาเหล่านี้ พระเจ้ายังคงอยู่กับคุณ และพระองค์จะอยู่ที่นั่นเพื่อนำทางคุณเมื่อคุณรู้สึกหลงทางและสับสน

สดุดี 23:4 บอกเราว่าพระเจ้าอยู่กับเราอย่างไรแม้ในช่วงเวลาที่มืดมิดเหล่านั้น

ชีวิตคนเราไม่ใช่เตียงที่โรยด้วยกุหลาบหรือเป็นเนินเขาที่มีแต่หญ้าเขียวขจีเสมอไป เพราะในการเดินทางของชีวิต เรามักจะเจอกับหุบเขา ที่ทั้งลึกและมืดมิด ที่เราจะต้องผ่านไปเพื่อก้าวไปข้างหน้า แม้คุณจะได้เดินในตอนกลางวันแสกๆ แต่ในใจของคุณอาจกำลังสับสน และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มันเหมือนกับว่าคุณกำลังถูกเงามรณะครอบงำ และคุณรู้สึกกลัวที่จะก้าวหรือตัดสินใจ เพราะรู้สึกเหมือนคุณกำลังจะทำผิดพลาด เพราะว่าคุณเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คุณรู้สึกหลงทางและสงสัยว่าทำไมคุณถึงอยู่ที่นั่น

ขอให้คุณตระหนักว่าพระเจ้าสถิตกับเราตลอดมาในขณะที่ปัญหาของเราได้รับการแก้ไขไปทีละขั้น พระองค์ได้เตรียมวิธีแก้ปัญหาทั้งหมดและพวกมันจะมาในเวลาที่เหมาะสม เราแค่ต้องอดทนและวางใจในพระองค์ต่อไป

เช่นเดียวกับผู้เลี้ยงแกะในสดุดี 23 พระเจ้าสถิตกับเราไม่ว่าเราจะไปที่ใด ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีหรือหุบเขาที่มืดมิด เมื่อเราตระหนักว่า เราเริ่มกังวลน้อยลงเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง พระเจ้าจะทำให้แน่ใจว่าเราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเสมอ

พระเจ้าปกป้องเรา แม้ว่าเราจะยังมองไม่เห็นอันตรายที่อยู่รอบตัวเรา

คนเลี้ยงแกะจะใช้ไม้เท้าของเขาปกป้องแกะจากหมาป่าและสัตว์กินเนื้ออื่นๆ มันเป็นไม้เท้าที่ใช้โจมตีศัตรูเพื่อให้ฝูงแกะของเขาผ่านไปได้อย่างปลอดภัย ผู้ล่าสามารถซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพื่อรอเหยื่อได้ดีมาก และผู้เลี้ยงแกะก็รู้เรื่องนี้ เขาจะมองไปรอบ ๆ พร้อมที่จะฆ่าศัตรู ในขณะที่พวกแกะเองก็ไม่ได้สนใจว่าพวกมันจะไปที่ไหน

พระเจ้าเป็นเช่นนั้น พระองค์ทรงอยู่ที่นี่เสมอเพื่อปกป้องเราจากผู้ที่ต้องการทำลายเราหรือผู้ที่จะมาขโมยไปจากเรา โดยส่วนใหญ่แล้ว เราไม่ได้ตระหนักถึงอุบายที่ผู้คนตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านเรา แต่พระเจ้ารู้ และเพราะพระองค์ทรงรู้ พระองค์จึงสามารถป้องกันไม่ให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเราโดยหยุดศัตรูในเส้นทางของพระองค์ ดังนั้นศัตรูจึงไม่มีโอกาสทำอันตรายเราเลยด้วยซ้ำ

พระเจ้านำทางเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราไม่รู้ว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด

มีหลายครั้งที่เราต้องตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตเรา บางครั้งมันก็เห็นได้ชัดเจนว่าการตัดสินใจแบบไหนจะส่งผลที่ไม่ดีสำหรับเรา และโดยส่วนใหญ่แล้ว ก็มักจะมีหลายตัวเลือกที่ดูว่าจะดีแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งไหนที่บอกได้ว่าทางเลือกใดดีที่สุดสำหรับเรา แล้วก็มีบางครั้งที่เรามองไม่เห็นตัวเลือกใดๆเลยและเราติดกับดักอยู่กับที่ที่เราอยู่ เราจึงรู้สึกหลงทางและสับสน จนเราลืมไปว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเราเสมอ

พระเจ้าพร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือ เช่นเดียวกับคนเลี้ยงแกะ เขาใช้ตะขอของไม้เท้าแตะเบา ๆ เพื่อชี้ให้เราไปในทิศทางที่ถูกต้อง พระองค์ตรัสกับใจเราหรือให้ความฝันแก่เรา หรือใช้ผู้คนมาเตือนเรา เพื่อไม่ให้เราเดินเข้าไปในที่อันตรายหรือหลงทาง ที่สำคัญที่สุด พระองค์ประทานพระคัมภีร์ให้เราอ่านเพื่อรู้จักพระองค์มากขึ้น เพื่อให้เราสามารถวางใจพระองค์มากขึ้นและเลิกกังวล

ตอนนี้คุณรู้สึกหลงทางและสับสนอยู่หรือไม่? จงเชื่อว่าพระเจ้าห่วงใยและคอยดูแลคุณ พระองค์อยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณและนำคุณไปสู่ทางที่ถูกต้อง คุณจะก้าวออกจากหุบเขานั้นไปได้โดยรู้ว่าพระเจ้านำทางคุณอยู่เสมอ

ขอขอบคุณสำหรับเวลาของคุณและฉันหวังว่าบทความนี้สามารถช่วยให้คุณวางใจพระเจ้าในยามที่รู้สึกหลงทางและสับสนได้มากขึ้น

ขอพระเจ้าอวยพรคุณในวันนี้และตลอดไป!

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Mae-printablesandinspirations

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...