5 บทเรียนที่ฉันเรียนรู้จากสดุดี 23
วันที่ สาม
บทเรียนที่ 3 เมื่อรู้สึกหลงทางและสับสน
สดุดี 23
พูดถึงการที่พระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงแกะของเราที่เลี้ยงดูเราและฟื้นฟูเรา
ยิ่งเราวางใจในพระองค์มากเท่าไร เราก็ยิ่งกังวลน้อยลงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีหลายครั้งในชีวิตของเราที่เรารู้สึกหลงทางและสับสน
และเป็นเรื่องยากมากที่จะคิดว่าพระเจ้ายังสถิตอยู่กับเรา
เราอาจตัดสินใจผิดพลาดหรือติดขัดเมื่อเรารู้สึกหลงทาง เราไม่สามารถไปต่อได้ ในช่วงเวลาเหล่านี้ พระเจ้ายังคงอยู่กับคุณ
และพระองค์จะอยู่ที่นั่นเพื่อนำทางคุณเมื่อคุณรู้สึกหลงทางและสับสน
สดุดี 23:4 บอกเราว่าพระเจ้าอยู่กับเราอย่างไรแม้ในช่วงเวลาที่มืดมิดเหล่านั้น
ชีวิตคนเราไม่ใช่เตียงที่โรยด้วยกุหลาบหรือเป็นเนินเขาที่มีแต่หญ้าเขียวขจีเสมอไป เพราะในการเดินทางของชีวิต เรามักจะเจอกับหุบเขา ที่ทั้งลึกและมืดมิด ที่เราจะต้องผ่านไปเพื่อก้าวไปข้างหน้า แม้คุณจะได้เดินในตอนกลางวันแสกๆ
แต่ในใจของคุณอาจกำลังสับสน และไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
มันเหมือนกับว่าคุณกำลังถูกเงามรณะครอบงำ และคุณรู้สึกกลัวที่จะก้าวหรือตัดสินใจ เพราะรู้สึกเหมือนคุณกำลังจะทำผิดพลาด
เพราะว่าคุณเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คุณรู้สึกหลงทางและสงสัยว่าทำไมคุณถึงอยู่ที่นั่น
ขอให้คุณตระหนักว่าพระเจ้าสถิตกับเราตลอดมาในขณะที่ปัญหาของเราได้รับการแก้ไขไปทีละขั้น
พระองค์ได้เตรียมวิธีแก้ปัญหาทั้งหมดและพวกมันจะมาในเวลาที่เหมาะสม
เราแค่ต้องอดทนและวางใจในพระองค์ต่อไป
เช่นเดียวกับผู้เลี้ยงแกะในสดุดี 23 พระเจ้าสถิตกับเราไม่ว่าเราจะไปที่ใด
ไม่ว่าจะเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจีหรือหุบเขาที่มืดมิด เมื่อเราตระหนักว่า
เราเริ่มกังวลน้อยลงเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง พระเจ้าจะทำให้แน่ใจว่าเราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องเสมอ
พระเจ้าปกป้องเรา แม้ว่าเราจะยังมองไม่เห็นอันตรายที่อยู่รอบตัวเรา
คนเลี้ยงแกะจะใช้ไม้เท้าของเขาปกป้องแกะจากหมาป่าและสัตว์กินเนื้ออื่นๆ
มันเป็นไม้เท้าที่ใช้โจมตีศัตรูเพื่อให้ฝูงแกะของเขาผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
ผู้ล่าสามารถซ่อนตัวอยู่ในความมืดเพื่อรอเหยื่อได้ดีมาก
และผู้เลี้ยงแกะก็รู้เรื่องนี้ เขาจะมองไปรอบ ๆ พร้อมที่จะฆ่าศัตรู ในขณะที่พวกแกะเองก็ไม่ได้สนใจว่าพวกมันจะไปที่ไหน
พระเจ้าเป็นเช่นนั้น พระองค์ทรงอยู่ที่นี่เสมอเพื่อปกป้องเราจากผู้ที่ต้องการทำลายเราหรือผู้ที่จะมาขโมยไปจากเรา
โดยส่วนใหญ่แล้ว เราไม่ได้ตระหนักถึงอุบายที่ผู้คนตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านเรา
แต่พระเจ้ารู้ และเพราะพระองค์ทรงรู้ พระองค์จึงสามารถป้องกันไม่ให้สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับเราโดยหยุดศัตรูในเส้นทางของพระองค์
ดังนั้นศัตรูจึงไม่มีโอกาสทำอันตรายเราเลยด้วยซ้ำ
พระเจ้านำทางเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราไม่รู้ว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด
มีหลายครั้งที่เราต้องตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตเรา
บางครั้งมันก็เห็นได้ชัดเจนว่าการตัดสินใจแบบไหนจะส่งผลที่ไม่ดีสำหรับเรา และโดยส่วนใหญ่แล้ว
ก็มักจะมีหลายตัวเลือกที่ดูว่าจะดีแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีสิ่งไหนที่บอกได้ว่าทางเลือกใดดีที่สุดสำหรับเรา
แล้วก็มีบางครั้งที่เรามองไม่เห็นตัวเลือกใดๆเลยและเราติดกับดักอยู่กับที่ที่เราอยู่
เราจึงรู้สึกหลงทางและสับสน จนเราลืมไปว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเราเสมอ
พระเจ้าพร้อมเสมอที่จะช่วยเหลือ
เช่นเดียวกับคนเลี้ยงแกะ เขาใช้ตะขอของไม้เท้าแตะเบา ๆ
เพื่อชี้ให้เราไปในทิศทางที่ถูกต้อง พระองค์ตรัสกับใจเราหรือให้ความฝันแก่เรา
หรือใช้ผู้คนมาเตือนเรา เพื่อไม่ให้เราเดินเข้าไปในที่อันตรายหรือหลงทาง
ที่สำคัญที่สุด พระองค์ประทานพระคัมภีร์ให้เราอ่านเพื่อรู้จักพระองค์มากขึ้น
เพื่อให้เราสามารถวางใจพระองค์มากขึ้นและเลิกกังวล
ตอนนี้คุณรู้สึกหลงทางและสับสนอยู่หรือไม่? จงเชื่อว่าพระเจ้าห่วงใยและคอยดูแลคุณ
พระองค์อยู่ที่นี่เพื่อปกป้องคุณและนำคุณไปสู่ทางที่ถูกต้อง
คุณจะก้าวออกจากหุบเขานั้นไปได้โดยรู้ว่าพระเจ้านำทางคุณอยู่เสมอ
ขอขอบคุณสำหรับเวลาของคุณและฉันหวังว่าบทความนี้สามารถช่วยให้คุณวางใจพระเจ้าในยามที่รู้สึกหลงทางและสับสนได้มากขึ้น
ขอพระเจ้าอวยพรคุณในวันนี้และตลอดไป!
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
Mae-printablesandinspirations
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น