บทเรียนจากสดุดี 85
วันที่ หนึ่ง
บทนำ:
พระเจ้าจะทรงฟื้นฟูคนที่ไม่เชื่อฟังของพระองค์เมื่อพวกเขาร้องทูลขอความเมตตาจากพระองค์
เรารู้สึกอย่างไรเมื่ออ่านสดุดีบทนี้?
เรากำลังทุกข์ทรมานภายใต้ความไม่พอใจของพระเจ้า และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่สบายใจเป็นพิเศษ
มันเป็นความรู้สึกเหมือนกับเด็กที่ถูกลงโทษทางวินัย ในช่วงช่วงเวลาสั้นๆ ที่เด็กน้อยไม่มีสามัคคีธรรมกับพ่อและแม่และคนอื่นๆ
ในครอบครัวได้ การหลุดพ้นจากสามัคคีธรรมเป็นเรื่องที่น่าสังเวชสำหรับเจ้าเด็กน้อย
ในฐานะลูกที่รักพ่อ เขาไม่สามารถทนต่อความไม่พอใจของพ่อได้นาน
ถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ภายใต้พระพิโรธของพระเจ้าที่มีต่อเรา
ความยุติธรรมนิรันดร์ของพระเจ้าเรียกร้องการลงโทษที่รุนแรงและน่ากลัวสำหรับบาปของเรา
ความยุติธรรมร่ำร้องหาความตายและนรกชั่วนิรันดร์
แต่เราโล่งใจที่พบว่าความเมตตาและสันติได้เข้ามาแทรกแซงเพื่อเรา ในตอนท้ายของสดุดี
เราจะแสดงศรัทธาในคำสัญญาแห่งพันธสัญญาของพระเจ้า
สิ่งนี้นำความโล่งใจมาสู่จิตวิญญาณของเราอย่างมาก
และเรามั่นใจว่าพระเจ้าจะประทานสิ่งที่ดีแก่เรา
สดุดีบทนี้สอนอะไรเราบ้าง?
1ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า
พระองค์ทรงสำแดงความโปรดปรานแก่ดินแดนของพระองค์ และทรงให้ยาโคบคืนสู่สภาพดี
2พระองค์ทรงอภัยความชั่วช้าของเหล่าประชากรของพระองค์
ทรงลบมลทินบาปทั้งสิ้นของเขา
เสลาห์
3พระองค์ทรงระงับพระพิโรธ
และหันเหจากความกริ้วโกรธของพระองค์
ข้อ 1–3.
พระเจ้าจะทรงฟื้นฟูประชากรของพระองค์กี่ครั้งเมื่อพวกเขากบฏต่อกฎของพระองค์และปฏิเสธพระวจนะของพระองค์? การกบฏนั้นเกิดขึ้นเกือบอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1,500
ปี—ในถิ่นทุรกันดาร ในสมัยของผู้พิพากษา ในสมัยของกษัตริย์ และในสมัยของพระคริสต์
ระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจของพระองค์
พระเยซูเจ้าของเรากล่าวหาชาวยิวว่าร่วมส่วนกับบรรพบุรุษของพวกเขาในการสังหารผู้เผยพระวจนะของพระเจ้า
ในพระดำรัสของพระองค์ กล่าวว่า เช่นนั้นแล้วจงสานต่อบาปของบรรพบุรุษของเจ้าให้ถึงที่สุดเถิด!
(มัทธิว 23:30–36) สิ่งที่พระคริสต์กำลังเผชิญอยู่คือรูปแบบการกบฏที่เก่าแก่
คั่นด้วยช่วงเวลาแห่งการกลับใจและความเมตตา สำหรับสามข้อแรก ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีได้ทบทวนบันทึกเกี่ยวกับความเมตตาและการให้อภัยของพระเจ้า
และบนพื้นฐานนี้เองที่เขาก้าวเข้ามาเพื่อวิงวอนขอความเมตตาจากพระเจ้าอีกครั้ง
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
generations
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น