ความช่วยเหลือของฉันมาจากพระเจ้า

 

บทเรียนจากสดุดี 121 

วันที่ 1 “ความช่วยเหลือของฉันมาจากพระเจ้า”

เราทุกคนต้องการความช่วยเหลือในบางครั้งในชีวิต เมื่อคุณล้มแล้วลุกไม่ได้!” คุณจะไปที่ไหนเมื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ? โทรหาครอบครัว? เพื่อน? หรือกดเรียก 911?

เป็นการดีที่เราจะมีที่ที่หนึ่งหรือใครสักคนที่คอยสนับสนุน แต่เราต้องมองให้ไกลกว่านั้น เพราะประวัติศาสตร์และประสบการณ์สอนเราว่าไม่มีแผนความปลอดภัยใด ไม่มีกรมธรรม์ประกันภัยใด ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยใดๆ ที่จะทำให้คุณปลอดภัยในชีวิตนี้อย่างแน่นอน คุณสามารถปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยทั้งหมด ใช้ความระมัดระวัง ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่ดี แต่สิ่งต่างๆ ยังคงผิดพลาดได้อยู่ดี

และนั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องพึ่งพาพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือ  พระคัมภีร์สอนเราว่าพระเจ้าช่วยผู้ที่แสวงหาความช่วยเหลือจากพระองค์ พวกเราไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าเราจะลี้ภัยในพระเจ้า

สดุดี 121 เป็นสดุดีเกี่ยวกับการวางใจในการดูแลเอาใจใส่ของพระเจ้า เป็นเพลงสดุดีการเดินทาง อันที่จริง หลายครอบครัวจะอ่านออกเสียงสดุดีบทนี้ด้วยกันก่อนออกเดินทาง  

เช้านี้คุณต้องการความช่วยเหลือหรือไม่? แล้วสดุดีนี้มีไว้สำหรับคุณ เป็นสิ่งที่ดีในการจดจำและมีประโยชน์ต่อการเดินทางของชีวิต สดุดี 121 สอนความจริงสำคัญสามประการเกี่ยวกับความช่วยเหลือและการดูแลจากพระเจ้าที่พระเจ้ามีต่อคุณ 1) ผู้สร้างคือผู้ช่วยของคุณ 2) พระเจ้าแห่งอิสราเอลเป็นผู้พิทักษ์ของคุณ และสุดท้าย 3) พระเจ้าจะปกป้องคุณจากอันตรายทั้งหมด มาดูทั้งสามสิ่งนี้เมื่อเราเรียนรู้ที่จะวางใจในแผนการของพระเจ้าและการดูแลชีวิตของเรา

พระผู้สร้างคือพระผู้ช่วยของคุณ (ข้อ1-2)

1ข้าพเจ้าเงยหน้าดูเนินเขาทั้งหลาย

ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากไหน?

2ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก

ประการแรก พระผู้สร้างคือพระผู้ช่วยของคุณ ดูข้อ 1-2: ข้อเหล่านี้เป็นข้อพระคัมภีร์ที่สวยงามซึ่งได้นำการปลอบโยนมาสู่ประชาชนของพระเจ้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉัน ทราบว่าพวกท่านหลายคนยกข้อเหล่านี้มาในยามจำเป็น และพวกเขาบอกเราหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับพระเจ้าและความช่วยเหลือที่พระองค์ประทานให้

   ก. มองข้ามภูเขาไปหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างมัน

สดุดี 46:1

1พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา

เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมเสมอในยามทุกข์ร้อน

สดุดี 90:2

2ก่อนภูเขาถือกำเนิด

ก่อนที่พระองค์จะทรงให้แผ่นดินและโลกเกิดขึ้น

พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าตั้งแต่นิรันดร์กาล ตลอดชั่วนิรันดร์กาล

ประการแรก พวกเขาสนับสนุนให้เรามองข้ามภูเขาไปหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างเนินเขา  ภูเขาเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความมั่นคง มีขนาดใหญ่ ทนทาน และไม่เปลี่ยนแปลง การสร้างสะท้อนให้เห็นถึงผู้สร้าง ดังนั้นพระเจ้าผู้ทรงสร้างภูเขาจึงมีพลังและพละกำลังยิ่งใหญ่กว่า

เมื่อเรามีปัญหา เรามักมุ่งเน้นไปที่ปัญหาทั้งหมดที่เรามี และพวกมันมักจะลากเราลงลึกไปอีก นั่นเป็นทิศทางที่ผิด!  เนินเขาเป็นเครื่องเตือนใจว่าเราต้องแหงนหน้ามอง คุณต้องเงยหน้าขึ้นมองภูเขา แต่อย่าหยุดเพียงแค่นั้น คุณมองสูงพอหรือยัง? คุณต้องมองข้ามภูเขาไปหาพระเจ้าผู้ทรงสร้างพวกมันเพราะพระเจ้าอยู่เหนือสิ่งอื่นใด

อย่าลืมว่าผู้เดินทางร้องเพลงสดุดีเหล่านี้ขณะเดินทางไปยังกรุงเยรูซาเล็ม และเป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจเคยร้องเพลงสดุดีนี้ขณะที่พวกเขาอยู่ใกล้เนินเขาที่ล้อมรอบกรุงเยรูซาเล็ม ในกรณีนั้นพวกเขาไม่เพียงแต่มองขึ้นไปบนภูเขาเท่านั้น แต่ยังมองขึ้นไปที่กรุงเยรูซาเล็มและพระวิหารซึ่งเป็นที่ประทับของพระเจ้าด้วย

สดุดี 46:1 บอกเราว่า “พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของเรา ให้เรา​อ่าน​ใน​บทสดุดี 90:2 ว่า “ก่อน​ที่​ภูเขา​จะ​ถือ​กำเนิด หรือ​พระองค์​ทรง​บังเกิด​แผ่นดิน​โลก​และ​โลก พระองค์​ทรง​เป็น​พระเจ้า​ตั้ง​แต่​เป็น​นิจ​กาล​เป็น​นิจนิรันดร์” พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าภูเขาและพระเจ้าอยู่ข้างหน้าภูเขา เราไม่ได้มองดูภูเขาเพื่อหาพละกำลัง แต่ภูเขาทำให้เราลืมปัญหาและสามารถเงยหน้าขึ้นมองพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยเราได้ในยามจำเป็น

ฉะนั้นอย่ามองที่เนินเขาเพียงอย่างเดียว แต่ให้มองดูผู้ที่สร้างเนินเขาด้วย มองผ่านการสร้างไปยังพระผู้สร้าง

ข. ความอุปถัมภ์ของท่านมาจากพระผู้สร้างฟ้าสวรรค์และโลก

 ปฐมกาล 1:1;    

1ในปฐมกาล พระเจ้าทรงสร้างทุกสิ่งในฟ้าสวรรค์และโลก

เยเรมีย์ 10:12 

12แต่พระเจ้าทรงสร้างโลกโดยฤทธานุภาพ

ทรงสถาปนาพิภพไว้ด้วยพระปรีชาญาณ

และทรงคลี่ฟ้าสวรรค์ออกด้วยความเข้าใจ

ในข้อที่หนึ่ง ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีถามว่า “ความอุปถัมภ์ของฉันมาจากไหน” และในข้อที่สอง เราได้รับคำตอบว่า “ความอุปถัมภ์ของข้าพเจ้ามาจากพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” ความช่วยเหลือของคุณมาจากไหน? ความช่วยเหลือของคุณมาจากผู้สร้างสวรรค์และโลก พระเจ้าไม่ได้สร้างแต่ภูเขาเท่านั้น พระองค์ทรงสร้างทุกสิ่ง!

คำอธิบายของพระเจ้าในฐานะผู้สร้างสวรรค์และโลกนี้ปรากฏสามครั้งในสดุดี: ที่นี่ใกล้จุดเริ่มต้น (สดุดี 121: 2) ครั้งหนึ่งตรงกลาง (สดุดี 124:8) และอีกครั้งในตอนท้าย (สดุดี 134 :4). ในสดุดี 121 และ 124 ระบุแหล่งที่มาของความช่วยเหลือของคุณ และในสดุดี 134 ระบุแหล่งที่มาของพระพรของคุณ

เราอ่านในปฐมกาล 1:1 ว่า “ในปฐมกาล พระเจ้าได้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” ใน เยเรมีย์ 10:12 กล่าวว่า “พระเจ้าสร้างโลกด้วยฤทธานุภาพของพระองค์ พระองค์ทรงสถาปนาโลกด้วยพระปรีชาญาณของพระองค์ และทรงขึงฟ้าสวรรค์โดยความเข้าใจของพระองค์” (เยเรมีย์ 10:12) กล่าวอีกนัยหนึ่งว่าผู้สร้างสวรรค์และโลกมีอำนาจ สติปัญญา และความเข้าใจอย่างไม่จำกัด พระองค์มีทรัพยากรทั้งหมดและอื่น ๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ พระองค์มีโลกทั้งใบอยู่ในมือของพระองค์ และพระองค์เป็นผู้ช่วยของคุณ

พระเจ้าไม่เพียงแต่เป็นผู้สร้างเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการสร้างของพระองค์ด้วย พระคัมภีร์สอนเราว่าพระเจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องในทุกแง่มุมของการทรงสร้างของพระองค์และรวมถึงคุณด้วย เราเรียกฤทธิ์เดชของพระเจ้าเหนือสิ่งสร้างทั้งปวงว่าเป็นการจัดเตรียมของพระองค์

ผู้สร้างจักรวาลคือพระผู้ช่วยและเพื่อนของคุณ! วันนี้ปัญหาของคุณใหญ่แค่ไหน?   ฉันคิดว่ามันปลอดภัยที่จะพูดว่า "พระเจ้าได้จัดเตรียมสิ่งนี้" เจอรัลด์ วิลเลียมสัน เขียนว่า: “เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ควบคุมจักรวาล โอกาสจึงถูกขจัดออกไป และเพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ควบคุมจักรวาล ชะตากรรมจึงถูกขจัดออกไปด้วย” เราอยู่ในโลกที่ไม่มีโอกาสหรือโชคชะตา นี่คือโลกของพระเจ้า และการจัดเตรียมของพระเจ้าซึ่งหมายความว่าไม่มีสิ่งใดสามารถเกิดขึ้นกับคุณได้นอกเหนือจากพระประสงค์ของพระเจ้าและการดูแลจัดเตรียม

แหล่งที่มาของความช่วยเหลือของคุณคืออะไร? สดุดี 121 บอกเราว่าพระองค์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก นั่นคือความจริงข้อแรกที่เราเรียนรู้จากสดุดีนี้ ผู้สร้างคือพระผู้ช่วยของคุณ

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

  เรย์ ฟาวเลอร์ .org