บทความหนุนใจสำหรับคริสตชนในช่วงโควิด

 

ทำไมสดุดี 91 จึงมีความสำคัญในช่วง COVID-19?

สดุดี 91 เป็นวิธีการของพระเจ้าในการบอกเราว่าผู้ใดวิ่งมาหาพระองค์และแสวงหาการปกป้องจากพระเจ้าจะรอดจากภัยพิบัติและการทำลายล้าง เมื่อเราสวดอ้อนวอนถ้อยคำของสดุดีนี้ มันจะกลายเป็นเกราะกำบังอันทรงพลังในการปกป้องจากความกลัว

 ในขณะที่เรายังคงกักตัวเองต่อไปในช่วงการระบาดของ COVID-19 ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไม่คิดถึงไวรัส เพราะมันได้เข้าถึงทุกด้านของชีวิตเราอย่างแท้จริง เราแยกจากครอบครัวและเพื่อนฝูง

วัดต้องปิด โรงเรียนปิด ห้างร้านสูญเสียรายได้ คนถูกพักงาน หรือบางคนทำงานจากที่บ้าน แม้แต่โรงยิมฟิตเนต ร้านอาหาร และธุรกิจขนาดเล็กอื่นๆ ก็ถูกบังคับให้ปิด และร้านขายของชำมีเวลาจำกัด จากนั้นก็มีข่าว คอยรายงานทุกเรื่องราวหรือดูแล้วก็ยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก

การระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัสสร้างความสับสนและน่ากลัวสำหรับผู้คนหลายร้อยล้านคน ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ไม่น่าแปลกใจเลยที่สดุดี 91 จะเป็นเบอร์ฉุกเฉิน  9-1-1 อย่างแท้จริงสำหรับผู้เขียนสดุดี เพราะพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่นั้นยิ่งใหญ่กว่าทุกสิ่ง

สดุดี 91 เต็มไปด้วยคำประกาศและคำสัญญาเรื่องการปกป้องจากพระเจ้า ในช่วงเวลาของการระบาดใหญ่ทั่วโลกด้วย COVID-19 สดุดีนี้พูดถึงการมีอยู่ ฤทธิ์อำนาจ และการป้องกันความกลัวของพระเจ้า ความกลัวเป็นอารมณ์เดียวที่พระเจ้าไม่ต้องการจะแซงหน้าเรา เพราะเมื่อเรากลัว มันเผยให้เห็นในใจว่าเราพึ่งพาความพยายามของเราเองและไม่วางใจในพระผู้ช่วยให้รอดของเราอย่างไร

 อัครสาวกเปาโลสนับสนุนให้ทิโมธีผู้เป็นบุตรบุญธรรมของเขายึดมั่นในศรัทธาโดยเตือนเขาว่า “เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้ประทานวิญญาณแห่งความกลัวและความขลาดกลัวแก่เรา แต่ให้พลัง ความรัก และวินัยในตนเอง” (2 ทิโมธี 1:7) นี่คือการเรียกร้องการต่อสู้ในสดุดี 91

เมื่อเผชิญกับโรคระบาดนี้หรือสิ่งอื่นใดในชีวิต เรามีสิทธิ์ที่จะวิตก แต่ไม่ต้องไปกังวลหรือกลัว ในพระคัมภีร์มีมากกว่า 365 ข้อเกี่ยวกับความกลัวและแม้แต่พระเยซูบอกเราสามครั้งในมัทธิว 6:25-34 ว่า "อย่ากังวล" พระองค์ไม่ต้องการให้เรากลัวหรือกังวลเพราะอารมณ์เหล่านี้จะกลายเป็นราชาแทนที่จะเป็นพระเยซูผู้ที่เป็นกษัตริย์ของเรา

สดุดี 91 คือเบอร์ฉุกเฉิน 9-1-1 . ของเรา

เหตุใดคริสตชนหลายล้านคนทั่วโลกจึงอธิษฐานสดุดี 91? พลังของสดุดีเป็นเครื่องเตือนใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การเงินล่มสลาย ตกงาน สงคราม มะเร็ง หรือโควิด-19 พระเจ้ายังทรงควบคุม ในสองข้อแรก เราได้รับแจ้งอย่างชัดเจนว่าใครคือพระเจ้า

ผู้ใดอาศัยอยู่ในที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด ผู้นั้นจะพักในร่มเงาขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ข้าพเจ้าจะทูลพระยาห์เวห์ว่า “พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าวางใจในพระองค์

 พระนามอันทรงอานุภาพสี่ประการของพระเจ้าที่ซ่อนไว้อย่างชัดเจนคือ ผู้สูงสุด ผู้ทรงฤทธานุภาพ พระเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า เหตุใดผู้เขียนจึงใช้ชื่อต่างกันสี่ชื่อในสองข้อ และอะไรมีความสำคัญเกี่ยวกับชื่อนี้ในช่วงการระบาดใหญ่นี้ ชื่อแรก ผู้ทรงสูงสุด คือคำภาษาฮีบรูว่าเอลีออน ชื่อนี้แสดงถึงความยิ่งใหญ่ อำนาจอธิปไตย และความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

เราได้รับการเตือนในข้อนี้ว่าเรามีชีวิต หายใจ เคลื่อนไหว และพักผ่อนในพระเจ้า พระองค์รับรองให้เราได้รับการปกป้อง ความสบายใจ และการดูแลเอาใจใส่ มันเตือนเราว่าเราไม่ต้องจมอยู่กับข่าว เราไม่วิตกกังวล กังวล หรือโรคระบาด พระองค์ทรงเป็นที่พำนักของเรา

ชื่อที่สอง ผู้ทรงอำนาจ แปลจากคำว่า Shaddai หมายถึงพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการหรือความเข้าใจของเรา ปรากฏในพระคัมภีร์ 48 ครั้งและมีการอ้างอิงว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งถิ่นทุรกันดารหรือพระเจ้าแห่งภูเขา

ประเด็นก็คือ พระเจ้าสามารถทำให้ภูเขาถล่ม พระองค์ทรงแยกทะเล พระองค์สามารถปกป้องเราจากศัตรูได้ พระองค์สามารถปกป้องเราได้ในช่วงโรคระบาดนี้ เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะอยู่กับพระองค์ตลอดไป

พระนามที่สามคือพระเจ้า แปลเป็นพระยาห์เวห์ เป็นพระนามเฉพาะของพระเจ้า ทรงเปิดเผยแก่โมเสสที่พุ่มไม้ที่ลุกโชนในอพยพ 6:2 ได้รับการแปลเป็นพระยาห์เวห์  

หมายความว่าพระเจ้าคือพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ ทรงรอบรู้ และรู้จักเราในระดับที่ลึกซึ้งและใกล้ชิด พระองค์ทรงทราบจำนวนเส้นผมบนศีรษะของเรา สีของดวงตาเมื่อเรานอนลงและตื่นขึ้น พระองค์ทรงทราบจำนวนวันของเราบนโลกนี้

ชื่อที่สี่ พระเจ้าของข้าพเจ้า มาจากภาษาฮีบรูเอโลฮิม ชื่อนี้ปรากฏครั้งแรกในตอนต้นของพระคัมภีร์ในปฐมกาล 1:1 “ในปฐมกาล พระเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก” นอกจากนี้ยังหมายถึง "ผู้สูงสุด" หรือ "ผู้ยิ่งใหญ่"

ในสองสามข้อแรกนี้ของสดุดี 91 เรามั่นใจโดยปราศจากข้อสงสัยว่าเรารับใช้พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ มันเตือนเราว่าถึงแม้เราจะอยู่ในโลกที่ตกสู่บาป แต่พระเจ้าก็ยังอยู่กับเรา แม้ในช่วงเวลาที่วิกฤตอย่างการระบาดของโควิด-19 ขอเตือนว่าพระเจ้าคือที่พักพิงของเรา ผู้พิทักษ์ของเรา ผู้ช่วยให้รอดของเรา เราได้รับการเตือนว่าพระเจ้าอยู่ในการควบคุมตลอดไปและตลอดไป

สารจากสดุดี 91

สดุดี 91 เป็นวิธีการของพระเจ้าในการบอกเราว่าผู้ใดวิ่งมาหาพระองค์และแสวงหาการปกป้องจากพระเจ้าจะรอดจากภัยพิบัติและการทำลายล้าง เมื่อเราสวดอ้อนวอนถ้อยคำของสดุดีนี้ มันจะกลายเป็นเกราะกำบังอันทรงพลังในการปกป้องจากความกลัว

อย่างไรก็ตาม บางคนเข้าใจผิดคิดว่าคำสอนนี้เป็นคำสัญญาและข้อพิสูจน์ว่าชีวิตจะราบรื่น ว่าเราจะไม่ประสบกับความลำบาก ความเจ็บป่วย หรือวิกฤตอื่นใด

ความคิดแบบนี้มักเทศนาโดยศิษยาภิบาลและผู้รับใช้ที่สอนพระกิตติคุณแห่งความเจริญรุ่งเรืองที่หลอกลวงและหลอกลวง ไม่มีอะไรจะห่างไกลจากความจริง พระเจ้าสัญญาจะคุ้มครอง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ทนทุกข์แม้เผชิญกับโรคระบาดนี้

สิ่งที่เราวางใจได้คือพระสัญญาที่พบในสดุดีนี้ เต็มไปด้วยความดีและฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าด้วยสัญญาแปดประการ:

(1) เราจะช่วยชีวิตเขา... (ให้พ้น จากเหตุ) (2) เราจะปกป้องเขา... (ตั้งเขาไว้บนที่สูง) (3) เราจะตอบเขา... (ในการอธิษฐาน ) (4) เราจะอยู่กับเขาในยามทุกข์... (ในยามทุกข์ ในยามยาก) (5) เราจะช่วยเขาให้รอด... (กู้ภัย นำความปลอดภัย) (6) และให้เกียรติเขา... (เพื่อ มั่งคั่ง แข็งแรง ด้วยเกียรติ) (7) ด้วยชีวิตยืนยาว เราจะทำให้เขาพอใจ... (ให้มีความอุดมสมบูรณ์ในการเดินทางของชีวิต) (8) และแสดงให้เขาเห็นถึงความรอดของเรา (ความรอดและชัยชนะของพระองค์)

สิ่งนี้หมายความว่า?

พระเจ้าไม่ได้สัญญาว่าเราจะไม่ป่วยหรือเห็นคนที่เรารักทนทุกข์จากโรคนี้หรือสิ่งอื่นใดในชีวิต สิ่งที่พระองค์สัญญาคือการอยู่กับเราและปกป้องเราจากความกลัว คำสัญญาและแผนที่วางไว้สำหรับเราแต่ละคนทำให้เราสบายใจว่าพระองค์ควบคุมได้

ในฐานะคริสตชน: เราดำเนินชีวิตตามความเชื่อ ศรัทธาคือการวางใจในพระเจ้า - ในความดี ความสัตย์ซื่อ และแผนการของพระองค์ และเป็นผลจากการเกรงกลัวพระเจ้า เราตระหนักดีถึงอำนาจสูงสุด ความดี และการควบคุมของพระเจ้า ดังนั้นเราจึงวางใจในพระองค์ “ท่านผู้ยำเกรงพระเจ้า จงวางใจในพระเจ้า!” (สดุดี 115:11).

สดุดี 91 คำอธิษฐาน

ผู้ใดอาศัยอยู่ในที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด ผู้นั้นจะพักในร่มเงาขององค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ ข้าพเจ้าจะทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า “พระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้า ผู้ซึ่งข้าพเจ้าวางใจ” แน่นอนพระองค์จะทรงช่วยเจ้าให้รอดจากกับดักของพรานนกและจากโรคระบาดร้ายแรง พระองค์จะทรงปกปิดคุณด้วยขนนกของพระองค์ และภายใต้ปีกของพระองค์ คุณจะพบที่หลบภัย ความสัตย์ซื่อของพระองค์จะเป็นเกราะกำบังและป้อมปราการของเจ้า

ท่านจะไม่กลัวความสยดสยองในกลางคืน หรือลูกศรที่ปลิวไปในกลางวัน หรือโรคระบาดที่ไล่มาในความมืด หรือภัยพิบัติที่ทำลายในตอนกลางวัน พันอาจล้มลงข้างกายท่าน หมื่นที่มือขวาของท่าน แต่มันจะไม่เข้ามาใกล้ท่าน คุณจะสังเกตด้วยตาของคุณและเห็นการลงโทษของคนชั่วเท่านั้น

ถ้าคุณพูดว่า "พระเจ้าเป็นที่ลี้ภัยของฉัน" และคุณทำให้ผู้สูงสุดเป็นที่พำนักของคุณ จะไม่มีอันตรายใด ๆ ที่จะตามทันคุณ ไม่มีภัยพิบัติจะมาใกล้เต็นท์ของคุณ เพราะพระองค์จะทรงบัญชาทูตสวรรค์ของพระองค์เกี่ยวกับคุณให้พิทักษ์รักษาคุณในทุกวิถีทาง ทูตสวรรค์จะยกคุณขึ้นในมือของพวกเขาเพื่อที่คุณจะไม่กระแทกหิน เจ้าจะเหยียบย่ำสิงโตและงูเห่า เจ้าจะเหยียบย่ำสิงโตผู้ยิ่งใหญ่และพญานาค

พระเจ้าตรัสว่า "เพราะเขารักเรา เราจะช่วยเขาให้รอด เราจะปกป้องเขา เพราะเขารู้จักชื่อของฉัน พระองค์จะทรงเรียกข้าพระองค์ และข้าพระองค์จะตอบพระองค์ เราจะอยู่กับเขาในยามลำบาก จะช่วยเขาให้รอดและให้เกียรติเขา ด้วยชีวิตที่ยืนยาว พระองค์จะทำให้เขาอิ่มเอมและสำแดงความรอดของพระองค์แก่เขา”

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

christianity