วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565

การฟื้นฟูจิตใจให้กับลูกๆวัยรุ่น

 


การสอนทักษะการดำรงชีวิตให้กับลูกๆวัยรุ่น(การฟื้นฟูจิตใจ)

ทักษะที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถสอนให้ลูกวัยรุ่นของคุณได้ก็คือการฟื้นฟูจิตใจของเขา บทความนี้เสนอห้าขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณสนับสนุนวัยรุ่นในด้านนี้

1เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย เมื่อพิจารณาถึงพระเมตตาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต ที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการที่แท้จริง 2อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่ แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า คือพระประสงค์อันดีอันเป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ (โรม 12:1-2, NIV)

 

ทักษะที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถสอนให้ลูกวัยรุ่นของคุณคือการฟื้นฟูจิตใจของเขา ความผิดพลาดที่พ่อแม่หลายคนทำคือการพยายามเปลี่ยนความคิดของลูกๆวัยรุ่น  การการฟื้นฟูจิตใจเป็นกระบวนการไตร่ตรองแบบวันต่อวันตามพระคัมภีร์

 

สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือกความจริงของพระเจ้าตามที่พระคัมภีร์ได้กำหนดไว้ แทนที่เราจะเลือกความจริงที่จอมปลอมของโลกที่เราพบเห็นได้ตาม โฆษณา และความหรูหราที่สื่อต่างๆกำลังนำเสนอเกี่ยวกับ"การอ้างความจริง" ที่ขัดต่อคำกล่าวอ้างความจริงในพระคัมภีร์

 

โลกนี้เต็มไปด้วยการกล่าวอ้างความจริงแบบปลอม แต่คุณสามารถสอนให้ลูกๆวัยรุ่นของคุณดำเนินชีวิตตามความเป็นจริงของพระเจ้าได้ เมื่อจิตใจได้รับการฟื้นฟู พระประสงค์ของพระเจ้าและความเป็นจริงจะชัดเจนขึ้น คุณอาจจะกำลังคิด แต่ฉันจะสอนทักษะการฟื้นฟูจิตใจใหม่ให้กับลูกวัยรุ่นได้อย่างไร?

 

ในการเริ่มต้น คุณควรเตรียมลูกๆวัยรุ่นให้พร้อมก่อน

 

การตระเตรียม

เริ่มต้นด้วยการทำให้แน่ใจว่าลูกๆวัยรุ่นของคุณมีความคาดหวังที่ถูกต้องเพราะมีบางคนเข้าถึงพระคำของพระเจ้าด้วยความคาดหวังที่ผิดๆ

ตัวอย่างเช่น พระคัมภีร์ได้สัญญาไหมว่าถ้าเราทำตามพระบัญญัติทั้งหมดแล้ว เราจะไม่มีการต่อสู้ดิ้นรนในชีวิต? คำตอบคือ ไม่ใช่อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะอ่านพระคัมภีร์ด้วยความคาดหวังที่ผิดๆเช่นนี้

 

เมื่อลูกสาวของคุณเปิดพระคัมภีร์ เธอควรคาดหวังอะไร? สอนเธอให้มองหาว่าพระเจ้าเป็นใครและโลกของพระองค์เป็นอย่างไร

 

ต่อไป ก็ช่วยให้เธอเข้าใจว่าการอ่านพระคัมภีร์คือการพูดคุยกับพระเจ้า ขณะที่เธออ่าน เธอสามารถมองหาสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ากับสถานการณ์ในชีวิตของเธอเอง

 

ขั้นตอนต่อไปในการช่วยลูกๆวัยรุ่นของคุณในการเปลี่ยนความคิดใหม่คือการให้มุมมองในแบบพระคัมภีร์แก่พวกเขา

 

มุมมอง

ใส่พระคำของพระเจ้าลงในบริบทในชีวิตประจำวันของลูกๆวัยรุ่น ผู้ปกครองหลายคนทำผิดพลาดโดยถือว่าโลกของวัยรุ่นสมัยนี้เป็นเหมือนกับสมัยของพ่อแม่

 

ให้เราเริ่มต้นด้วยการมองดูโลกของวัยรุ่นอย่างใกล้ชิด เดินไปกับเขา ฟังข่าวสารที่เขาได้รับจากโลกภายนอก โลกออนไลน์ของเด็กยุคนี้เป็นที่ซึ่งโลกทัศน์ในพระคัมภีร์ถูกท้าทายเป็นอย่างมาก

 

"โลกทัศน์" หมายถึง การมองโลก การรู้จักโลก ทัศนะ หรือความคิดของผู้ใดผู้หนึ่งเกี่ยวกับโลกและสังคมของประชากร เช่น ภาพยนต์เรื่องนี้ทำให้โลกทัศน์ของเขาเกี่ยวกับคนในชุมชนแออัดเปลี่ยนไป เป็นต้น "โลกทัศน์" มักใช้คำขยาย "กว้างไกล" หรือ "คับแคบ" ในขณะที่ "วิสัยทัศน์" ใช้กับคำกริยา " มี" หรือ "ขาด" โดยไม่ต้องมีคำขยายก็ได้

 

ให้เราพิจารณาผลกระทบของวิดีโอเกมที่เขาเล่นหรือทีวีที่เขาดู ความท้าทายแรกของคุณคือการถอยหลังกลับไปดูและประเมินข้อมูลข่าวสารต่างๆที่ลูกๆของคุณได้รับตลอดทั้งวัน

 

ต่อไปคือการ ช่วยลูกชายของคุณให้มีมุมมองตามแบบพระคัมภีร์เกี่ยวกับข่าวสารที่เขาได้รับในแต่ละวัน  

คำถาม:

วันนี้ลูกได้ยินอะไรบ้างที่ฟังดูไม่เข้าท่าที่โต๊ะอาหารค่ำของเรา”

ลูกได้ยินสัญญาณเรื่องใดบ้างจากข่าวทางทีวีคืนนี้? คิดว่ามันจริงหรือไม่”

วิดีโอเกมที่ลูกเล่นมันให้อะไรกับลูกบ้างนอกจากความสนุกเพลิดเพลิน”

 

การพูดเกี่ยวกับความจริงของพระเจ้าในทางตรงกันข้ามกับทางโลก คุณอาจพูดว่า: “พระคัมภีร์บอกว่าคุณและฉันจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และเรามีโอกาสพิเศษในทุกๆวันที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ที่จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์

แล้วลูกคิดว่าวันนี้เราจะทำอะไรได้บ้างที่จะคงอยู่ตลอดไป”

หรือ “เมื่อพระเจ้ามองลงมายังลูก  พระองค์จะเห็นอะไร”

 

นอกจากจะช่วยให้ลูกๆวัยรุ่นของคุณมีมุมมองตามแบบพระคัมภีร์แล้ว คุณควรสอนพวกเขาเกี่ยวกับการใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้าด้วย

 

เวลาส่วนตัวกับพระเจ้า

ช่วยลูกๆวัยรุ่นของคุณใช้เวลากับพระเจ้าเป็นประจำทุกวันเพื่อศึกษาพระคัมภีร์และอธิษฐาน

 

ตอนที่ฉันเป็นคริสเตียนใหม่ตอนอายุ 17 ปี ผู้นำ Young Life พูดกับฉันว่า “ถ้าคุณอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน พระเจ้าจะบอกคุณทุกสิ่งที่จะช่วยให้คุณรู้วิธีดำเนินชีวิต!นี่แหละ ที่ทำให้ฉันสนใจมาก

 

ส่งเสริมลูกๆ (แต่อย่าจู้จี้) สอนให้เขาใช้เวลาเป็นประจำทุกวันเพื่ออธิษฐานและศึกษาพระคัมภีร์ ให้เขาเลือกเวลาและสถานที่เขาพอใจ

 

ในการเป็นพ่อแม่ของฉันเอง ความท้าทายนี้ได้ทำให้ฉันกับภรรยาเปิดใจคุยกับลูกชายวัย 14 ปีของเราเกี่ยวกับการยกเลิกเวลาเล่นวิดีโอเกมทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปีการศึกษาเพื่อให้เขามีที่ว่างในชีวิต สำหรับการอธิษฐาน มันคือความมุ่งมั่นต้องเสียสละ

 

นี่คือคำแนะนำอื่นๆ:

เริ่มจากช่สงเวลาสั้น  ๆ (อาจเริ่มต้น 10 หรือ 15 นาที) แบ่งเวลาออกเป็นสามกิจกรรมง่ายๆ:

การอธิษฐาน (ขอให้พระเจ้าตรัสผ่านพระวจนะของพระองค์และช่วยให้ความเข้าใจแก่เขา)

การอ่าน

ไตร่ตรอง (ถามตัวเองว่า “ฉันเพิ่งได้ยินหรือเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าและโลกของพระองค์เป็นอย่างไรบ้าง”)

 

เรียนรู้ศิลปะการถามคำถามที่ยอดเยี่ยม พระเยซูทรงถามคำถามดีๆมากมาย อันที่จริง พระองค์มักจะตอบคำถามด้วยคำถาม!ด้วย ให้เราดูพระองค์เป็นแบบอย่าง

 

ให้เริ่มต้นด้วยการหาเวลาเพื่อให้คุณและลูกๆวัยรุ่นได้คุยกัน มีส่วนร่วมกับลูกๆวัยรุ่นของคุณด้วยคำถามเกี่ยวกับชีวิตที่เข้ากับสถานการณ์ของพวกเขาโดยตรง (หยิบยกสถานการณ์ของพวกเขาขึ้นมาพูด) ตัวอย่างเช่น คุณอาจถามว่า “ลูกเคยอ่านเจออะไรในพระคัมภีร์ที่ลูกอาจเอามาใช้ได้กับเรื่องของลูกบ้างไหม” หรือ “ลูกๆได้อ่านดูพระธรรมสุภาษิตบ้างหรือยัง ลองอ่านดูสิแล้วดูว่าพระเจ้าจะตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง”

สิ่งที่คุณทำไม่ได้คือถามคำถามที่มีคำตอบที่ชัดเจน หรือแอบบอกเขาเป็นนัยๆว่าคุณรู้แล้วว่าคำตอบที่ถูกต้องคืออะไร แต่ปล่อยให้เขารู้สึกอยากและต้องการค้นหาคำตอบด้วยตนเองอย่าง "กระตือรือร้น" จะดีที่กว่า และใช้คำถามที่ถูกต้องเพื่อว่าลูกๆของคุณจะได้มีส่วนร่วมในการค้นหาคำตอบ

 

แน่นอนว่ามันไม่มีกฎเกณฑ์ที่ยากเกินไป หรือทำได้เร็วเห็นผลเร็ว ทุกอย่างต้องอาศัยเวลาและการฝึกฝน เมื่อเร็ว ๆ นี้ลูกชายของฉันเดินทางไปทำงานกับฉันซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจ ฉันคิดว่าฉันพร้อมแล้วกับการตั้งคำถามเพื่อให้เราได้คุยกัน แต่ก่อนที่ฉันจะเริ่มตั้งคำถาม ฉันได้ถามพระเจ้าก่อนว่าพระองค์คิดว่าฉันควรเน้นคุยไปที่เรื่องใด คำตอบของพระองค์ได้ทำให้ฉันประหลาดใจ นั่นก็คือ: “จงถามลูกไปว่าช่วงเวลาไหนที่เขาชอบที่สุดในวันนี้”

 

ฝึกใช้เวลาแห่งคุณภาพกับคนของพระเจ้า

การเรียนรู้จากพระคำของพระเจ้าเป็นกิจกรรมของหมู่คณะที่เราสามารถทำร่วมกันได้ ลูกๆวัยรุ่นของคุณควรเรียนรู้พระคำของพระเจ้ากับคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยเริ่มจากตัวคุณก่อน

 

ค้นหาสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์  ลูกๆวัยรุ่นของคุณสามารถเรียนรู้จากพระคำของพระเจ้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนของเขา อาจจะเป็นกลุ่มเยาวชนที่เน้นศึกษาพระคัมภีร์  เราอาจเริ่มต้นอ่านพระคัมภีร์ร่วมกันกับสมาชิกในบ้านก่อน หรือการจัดประชุมกลุ่มเยาวชน ควรมีการประเมินคุณภาพการสอนและพูดคุยกับลูกวัยรุ่นเกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

 

สุดท้าย  การช่วยให้ลูกๆวัยรุ่นของคุณได้ฟื้นฟูจิตใจใหม่ เราต้องเน้นถึงความสำคัญของการแสวงหาความจริงของพระเจ้า

 

การแสวงหาความจริง

เป็นการค้นพบความหมายของการดำเนินชีวิตตามความเชื่อของเราซึ่งเป็นการเดินทางตลอดชีวิตโดยเรารวมสิ่งที่เราเชื่อเข้ากับทุกด้านของชีวิตเรา

พระเจ้าจะสถิตกับเรา ซึ่งนี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดของภารกิจนี้

 

อย่าลืมสอนลูกๆวัยรุ่นของคุณว่าพระเจ้าปรารถนาที่จะเปิดเผยความจริงของพระองค์แก่เรา ความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล พระองค์ตรัสกับเราอยู่ตลอดเวลา: ผ่านการทรงสร้าง ผ่านผู้อื่น และชัดเจนที่สุดคือผ่านทางพระคำของพระองค์

 

เราสามารถวางใจในพระคำของพระเจ้า โดยคาดหวังว่าพระองค์จะทำในสิ่งที่พระองค์สัญญา: พูดกับเรา นำเรา จัดหาให้เรา ให้ทุกสิ่งที่เราต้องการสำหรับชีวิตและความชอบธรรมในพระเยซูคริสต์

 

อย่าลืมแบ่งปันเรื่องราวการค้นหาความจริงขแห่งชีวิตของคุณให้กับลูกๆวัยรุ่นได้ฟัง เพื่อให้เขาจะได้รับรู้ถึงพลังจากเรื่องราวของคุณ การเรียนรู้ที่จะคิดเหมือนคริสเตียนเราต้องมีการฟื้นฟูใหม่ การสอนลูกวัยรุ่นให้ทำเช่นนี้และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า จึงเป็นสิ่งสำคัญ และนี่อาจเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณสามารถให้กับลูกๆของคุณได้

 

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Focusonthefamily

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ มีความเชื่อเมื่อได้ยิน หรือ ได้ยินแต่ไม่ได้เชื่อ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ มีความเชื่อเมื่อได้ยิน หรือ ได้ยินแต่ไม่ได้เชื่อ อ่านฮีบรู 3:1 ถึง 4:13 เพราะเราทั้งหลายได้รับข่าวป...