การสอนทักษะการดำรงชีวิตให้กับลูกๆวัยรุ่น(การฟื้นฟูจิตใจ)
ทักษะที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถสอนให้ลูกวัยรุ่นของคุณได้ก็คือการฟื้นฟูจิตใจของเขา
บทความนี้เสนอห้าขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณสนับสนุนวัยรุ่นในด้านนี้
1เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย
เมื่อพิจารณาถึงพระเมตตาของพระเจ้า
ข้าพเจ้าจึงขอให้ท่านทั้งหลายถวายตัวของท่านแด่พระเจ้าเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต
ที่บริสุทธิ์ และที่พระเจ้าพอพระทัย นี่เป็นการนมัสการที่แท้จริง
2อย่าดำเนินชีวิตตามอย่างคนในโลกนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจของท่านใหม่
แล้วท่านจึงจะสามารถพิสูจน์และยืนยันได้ว่าสิ่งใดคือพระประสงค์ของพระเจ้า
คือพระประสงค์อันดีอันเป็นที่พอพระทัยและสมบูรณ์พร้อมของพระองค์ (โรม 12:1-2, NIV)
ทักษะที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถสอนให้ลูกวัยรุ่นของคุณคือการฟื้นฟูจิตใจของเขา
ความผิดพลาดที่พ่อแม่หลายคนทำคือการพยายามเปลี่ยนความคิดของลูกๆวัยรุ่น การการฟื้นฟูจิตใจเป็นกระบวนการไตร่ตรองแบบวันต่อวันตามพระคัมภีร์
สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือกความจริงของพระเจ้าตามที่พระคัมภีร์ได้กำหนดไว้
แทนที่เราจะเลือกความจริงที่จอมปลอมของโลกที่เราพบเห็นได้ตาม โฆษณา และความหรูหราที่สื่อต่างๆกำลังนำเสนอเกี่ยวกับ"การอ้างความจริง"
ที่ขัดต่อคำกล่าวอ้างความจริงในพระคัมภีร์
โลกนี้เต็มไปด้วยการกล่าวอ้างความจริงแบบปลอม แต่คุณสามารถสอนให้ลูกๆวัยรุ่นของคุณดำเนินชีวิตตามความเป็นจริงของพระเจ้าได้
เมื่อจิตใจได้รับการฟื้นฟู พระประสงค์ของพระเจ้าและความเป็นจริงจะชัดเจนขึ้น
คุณอาจจะกำลังคิด แต่ฉันจะสอนทักษะการฟื้นฟูจิตใจใหม่ให้กับลูกวัยรุ่นได้อย่างไร?
ในการเริ่มต้น คุณควรเตรียมลูกๆวัยรุ่นให้พร้อมก่อน
การตระเตรียม
เริ่มต้นด้วยการทำให้แน่ใจว่าลูกๆวัยรุ่นของคุณมีความคาดหวังที่ถูกต้องเพราะมีบางคนเข้าถึงพระคำของพระเจ้าด้วยความคาดหวังที่ผิดๆ
ตัวอย่างเช่น พระคัมภีร์ได้สัญญาไหมว่าถ้าเราทำตามพระบัญญัติทั้งหมดแล้ว
เราจะไม่มีการต่อสู้ดิ้นรนในชีวิต? คำตอบคือ ไม่ใช่อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนเราจะอ่านพระคัมภีร์ด้วยความคาดหวังที่ผิดๆเช่นนี้
เมื่อลูกสาวของคุณเปิดพระคัมภีร์ เธอควรคาดหวังอะไร? สอนเธอให้มองหาว่าพระเจ้าเป็นใครและโลกของพระองค์เป็นอย่างไร
ต่อไป ก็ช่วยให้เธอเข้าใจว่าการอ่านพระคัมภีร์คือการพูดคุยกับพระเจ้า
ขณะที่เธออ่าน เธอสามารถมองหาสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ากับสถานการณ์ในชีวิตของเธอเอง
ขั้นตอนต่อไปในการช่วยลูกๆวัยรุ่นของคุณในการเปลี่ยนความคิดใหม่คือการให้มุมมองในแบบพระคัมภีร์แก่พวกเขา
มุมมอง
ใส่พระคำของพระเจ้าลงในบริบทในชีวิตประจำวันของลูกๆวัยรุ่น
ผู้ปกครองหลายคนทำผิดพลาดโดยถือว่าโลกของวัยรุ่นสมัยนี้เป็นเหมือนกับสมัยของพ่อแม่
ให้เราเริ่มต้นด้วยการมองดูโลกของวัยรุ่นอย่างใกล้ชิด เดินไปกับเขา
ฟังข่าวสารที่เขาได้รับจากโลกภายนอก โลกออนไลน์ของเด็กยุคนี้เป็นที่ซึ่งโลกทัศน์ในพระคัมภีร์ถูกท้าทายเป็นอย่างมาก
"โลกทัศน์" หมายถึง การมองโลก การรู้จักโลก ทัศนะ
หรือความคิดของผู้ใดผู้หนึ่งเกี่ยวกับโลกและสังคมของประชากร เช่น
ภาพยนต์เรื่องนี้ทำให้โลกทัศน์ของเขาเกี่ยวกับคนในชุมชนแออัดเปลี่ยนไป เป็นต้น
"โลกทัศน์" มักใช้คำขยาย "กว้างไกล" หรือ "คับแคบ"
ในขณะที่ "วิสัยทัศน์" ใช้กับคำกริยา " มี" หรือ "ขาด"
โดยไม่ต้องมีคำขยายก็ได้
ให้เราพิจารณาผลกระทบของวิดีโอเกมที่เขาเล่นหรือทีวีที่เขาดู
ความท้าทายแรกของคุณคือการถอยหลังกลับไปดูและประเมินข้อมูลข่าวสารต่างๆที่ลูกๆของคุณได้รับตลอดทั้งวัน
ต่อไปคือการ ช่วยลูกชายของคุณให้มีมุมมองตามแบบพระคัมภีร์เกี่ยวกับข่าวสารที่เขาได้รับในแต่ละวัน
คำถาม:
“วันนี้ลูกได้ยินอะไรบ้างที่ฟังดูไม่เข้าท่าที่โต๊ะอาหารค่ำของเรา”
“ ลูกได้ยินสัญญาณเรื่องใดบ้างจากข่าวทางทีวีคืนนี้? คิดว่ามันจริงหรือไม่”
“วิดีโอเกมที่ลูกเล่นมันให้อะไรกับลูกบ้างนอกจากความสนุกเพลิดเพลิน”
การพูดเกี่ยวกับความจริงของพระเจ้าในทางตรงกันข้ามกับทางโลก
คุณอาจพูดว่า: “พระคัมภีร์บอกว่าคุณและฉันจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
และเรามีโอกาสพิเศษในทุกๆวันที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ที่จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
แล้วลูกคิดว่าวันนี้เราจะทำอะไรได้บ้างที่จะคงอยู่ตลอดไป”
หรือ “เมื่อพระเจ้ามองลงมายังลูก พระองค์จะเห็นอะไร”
นอกจากจะช่วยให้ลูกๆวัยรุ่นของคุณมีมุมมองตามแบบพระคัมภีร์แล้ว
คุณควรสอนพวกเขาเกี่ยวกับการใช้เวลาส่วนตัวกับพระเจ้าด้วย
เวลาส่วนตัวกับพระเจ้า
ช่วยลูกๆวัยรุ่นของคุณใช้เวลากับพระเจ้าเป็นประจำทุกวันเพื่อศึกษาพระคัมภีร์และอธิษฐาน
ตอนที่ฉันเป็นคริสเตียนใหม่ตอนอายุ 17 ปี ผู้นำ Young Life พูดกับฉันว่า “ถ้าคุณอ่านพระคัมภีร์ทุกวัน
พระเจ้าจะบอกคุณทุกสิ่งที่จะช่วยให้คุณรู้วิธีดำเนินชีวิต!” นี่แหละ
ที่ทำให้ฉันสนใจมาก
ส่งเสริมลูกๆ (แต่อย่าจู้จี้) สอนให้เขาใช้เวลาเป็นประจำทุกวันเพื่ออธิษฐานและศึกษาพระคัมภีร์
ให้เขาเลือกเวลาและสถานที่เขาพอใจ
ในการเป็นพ่อแม่ของฉันเอง ความท้าทายนี้ได้ทำให้ฉันกับภรรยาเปิดใจคุยกับลูกชายวัย
14 ปีของเราเกี่ยวกับการยกเลิกเวลาเล่นวิดีโอเกมทั้งหมดในช่วงที่เหลือของปีการศึกษาเพื่อให้เขามีที่ว่างในชีวิต สำหรับการอธิษฐาน มันคือความมุ่งมั่นต้องเสียสละ
นี่คือคำแนะนำอื่นๆ:
เริ่มจากช่สงเวลาสั้น ๆ
(อาจเริ่มต้น 10 หรือ 15 นาที) แบ่งเวลาออกเป็นสามกิจกรรมง่ายๆ:
การอธิษฐาน (ขอให้พระเจ้าตรัสผ่านพระวจนะของพระองค์และช่วยให้ความเข้าใจแก่เขา)
การอ่าน
ไตร่ตรอง (ถามตัวเองว่า
“ฉันเพิ่งได้ยินหรือเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าและโลกของพระองค์เป็นอย่างไรบ้าง”)
เรียนรู้ศิลปะการถามคำถามที่ยอดเยี่ยม
พระเยซูทรงถามคำถามดีๆมากมาย อันที่จริง พระองค์มักจะตอบคำถามด้วยคำถาม!ด้วย
ให้เราดูพระองค์เป็นแบบอย่าง
ให้เริ่มต้นด้วยการหาเวลาเพื่อให้คุณและลูกๆวัยรุ่นได้คุยกัน มีส่วนร่วมกับลูกๆวัยรุ่นของคุณด้วยคำถามเกี่ยวกับชีวิตที่เข้ากับสถานการณ์ของพวกเขาโดยตรง
(หยิบยกสถานการณ์ของพวกเขาขึ้นมาพูด) ตัวอย่างเช่น คุณอาจถามว่า “ลูกเคยอ่านเจออะไรในพระคัมภีร์ที่ลูกอาจเอามาใช้ได้กับเรื่องของลูกบ้างไหม”
หรือ “ลูกๆได้อ่านดูพระธรรมสุภาษิตบ้างหรือยัง ลองอ่านดูสิแล้วดูว่าพระเจ้าจะตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง”
สิ่งที่คุณทำไม่ได้คือถามคำถามที่มีคำตอบที่ชัดเจน หรือแอบบอกเขาเป็นนัยๆว่าคุณรู้แล้วว่าคำตอบที่ถูกต้องคืออะไร
แต่ปล่อยให้เขารู้สึกอยากและต้องการค้นหาคำตอบด้วยตนเองอย่าง "กระตือรือร้น"
จะดีที่กว่า และใช้คำถามที่ถูกต้องเพื่อว่าลูกๆของคุณจะได้มีส่วนร่วมในการค้นหาคำตอบ
แน่นอนว่ามันไม่มีกฎเกณฑ์ที่ยากเกินไป หรือทำได้เร็วเห็นผลเร็ว
ทุกอย่างต้องอาศัยเวลาและการฝึกฝน เมื่อเร็ว ๆ
นี้ลูกชายของฉันเดินทางไปทำงานกับฉันซึ่งเป็นโอกาสที่เราจะได้พูดคุยกันอย่างเปิดใจ
ฉันคิดว่าฉันพร้อมแล้วกับการตั้งคำถามเพื่อให้เราได้คุยกัน แต่ก่อนที่ฉันจะเริ่มตั้งคำถาม
ฉันได้ถามพระเจ้าก่อนว่าพระองค์คิดว่าฉันควรเน้นคุยไปที่เรื่องใด คำตอบของพระองค์ได้ทำให้ฉันประหลาดใจ นั่นก็คือ: “จงถามลูกไปว่าช่วงเวลาไหนที่เขาชอบที่สุดในวันนี้”
ฝึกใช้เวลาแห่งคุณภาพกับคนของพระเจ้า
การเรียนรู้จากพระคำของพระเจ้าเป็นกิจกรรมของหมู่คณะที่เราสามารถทำร่วมกันได้
ลูกๆวัยรุ่นของคุณควรเรียนรู้พระคำของพระเจ้ากับคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน โดยเริ่มจากตัวคุณก่อน
ค้นหาสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ ลูกๆวัยรุ่นของคุณสามารถเรียนรู้จากพระคำของพระเจ้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนของเขา
อาจจะเป็นกลุ่มเยาวชนที่เน้นศึกษาพระคัมภีร์ เราอาจเริ่มต้นอ่านพระคัมภีร์ร่วมกันกับสมาชิกในบ้านก่อน
หรือการจัดประชุมกลุ่มเยาวชน ควรมีการประเมินคุณภาพการสอนและพูดคุยกับลูกวัยรุ่นเกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
สุดท้าย การช่วยให้ลูกๆวัยรุ่นของคุณได้ฟื้นฟูจิตใจใหม่
เราต้องเน้นถึงความสำคัญของการแสวงหาความจริงของพระเจ้า
การแสวงหาความจริง
เป็นการค้นพบความหมายของการดำเนินชีวิตตามความเชื่อของเราซึ่งเป็นการเดินทางตลอดชีวิตโดยเรารวมสิ่งที่เราเชื่อเข้ากับทุกด้านของชีวิตเรา
พระเจ้าจะสถิตกับเรา ซึ่งนี่คือส่วนที่สำคัญที่สุดของภารกิจนี้
อย่าลืมสอนลูกๆวัยรุ่นของคุณว่าพระเจ้าปรารถนาที่จะเปิดเผยความจริงของพระองค์แก่เรา
ความสัมพันธ์กับพระเจ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละบุคคล พระองค์ตรัสกับเราอยู่ตลอดเวลา:
ผ่านการทรงสร้าง ผ่านผู้อื่น และชัดเจนที่สุดคือผ่านทางพระคำของพระองค์
เราสามารถวางใจในพระคำของพระเจ้า
โดยคาดหวังว่าพระองค์จะทำในสิ่งที่พระองค์สัญญา: พูดกับเรา นำเรา จัดหาให้เรา
ให้ทุกสิ่งที่เราต้องการสำหรับชีวิตและความชอบธรรมในพระเยซูคริสต์
อย่าลืมแบ่งปันเรื่องราวการค้นหาความจริงขแห่งชีวิตของคุณให้กับลูกๆวัยรุ่นได้ฟัง
เพื่อให้เขาจะได้รับรู้ถึงพลังจากเรื่องราวของคุณ
การเรียนรู้ที่จะคิดเหมือนคริสเตียนเราต้องมีการฟื้นฟูใหม่ การสอนลูกวัยรุ่นให้ทำเช่นนี้และดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้า
จึงเป็นสิ่งสำคัญ และนี่อาจเป็นของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณสามารถให้กับลูกๆของคุณได้
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
Focusonthefamily
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น