8 สิ่งที่ชาวคาทอลิกทุกคนควรทำทุกวัน

 

8 สิ่งที่ชาวคาทอลิกทุกคนควรทำทุกวัน

โดย Becky Roach

ฉันรู้ว่าเราแต่ละคนต่างก็มีรายการมากมายหลายสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วในแต่ละวัน และแปดสิ่งต่อไปนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อทำให้คุณรู้สึกขัดกับระบบการบริหารชีวิตที่คุณมีอยู่แล้ว

 

เป้าหมายคือการนำสิ่งเหล่านี้ไปผสมผสานทีละอย่างสองอย่างเพื่อให้เข้ากับกิจวัตรประจำวันของคุณ จากนั้นก็ทำงานต่อไปจนกว่าการกระทำเหล่านี้จะกลายเป็นนิสัยติดตัวโดยธรรมชาติของคุณ ทำให้พวกมันกลายเป็นนิสัยที่ดี ที่ส่งผลต่อสุขภาพใจที่แข็งแรง

 

ในแง่ของความเป็นนิรันดร์ บางสิ่งในรายการสิ่งที่ต้องทำแปดข้อนี้อาจดูเหมือนจะไม่สำคัญนัก แต่จงให้ไลฟ์สไตล์ของคุณสะท้อนความหวังในการใช้เวลาชั่วนิรันดร์กับพระบิดาของเรา

 

8 สิ่งที่ชาวคาทอลิกควรทำทุกวัน

1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการอธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ และสวดสายประคำ

ฟังดูเรียบง่าย แต่ฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมบางวันฉันจึงไม่สามารถมีความ "พอดี" ในการอธิษฐานได้ ยุคสมัยของเราต้องเน้นที่นิสัยต่อไปนี้ คือการกำหนดช่วงเวลาของการอธิษฐานขึ้นมา ตั้งเวลาปลุกด้วยโทรศัพท์มือถือของคุณเป็นเวลาที่คุณสามารถจะอธิษฐานได้  และช่วงเช้าจะดีที่สุด แต่ถ้ามันไม่ได้ผลสำหรับคุณ ก็ลองหาเวลาที่เหมาะกับคุณ แล้วเอาพระคัมภีร์ของคุณออกมาอ่านหนึ่งหรือสองบรรทัด การอ่านพระคำของพระเจ้าทุกวันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เป้าหมายสำหรับคาทอลิกทุกคนคือการสวดสายประคำทุกวัน แต่พวกเราบางคนอยู่ในฤดูกาลแห่งชีวิตที่ไม่สามารถทำได้ เพราะตามรางเวลาเต็มไปหมดด้วยภาระหน้าที่ทางโลก  

 

“การอธิษฐานไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใดนอกจากการเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า เมื่อใจของเราบริสุทธิ์และเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า จิตใจของเราก็ได้รับการปลอบโยนและเปี่ยมด้วยความหอมหวาน สว่างไสวด้วยแสงอัศจรรย์” – นักบุญยอห์น เวียนนีย์

 

2. ฝึกใช้รอยยิ้ม-การมีมารยาทของคุณ-ความใจดี บ่อยๆทุกวัน

คุณเคยได้ยินเพลงสวดโบราณที่ร้องว่า “คนอื่นเขาจะรู้ว่าเราเป็นคริสเตียนได้ก็ด้วยความรักของเรา โดยความรักของเรา…”? มันอาจไม่เป็นความจริงแล้วในโลกทุกวันนี้ เพราะคริสเตียนหลายคนกลายเป็นคนหยาบคายและไม่เกรงใจคนอื่นเหมือนๆ กัน บางครั้งก็เลวร้ายยิ่งกว่านั้นด้วยซ้ำ! เรามารื้อฟื้นความรักแบบคริสเตียนของเราให้กลับมาดีดังเดิมด้วยการส่งรอยยิ้มให้กับรอบข้าง – เมื่อมีคนอื่นลัดคิว เราก็ปล่อยเขาทำไปโดยไม่ต้องหงุดหงิดอารมณ์เสีย ไม่ต้องไปเสียเวลาทะเลาะกับเขา พูดจากันดีๆ- หรือการช่วยเด็ก -หญิงชราข้ามถนน

 

“ขอให้เราพบปะกันด้วยรอยยิ้มเสมอ เพราะรอยยิ้มคือจุดเริ่มต้นของความรัก” – แม่ชีเทเรซา

 

3. ใช้สังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์ (เช่น ใช้เพื่อการสื่อสาร!) โทรหาเพื่อน ถามข่าวพ่อแม่เพื่อนพี่น้อง

ใช่ ฉันรู้ว่ามันมีโพสต์มากมายที่ไม่ได้ส่งเสริมชีวิตคริสเตียน และมีการล่อลวงมากมายในโลกโซเชียลมีเดีย แต่จงใช้มันอย่างมีสติ! ที่สำคัญ จงใช้ในทางที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เช่น การแบ่งปันข้อพระคัมภีร์กับเพื่อน ใช้เพื่อเช็คอินกับเพื่อนร่วมชั้นเก่า ใช้เพื่อเชื่อมต่อกับผู้คนทุกวันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี (อย่าหยุดอยู่แค่นั้น ตั้งเป้าหมายรายสัปดาห์เพื่อการพูดคุยกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว หรือสมาชิกที่โบสถ์)

 

“มิตรภาพเป็นบ่อเกิดของความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และหากไม่มีเพื่อน แม้แต่การแสวงหาที่น่าพึงพอใจที่สุดก็กลายเป็นเรื่องน่าเบื่อหน่ายได้” – นักบุญโทมัสควีนาส

 

4. บอกรักคนที่คุณรักเขาและบอกไปว่าทำไมคุณถึงรักเขา

ฉันยังไม่เคยได้ยินใครบ่นเลยว่า “เขา/เธอ เหนื่อยกับการได้ยินว่าพวกเขาเป็นที่รัก ของใครสักคน” และจะดีกว่าเมื่อพวกเขาได้รับรู้เหตุผลว่าทำไม!เขาจึงเป็นที่รักของคุณ  ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ พี่น้อง หรือลูกของคุณเอง จงบอกคนในชีวิตอย่างน้อยหนึ่งคนในชีวิตว่าคุณรักพวกเขามากแค่ไหนและทำให้เป็นนิสัย

 

“ท่านเรียนรู้ที่จะพูดโดยการพูด เรียนรู้ที่จะเรียนโดยการเรียน เรียนรู้ที่จะวิ่งโดยการวิ่ง เรียนรู้ที่จะทำงานโดยการทำงาน ด้วยการกระทำเช่นนี้ ท่านเรียนรู้ที่จะรักโดยการรักดังนั้นทุกสิ่งที่ท่านคิดว่าจะเรียนท่านจงลงมือกระทำแล้วท่านจะได้รับ” (นักบุญฟรังซิส เดอ ซาล)

5. พูดคุยเกี่ยวกับพระเจ้า

ทำให้พระเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของทุกวันของคุณ ไม่ใช่แค่เวลาอธิษฐานของคุณ นำพระองค์เข้าสู่การสนทนากับเพื่อนๆ ครอบครัว หรือแม้แต่เพื่อนร่วมงาน ถ้าทำได้นะ คุณเชื่อไหม...เรามักจะพูดถึงสิ่งที่เรารักได้ดีทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพยนตร์ ร้านอาหาร เรื่องละคร-ซีรี่ หรือผู้คน… แต่เรามักจะล้มเหลวในการพูดถึงเรื่องของพระเจ้าในลักษณะเดียวกัน

 

“แต่นี่ไม่ได้หมายความว่า เราละเลยพันธกิจการประกาศข่าวดี ยิ่งกว่านั้น เราแต่ละคน ควรค้นหาวิธีต่าง ๆ เพื่อนำพระเยซูเจ้าไปยังทุกที่ที่เราอยู่ เราทุกคนได้รับการเรียกให้เป็นประจักษ์พยานอย่างเปิดเผยแก่ผู้อื่น ถึงความรักที่ช่วยเราให้รอดพ้นขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ที่ประทานความใกล้ชิดเติมเต็มความไม่สมบูรณ์ของเราด้วยพระวาจาและพละกำลัง ทำให้ชีวิตของเรามีความหมาย” (พระสันตะปาปาฟรังซิส)

 

6. เสียสละบางสิ่งบางอย่าง

เป็นสิ่งสำคัญมากที่เราเรียนรู้ที่จะถวายเครื่องบูชาประจำวันและถวายแด่พระเจ้า ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่ดูยิ่งใหญ่ หรือยากเกินไป แต่เป็นสิ่งที่เราทำได้ง่ายๆในแต่ละวัน เช่นการกินขนมปังแต่ไม่ต้องใส่เนย งดของที่เราชอบกิน หรืออาจจะกินมันให้น้อยลงจากที่เคยก็ได้, การปิดวิทยุแล้วขับไปอย่างเงียบๆ นี่เป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ปลูกฝังความบริสุทธิ์ของเราและช่วยให้เราเอาชนะการผูกมัดกับสิ่งของทางโลกได้

 

“ไม่มีที่สำหรับการเห็นแก่ตัว - และไม่มีพื้นที่สำหรับความกลัว ดังนั้น จงอย่ากลัว เมื่อความรักเรียกร้องการพลีกรรม การสละตนเอง” (นักบุญยอห์น ปอลที่ 2 พระสันตะปาปา)

 

7. ฝึกรับใช้ผู้อื่นในทางใดทางหนึ่ง

มองหาวิธีการรับใช้ใครสักคนในแต่ละวัน ขอพูดอีกครั้ง มันไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่สำคัญหรือต้องดูยิ่งใหญ่ หรือยากเกินความสามารถของเรา ไม่ว่าจะเป็นการล้างจานให้แม่ จ่ายค่ากาแฟให้คนแปลกหน้าที่เขาไม่มีเงินจ่าย หรือเก็บขยะเมื่อคุณเดินไปตามถนน อย่าปล่อยให้วันของคุณหมดไปโดยที่คุณยังไม่ได้ทำอะไรเพื่อคนอื่นเลย

 

   “ท่านก็รู้ดีว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ไม่ได้มองดูการกระทำที่ใหญ่โตหรือยากลำบาก แต่ด้วยความรักที่ท่านกระทำ ดังนั้นท่านจะต้องกลัวอะไรเล่า” (นักบุญเทเรซา แห่งพระกุมารเยซู)

 

8. ทบทวนวันของคุณ

ในตอนท้ายของทุกวัน ใช้เวลาสักสองสามนาทีในการคิดย้อนกลับไปในแต่ละวัน เป็นการตรวจสอบความรู้สึกผิดชอบชั่วดี มโนธรรม โดยการตรวจสอบว่าวันนี้มีคนที่คุณต้องการให้อภัยหรือไม่? มีคนที่คุณต้องการขอการให้เขาอภัยให้คุณหรือไม่? นึกถึงวิธีและสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้ให้คุณและขอบคุณสำหรับพรมากมายของพระองค์มีให้คุณ แล้วขอบคุณพระองค์สำหรับทุกสิ่ง! ถามตัวเองว่า วันนี้ฉันได้เข้าใกล้หรือฉันกำลังห่างจากพระเจ้ามากขึ้นผ่านการกระทำของฉัน? หรือ พรุ่งนี้ฉันจะทำให้มันดีขึ้นได้กว่าวันนี้ได้อย่างไร?  

“คุณต้องพยายามสุดความสามารถเพื่อทำให้พระเจ้าพอพระทัยในลักษณะที่จะไม่ทำหรือดูสิ่งใด โดยไม่ปรึกษาพระองค์ก่อน และในทุกสิ่งก็เพื่อแสวงหาพระองค์ผู้เดียวและพระสิริของพระองค์” – นักบุญอัลฟอนซัส โรดริเกซ

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

catholic-link.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot