เราถูกเรียกให้ส่องแสงพระเยซูในโลกมืดนี้
โดย Gaby Santiago
เราถูกเรียกให้ส่องแสงของพระเยซูในโลกมืดนี้และเป็นความสว่างของโลก
มันง่ายและสบายที่เราจะใช้ชีวิตและเป็นเหมือนคนของโลก แต่ในฐานะผู้เชื่อเราถูกเรียกให้ส่องแสงสว่าง
พระเจ้าปรารถนาที่จะส่องแสงผ่านเราเพื่อพระองค์จะได้เป็นที่รู้จัก
เพื่อให้พระองค์ส่องผ่านเรา
เราต้องเต็มใจที่จะโดดเด่นในฝูงชนด้วยการพูดและดำเนินชีวิตตามความจริงด้วยความรัก
ศัตรูจะพยายามทำให้ความสว่างของเราลดลงโดยหลอกล่อให้เราบูชาสิ่งของในโลกนี้มากกว่าพระเยซู
ศัตรูมีเล่ห์เหลี่ยมที่ล่อลวงให้เราอดทน(ประนีประนอม)ต่อบาปที่อาจดูเล็กน้อย
แต่ถ้าเรายอมให้ศัตรูลดความสว่างของเราต่อไปเรื่อยๆ
เราก็จะจบลงในความมืดเช่นเดียวกับโลกนี้
เมื่อเรามองข้ามต่อความตั้งใจที่จะเอาชนะความเห็นแก่ตัว เราจะลดความสว่างลงและเมื่อเราเลือกคบหากับตัณหา เราก็ได้ลดความสว่างลงเช่นกัน
เมื่อเราเลือกที่จะรักความสนใจของโลกและไม่รักพระเจ้าด้วยสุดจิต
สุดใจ และสุดความคิดของเรา
เราจะลดความสว่างของเราลงเช่นกัน
เมื่อเราเลือกที่จะไล่ตามสิ่งต่าง ๆ เพื่อชื่อเสียงและการยอมรับของเราเอง
ไม่ใช่เพื่อพระสิริของพระเจ้า เราจะลดความสว่างของเราลงเช่นกัน
เมื่อเราเลือกความบาป
เราก็ได้เลือกที่จะซ่อนของประทานอันสวยงามที่พระเจ้าประทานแก่เราซึ่งก็คือการถวายเกียรติแด่พระองค์
มัทธิว 5:14-16 กล่าวว่า “14“ท่านทั้งหลายเป็นแสงสว่างของโลก
เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาจะซ่อนไว้ไม่ได้ 15เช่นเดียวกัน
เมื่อคนจุดตะเกียงแล้วย่อมไม่เอาฝาครอบ
แต่จะตั้งไว้บนเชิงตะเกียงให้ส่องสว่างแก่ทุกคนในบ้าน 16ในทำนองเดียวกัน
จงให้ความสว่างของท่านกระจ่างแจ้งต่อหน้าคนทั้งหลาย
เพื่อเขาจะเห็นการดีของท่านและสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์”
ชีวิตจึงไม่ใช่การทำให้ผู้คนรู้จักเรา
แต่เกี่ยวกับการทำให้ผู้คนรู้จักพระเยซู
วัฒนธรรมของเราในยุคนี้ต่างมุ่งไปสู่การมีชื่อเสียง
แต่ชื่อเสียงไม่เคยทำให้เราพอใจ มันจะปล่อยให้เราต้องการมากขึ้นและดึงเราให้ห่างไกลจากพระเยซู
การดำเนินชีวิตที่ทำให้พระเยซูพอพระทัยเท่านั้นที่จะทำให้เรามีความพอใจได้อย่างแท้จริง
เพราะพระองค์ทรงทำให้เราพอใจโดยพระองค์เท่านั้น
ความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัวและความโลภจะทำให้ใจของเราไม่รักพระเจ้า
วันนี้เรารักพระเจ้าด้วยสุดใจหรือเรารักความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวของเราอยู่? ขอให้เราเป็นคนใหม่คนที่ไม่เหลือที่ว่างให้แก่ความทะเยอทะยานที่เห็นแก่ตัวและความโลภที่มีอยู่ในใจของเราอีกต่อไป
คุณจะเลือกที่จะส่องแสงของพระเยซูและเป็นความสว่างของโลกหรือไม่?
เมื่อเรามอบชีวิตของเราให้กับพระเยซู เราจะพบชีวิตเพราะพระเยซูคือชีวิต และมันก็ไม่ใช่เงื่อนไขที่จะบอกว่าถ้าคุณทำแล้วคุณจะมีแต่ความสุข จะไม่พบการทดลองใดๆ แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดของคุณเองกับองค์พระเยซู และเป็นการค้นหาพระองค์ในชีวิตเพื่อทำให้เรามีชีวิต(นิรันดร์)
เราไม่เพียงแต่มีชีวิตนิรันดร์กับพระเยซูเท่านั้น แต่ยังมีชีวิตที่สมบูรณ์บนแผ่นดินโลกด้วย
ในพระเยซู เราพบชีวิตที่ปราศจากความกลัว ความโกรธ
ความไม่มั่นคง ความหดหู่ใจ และด้านลบอื่นๆ พระเยซูตรัสในยอห์น 10:10 ว่า “ขโมยนั้นมาเพียงเพื่อลัก
ฆ่า และทำลาย เราได้มาเพื่อเขาทั้งหลายจะมีชีวิตและมีชีวิตอย่างครบบริบูรณ์”
การค้นหาพระเยซูจะทำให้เราต้องปฏิเสธบางสิ่งในโลกนี้และจะเรียกเราไปสู่ชีวิตแห่งการเสียสละ
และการติดตามพระเยซูเป็นวิธีเดียวที่เราจะพบชีวิตที่บริบูรณ์ตามที่ใจเราปรารถนา
พระเยซูได้ครอบครองหัวใจทั้งหมดของคุณแล้วหรือยัง? พระองค์กำลังมองหาผู้ที่จะรักพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจและสุดความคิด
(มัทธิว 22:37) การล่อลวงจะมาดึงความรักของเราออกจากหัวใจของพระเยซู
นี่คือเวลาที่เราต้องมองย้อนกลับไปที่พระเยซูและจำไว้ว่าไม่มีสิ่งใดสวยงามไปกว่าพระองค์
เมื่อความโกรธ เกลียด ความวิตก ริษยา สงสัย หรือราคะเกิดขึ้น ให้หันกลับมามองผู้เป็นความสว่าง
และในพระคริสต์
ความมืดทั้งหมดหายไปเพราะพระองค์ทรงเป็นความสว่างของมวลมนุษย์ (ยอห์น 1:4)
อย่าเอาพระเยซูไปผสมเข้ากับตัวตนเก่าของเราที่พระเยซูได้ทรงปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระ และเฉพาะในพระเยซูเท่านั้นที่เราจะส่องแสงและเป็นความสว่างของโลกได้
ยังมีอะไรบ้างในชีวิตของคุณที่มันอาจจะมาลดความสว่างของพระเยซูลงได้?
สิ่งใดก็ตามที่ไม่ใช่พระเยซู มันจะไม่สามารถนำมาซึ่งความจริง ความหวัง
และความสว่างได้ เพราะมีเพียงพระเยซูเท่านั้นที่เป็นความสว่างของมวลมนุษยชาติ
(ยอห์น 1:4)
มีความจริง ความหวัง และความสว่างเพียงหนึ่งเดียวในโลกนี้และนั่นคือพระเยซู ด้วยความดีของเราโดยลำพังโดยปราศจากพระเยซูมันไม่สามารถส่องแสงได้เพราะเป็นสิ่งชั่วคราวและไม่บริสุทธิ์
เราต้องการพระผู้ช่วยให้รอด
นั่นคือสาเหตุที่พระเยซูเสด็จมาสิ้นพระชนม์และหลั่งพระโลหิตของพระองค์เพื่อทำให้เราอยู่ในสถานะที่ถูกต้องกับพระเจ้า
เราทุกคนเกิดมาในความบาป แต่ในพระคริสต์
ตอนนี้เราถูกชุบให้เป็นขึ้นมาใหม่และถูกสร้างใหม่ (2 โครินธ์ 5:17)
ขอให้เราเป็นเหมือนยอห์นผู้เป็นที่รักซึ่งยึดมั่นในการรู้จักพระเยซู ยอห์นเต็มใจสละชีวิตเพื่อรู้จักพระเยซูและเป็นศิษย์คนเดียวที่ถูกตรึงที่กางเขนของพระเยซู
ยอห์นไม่สนใจเกี่ยวกับตำแหน่งและเกี่ยวกับการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด
เขาแค่อยากจะใกล้ชิดพระเยซูมากที่สุด เขาพอใจกับตำแหน่งที่พระเยซูทรงรัก ยอห์น
13:23-24 กล่าวว่า “ศิษย์คนหนึ่งซึ่งพระเยซูทรงรักกำลังเอนกายข้างพระองค์…”
ให้เราจับตาดูพระเยซูผู้ทรงบริสุทธิ์เพียงผู้เดียวและทำให้พระองค์เป็นแบบอย่างของเรา
เราต้องตายจากความปรารถนา ความหลงใหล และการแสวงหาของเราเอง
และรับพระประสงค์ของพระคริสต์สำหรับชีวิตของเรา กาลาเทีย 2:20
กล่าวว่า “ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป
พระคริสต์ต่างหากทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ชีวิตที่ข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในกายนี้
ข้าพเจ้าดำเนินด้วยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรักข้าพเจ้าและประทานพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า…”
ดังนั้น จำไว้ว่าคุณถูกเรียกมาเพื่อให้ส่องแสง
คำอธิษฐาน: ข้าแต่พระเยซูเจ้า โปรดนำสิ่งใดๆ
หรือใครก็ตามออกไปจากชีวิตของข้าพระองค์ รวมถึงทุกสิ่งอย่างที่จะทำให้ความสว่างของพระองค์ลดลง
ข้าพระองค์ภาวนาให้ดวงตาของข้าพระองค์จับจ้องไปที่พระองค์และมีพระองค์เพียงผู้เดียวเท่านั้น
อาเมน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
livingrevelations.com
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น