เป็นแบบอย่างของคริสเตียนที่ดีสำหรับลูกๆของคุณ
ผู้ปกครองหลายคนถามตัวเองในคราวเดียวว่า “ฉันจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูกได้อย่างไร? ฉันจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ดี? หรือ มันจะสร้างความแตกต่างได้จริงเหรอ?” ในฐานะพ่อแม่ที่เป็นคริสเตียน เรารู้ว่าพระเจ้าได้ประทานลูกเพื่อให้เราได้สอนเขาและชี้นำในทางของพระองค์ให้กับพวกเขา
นี่เป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ แต่เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี?
มันสร้างความแตกต่างได้จริงหรือ?
จากประสบการณ์ของฉัน ฉันเชื่อว่าเด็กๆ เป็นเหมือนฟองน้ำ
พวกเขาซึมซับข้อมูลจากสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่องในขณะที่พวกเขาใช้ชีวิตในแต่ละวันและสังเกตรูปแบบกิจวัตร
แม้ว่าคุณจะคิดว่าพวกเขาไม่สนใจ แต่จริงๆแล้วพวกเขามองดูคุณอยู่
พ่อแม่ที่เป็นคริสเตียนสามารถใช้ประโยชน์จากทุกช่วงเวลา
ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน (นอกบ้าน หรือในบ้าน) เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับลูกๆ
ของพวกเขา
ฉันจะเป็นแบบอย่างของคริสเตียนที่ดีแก่ลูกของฉันได้อย่างไร?
เนื่องจากเด็กๆ ให้ความสนใจกับพ่อแม่ในชีวิตประจำวัน การวางตัวอย่างที่สอดคล้องกันจึงอาจเป็นเรื่องยาก เมื่อมีคนขับรถตัดหน้าคุณ คุณจะตอบสนองอย่างไร? ลูกๆวัยรุ่นของคุณกำลังเฝ้าดูปฏิกิริยาของคุณและจะสะท้อนมันเมื่อเขา/เธอโตขึ้น และต้องอยู่หลังพวงมาลัยเช่นเดียวกับคุณตอนนี้ คุณสามารถใช้โอกาสนี้เพื่อสอนบทเรียนด้านความปลอดภัยในการขับขี่และบอกวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะ และท่าทีที่เหมาะสม สอนกฎจราจรและกฎของการขับขี่บนถนนให้กับเขา และอีกทางเลือกหนึ่งคือให้คุณแสดงออกด้วยวาจาที่ดี ถึงแม้จะมี 'บางทีที่คนอื่นขับรถแบบแย่มากๆ ไม่มีมารยาทในการขับขี่” เราก็ไม่ต้องไปตัดสิน หรือถือโทษโกรธเคืองเขา แต่ให้เราอธิษฐานเผื่อรถคันนั้นแทน เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนคนนั้นเขากำลังเผชิญกับอะไรอยู่' ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ให้คุณใช้โอกาสเหล่านั้นในการเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับบุตรหลานของคุณ ให้พวกเขาเห็นท่าทีและทัศนคติเชิงบวก ที่คุณใช้ในการแก้ปัญหาเพื่อจะก้าวข้ามการต่อสู้ในช่วงเวลานั้น
ฉันควรเริ่มเมื่อใด
พระคริสต์ทรงเรียกให้เราเป็นแบบอย่างตามพระองค์เสมอ
นี่เป็นคำสั่งที่สูงสุด อย่างไรก็ตาม เปาโลเขียนไว้ใน 2 โครินธ์ 9:8 ว่าพระเจ้าสามารถจัดเตรียมทุกสิ่งที่เราต้องการได้ตลอดเวลา
จงนำคำแห่งปัญญาเหล่านี้ไปปฏิบัติและเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับลูกของคุณ
การลงทุนของคุณจะคุ้มค่ากับเวลาและความพยายามอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
enlightiumacademy
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น