วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2565

11 เคล็ดลับในการพูดคุยเกี่ยวกับพระเจ้ากับเพื่อนของคุณ

 


11 เคล็ดลับในการพูดคุยเกี่ยวกับพระเจ้ากับเพื่อนของคุณ

โดย Sebastian Campos

หลายครั้งที่เราไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบคริสเตียน เราพบว่าตัวเองติดอยู่ระหว่างกลุ่มก้อนหินที่ยากในแง่ของการแบ่งปันหรือยากแม้แต่ปกป้องความเชื่อของเราเอง

 

เรารู้ว่านี่อาจเป็นเรื่องท้าทาย เราจึงนำเสนอ 11 แนวคิดที่คุณสามารถนำไปใช้เมื่อพูดถึงเรื่องพระเจ้ากับผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อนๆ ที่มีความเชื่อเพียงเล็กน้อยหรืออาจไม่มีเลย

 

วิธีพูดคุยกับเพื่อนของคุณเกี่ยวกับพระเจ้า

1. สนทนาธรรมของพระศาสนจักรในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

ผู้ประกาศข่าวประเสริฐ  เป็นนักแปล และพระเยซูทรงอธิบายความลึกลับอันยิ่งใหญ่ของความเชื่อโดยใช้แนวคิดง่ายๆ ที่สื่อสารผ่านอุปมา. พระศาสนจักรสอนสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์แก่เราซึ่งบางครั้งเรารู้สึกว่าพระศาสนจักรต้องการให้เราสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาปรัชญาเพื่อที่จะอธิบายข่าวประเสริฐ

 

วันนี้ให้คุณเริ่มต้นด้วยการใช้เวลาศึกษาคำสอนเหล่านี้(อ่านพระคัมภีร์)ด้วยตนเองแล้วทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงช่วยนำคำสอนมาเป็นคำพูดง่ายๆ เพื่อให้เพื่อนๆ ของคุณเริ่มเข้าใจ

 

2. ลองใช้ศรัทธาและการมีอารมณ์ขัน

อันที่จริงพระเจ้าชอบการมีอารมณ์ ! อารมณ์ขันสามารถทำให้หัวใจที่แข็งกระด้างและดื้อรั้นที่สุดคุกเข่าลงได้ บางครั้งเรื่องตลกที่ดีหรือเสียงหัวเราะที่ดีอาจเป็นจุดเปลี่ยนในการสนทนาธรรมครั้งนี้ได้

 

3. ABCs ของคำให้การเป็นพยานส่วนตัวของคุณ

แน่นอน การกล่าวว่าพระเจ้ามีอยู่จริงเพราะคุณรู้สึกว่ามันอยู่ในใจ จะทำให้คุณดูโง่มาก แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับสิ่งนี้: พระเจ้าได้ทำบางสิ่งบางอย่างในชีวิตของคุณและการเล่าประสบการณ์นั้นๆให้คนอื่นฟังอาจไม่สามารถทำให้คนอื่นเชื่อได้ทันที

 

เมื่อคุณกำลังแสดงตนเป็นประจักษ์พยานถึงพระเจ้า ลองพยายามทำดังนี้: A. ประกาศด้วยความยินดี B. พูดให้สั้น C. สารภาพความเชื่อของคุณในพระคริสต์ (ให้พระองค์เป็นศูนย์กลาง!) ไม่มีอะไรที่ดูไม่น่าเชื่อมากไปกว่การเล่าเรื่องยาวๆ ฟังดูน่าเบื่อ และเอาแต่ใจตัวเอง ดังนั้นคุณต้องไตร่ตรองและลำดับความสำคัญให้ดี

 

4. รู้จัก “เมล็ดพันธุ์ของพระเจ้า”

พระเจ้าทรงอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งและอยู่ในความเป็นจริงของมนุษย์ ดังนั้นความจริงของพระองค์ก็อยู่ที่นั่นในผู้ที่ไม่เชื่อด้วย(คนที่คุณกำลังพูดด้วย) จงแสวงหาเมล็ดพืชของพระเจ้าที่มีอยู่ในความไม่เชื่อและความเกลียดชังที่ซ่อนอยู่ในใจที่เต็มไปด้วยข้อโต้แย้งที่ไม่มีเหตุผลและมีเหตุผล

 

5. อย่าแยกศีลธรรมออกจากความรัก

ส่วนใหญ่ของผู้ที่ไม่เชื่อ จะเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆเพราะเขาอาจมีเครื่องวัดศีลธรรมที่สูงมากจนรู้สึกว่าไม่สามารถหรือไม่อาจเต็มใจที่จะดำเนินชีวิตในลักษณะนี้และปรารถนาที่จะใช้ชีวิตแบบนี้ได้ ให้เราเบอกพวกเขาให้รู้ว่าพระเจ้ารักพวกเขาเหมือนอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

 

บอกไปว่าพระเจ้าไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าให้พวกเขาค้นพบความรักของพระองค์ ถึงกระนั้น ความรักของพระเจ้าก็มีพลัง มันเปลี่ยนเราได้  ดังนั้น ในการเผชิญหน้ากับพระเจ้า ชีวิตของเราต้องเปลี่ยนแปลง และเราต้องเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตและรักตามที่พระองค์สอนเรา อย่างไรก็ตาม ความรักของพระเจ้าก็อดทนเช่นกัน พระองค์ทรงทราบดีว่าสิ่งต่างๆ ต้องใช้เวลาและยินดีจะติดตามเราไปทุกย่างก้าว

 

6. อย่าพยายามเอาชนะการโต้เถียง

พูดโดยไม่พยายามเอาชนะการโต้แย้งหรือพยายามแสดงให้เห็นว่าคุณเก่งกว่าคนอื่น มันไม่ใช่การแข่งขัน  ฝึกมองสิ่งต่าง ๆ จากมุมมองของความรัก เอาใจใส่กับบุคคลและเรื่องราวของเขา/เธออย่างจริงใจ

 

อย่าให้การสนทนาของคุณกลายเป็นการโต้วาที: การโต้วาทีมักจะเน้นความแตกต่างของเราซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เรามีร่วมกัน! การประกาศข่าวประเสริฐ ต้องไม่ใช่การสนทนาเพื่อเลือกข้าง หรือเพื่อหา คนแพ้ คนชนะ 

 

7. อย่าเลี่ยงปัญหา เพราะคนอื่นรู้ว่าคุณเป็นผู้มีความเชื่อ

มันเหมือนกับเวลาไปงานปาร์ตี้ คุณไม่สามารถไปแอบนั่งในมุมใดมุมหนึ่งและมองดูคนอื่นๆอย่างเงียบ ๆ เพราะผู้ที่ไม่มีความเชื่อ(โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า) เขาจะเปิดใจพูดคุยและรับฟังเรื่องราวพระเจ้ากับผู้ที่เชื่อที่กล้าคุยอย่างเปิดเผย

 

มาเตรียมตัวให้พร้อม และอย่ากังวลมากเกินไป การหลีกเลี่ยงหัวข้อเพราะคุณกลัวมากเกินไปที่จะทำผิดพลาด บางครั้งอาจสร้างความรำคาญมากกว่าสิ่งอื่นใด จำไว้ว่าศรัทธาของคุณเป็นของขวัญ เป็นสิ่งที่น่าขอบคุณและต้องแบ่งปัน

 

8. ให้ทั้งชีวิตของคุณพูดถึงพระเจ้า

ข้อโต้แย้งที่น่าเชื่อถือที่สุดคือความเชื่อมั่นที่แท้จริงของคุณ เชื่อมั่นในจุดที่แต่ละวันคุณได้พยายามดำเนินชีวิตตามสิ่งที่คุณเชื่อ (เรารู้ว่าการพยายามไม่ได้หมายถึงการบรรลุผลสำเร็จเสมอไป แต่มันบ่งบอกถึงความพยายามอย่างจริงใจที่จะสอดคล้องและจริงจัง)

 

9. พูดจากใจ

เราเป็นมนุษย์ที่อ่อนแอ การพูดจากประสบการณ์ของเราเองเกี่ยวกับความเปราะบางและความสงสัยอาจเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างมาก อันที่จริง หลายครั้งที่เกิดประสบการณ์แห่งความสงสัยนั้นก็เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะมันทำให้เกิดพื้นฐานร่วมกัน (เราทุกคนต่างต้องเคยผ่านแบบทดสอบนี้!)

 

หลีกเลี่ยงการทำเหมือนว่าคุณมีพลังวิเศษและมีความรู้ที่กว้างขวาง: พระเจ้าเป็นความลึกลับ  พระองค์ทรงยิ่งใหญ่กว่าเราทุกคน และหลายครั้งพระองค์ทรงเรียกให้เราประสบกับความไม่แน่นอนค่อนข้างบ่อย

 

10. มองหาความเป็นอยู่ที่ดีให้ผู้อื่น

พระเจ้าเป็นของขวัญที่เราอยากแบ่งปัน และนั่นคือสิ่งที่คนตรงหน้าของเราควรได้สัมผัส  ศาสนาคริสต์เป็นมากกว่าพรรคการเมืองบางประเภทที่มีอุดมการณ์ของตนเอง แต่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีชีวิตระหว่างพระเจ้ากับคริสตจักรของพระองค์ พระเจ้าคือของขวัญที่ดีที่สุดที่เราจะมอบให้กับคนรอบข้างได้

 

11. คุณและเขา/เธอ มีบางอย่างที่เหมือนกัน: คุณทั้งคู่มีอิสระที่จะเชื่อในสิ่งที่คุณต้องการ

ความเชื่อควรเป็นทางเลือกอิสระ ประสบการณ์แห่งความเชื่อต้องเป็นประสบการณ์ที่ไหลลื่น ซึ่งเราได้รับมาและให้ออกไปอย่างเสรี ผู้ไม่เชื่อมีสิทธิเลือกอย่างอิสระและคุณต้องเคารพในสิ่งนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบไหน

 

เราต้องรักคนๆ นั้น แม้ว่าการเลือกของเขา/เธออาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะชอบเสมอไป จงจำไว้ว่า “การประกาศข่าวประเสริฐเป็นความรักเสมอ”

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

catholic-link.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...