วันพุธที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2563

คำตอบนุ่มนวลช่วยละลายความโกรธ

 


คำพูดที่รุนแรง

คำตอบนุ่มนวลช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป

แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ

สุภาษิต 15: 1

 ถ้าเพื่อนของคุณ เดินเข้ามาหาคุณและเริ่มตะโกนใส่หน้าคุณเกี่ยวกับข้อบกพร่องหรือทุกสิ่งที่คุณทำผิดพลาดคุณจะรู้สึกอย่างไร? คนส่วนใหญ่อาจจะตะโกนกลับหรือกลัวและไม่พูดอะไรเลย ในทางกลับกันหากเพื่อนคนเดิมเปลี่ยนวิธีที่แสดงออกโดยการเดินมาหาคุณแล้วพูดเบา ๆ โดยบอกว่าเขากังวลเกี่ยวกับบางสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ หากเขาใช้คำพูดที่นุ่มนวลคุณอาจจะฟังเขาใช่ไหม? ในพระคัมภีร์ตำหนิการด่า—การประณามคนอื่นด้วยคำพูดที่แสดงการดูถูก, ทำให้เสื่อมเสีย, หรือคำพูดหยาบหยาม. บุคคลที่ใช้คำพูดดังกล่าวจนเป็นนิสัยเขากำลังทำให้ตัวเองอยู่ในอันตราย

เมื่อมีคนมาตะโกนและกรีดร้องพูดใส่หน้าคุณ คุณคงจะไม่สนใจอยากฟังในสิ่งที่เขาพูด แต่หากมีคนเข้ามาคุยกับคุณด้วยคำพูดและท่าทีที่นุ่มนวล มันคงอยากจะทำให้คุณสนใจฟังในสิ่งที่เขาจะพูดบ้าง  พระวจนะในวันนี้ต้องการสอนเราว่าคำพูดที่นุ่มนวลมันดีกว่าคำพูดที่รุนแรงหรือคำพูดที่เร้าโทสะ เพราะหากมันเกิดขึ้นกับตัวเราเอง เราก็ต้องการได้ยิน และต้องการได้เห็นท่าทีที่นุ่มนวลจากคนรอบข้างมากกว่าท่าทีหยาบคายและคำพูดที่กักขฬะ ดังนั้นเมื่อคุณต้องการพูดกับผู้อื่น คุณเองก็ต้องรู้จักให้เกียรติผู้อื่นจงเลือกทำสิ่งดีเพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้า จงพูดกับเพื่อนด้วยคำพูดและท่าทีที่อ่อนโยน จงหลีกเลี่ยงการใช้คำพูดที่รุนแรง อย่าใช้คำพูดทีมีพลังด้านลบเพราะมันสามารถไปกระตุ้นความโกรธของคนฟังได้

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกรู้จักยับยั้งชั่งใจและรู้จักใช้คำพูดที่นุ่มนวลอ่อนโยนกับทุกคน ขอให้ลูกมีคำพูดที่ดี ๆ แม้แต่กับคนที่มีนิสัยไม่น่ารักด้วยเทอญ เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...