วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พระแสงของพระวิญญาณ

 


พระแสงของพระวิญญาณ

จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณคือพระวจนะของพระเจ้า

เอเฟซัส 6:17

คุณคือนักรบ เพราะถ้าหากคุณเชื่อว่าพระเยซูเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและคุณยอมรับพระองค์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดส่วนตัวของคุณก็แสดงว่าคุณเป็นนักรบของพระเจ้าคนหนึ่งในการต่อสู้กับซาตาน นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องพกปืน พกมีด แต่คุณก็มีอาวุธ ซึ่งอาวุธนี้แตกต่างจากอาวุธส่วนใหญ่ที่เรียกกันว่า "พระแสงของพระวิญญาณ" อาวุธของคุณคือคัมภีร์ไบเบิล เมื่อคุณอ่านพระคัมภีร์ในนั้นจะแสดงให้เห็นถึงวิธีดำเนินชีวิตและบอกเล่าถึงพระสัญญาและให้คำอธิษฐานต่างๆแก่คุณ

พระคัมภีร์คือความจริง ดังนั้นเมื่อคุณอ่านและอธิษฐาน นั่นหมายถึงคุณกำลังอธิษฐานพระสัญญาของพระเจ้าออกมาดัง ๆ และพูดความจริงกับศัตรู ซึ่งพระวจนะเปรียบเหมือนพระแสงในมือของนักรบผู้ยิ่งใหญ่ และความจริงจะเอาชนะซาตานศัตรูของคุณได้ พระคัมภีร์มีพลังมหาศาล ดังนั้นคุณต้องอ่านให้ได้มากที่สุดและใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจแล้วนำมาปฏิบัติตามให้เกิดผลดีในชีวิต!

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกต้องการเป็นนักรบเพื่อพระองค์ ลูกไม่ต้องการทำร้ายผู้อื่น แต่ลูกต้องการเป็นนักรบที่ใช้พระแสงของพระวิญญาณสู้กับมารซาตาน เพราะลูกเชื่อว่าความจริงจะช่วยให้ลูกเอาชนะซาตานศัตรูของลูกได้ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสตเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พระคัมภีร์เป็นแหล่งที่มาของความจริงทั้งหมด

 


ความจริง

เราได้ละทิ้งการกระทำต่างๆ ที่แอบแฝงและน่าอับอายไปแล้ว เราไม่ใช้อุบายและไม่ได้บิดเบือนพระวจนะของพระเจ้า แต่โดยการเปิดเผยความจริง เราเสนอตัวเราต่อมโนธรรมของทุกคนเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า

2 โครินธ์ 4: 2

พระคัมภีร์เป็นแหล่งที่มาของความจริงทั้งหมด เป็นพระดำรัสของพระเจ้าบอกเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่ไม่ควรทำ มันเป็นจดหมายถึงที่เขียนคุณและมนุษยชาติทั้งมวลว่าพระเจ้ารักคุณมากแค่ไหนและพระองค์คาดหวังอะไรจากคนที่พระองค์รักบ้าง แต่มีบางคนที่พยายามใช้พระคัมภีร์บิดเบือนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง พวกเขาพยายามทำให้ผู้คนเห็นด้วยกับพวกเขาด้วยเหตุผลที่ไม่ดีที่ไม่ได้มาจากพระเจ้า และพระเจ้าจะตัดสินคนที่บิดเบือนเกี่ยวกับพระคัมภีร์คนที่ชอบแต่งหรือสร้างเรื่องที่ไม่เป็นความจริง 

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องพูดความจริงเกี่ยวกับพระคัมภีร์เท่านั้น แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไร? คำตอบก็คือ เมื่อคุณไปโบสถ์ให้คุณตั้งใจฟังอย่างระมัด และคุณต้องอ่านพระคัมภีร์อย่างละเอียดด้วยตัวคุณเองและถามคำถามกับคนที่มีความรู้มากกว่าคุณ เมื่อคุณเรียนรู้ความจริงที่อยู่ในพระคัมภีร์คุณจะสามารถรับรู้และปฏิเสธสิ่งที่ไม่เป็นความจริงได้

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักขอพระองค์โปรดช่วยลูกให้เข้าใจพระคัมภีร์และโปรดสำแดงวิธีที่ลูกจะสามารถบอกข่าวประเสริฐต่อคนอื่นด้วยวิธีที่ซื่อสัตย์และยึดหลักความจริงของพระองค์เท่านั้นด้วยเทอญ ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสตเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 siamchristian.com


วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พระวจนะเป็นสมบัติที่ล้ำค่า

 


สมบัติที่ล้ำค่า

บัดนี้ข้าพเจ้าฝากท่านไว้กับพระเจ้าและกับคำแห่งพระคุณของพระองค์ซึ่งสามารถก่อสร้างท่านขึ้นได้และให้ท่านมีมรดกด้วยกันกับบรรดาธรรมิกชน

กิจการ 20:32

พระคัมภีร์ไม่ได้เป็นเพียงหนังสือ แต่เป็นสมบัติที่มีค่ามากกว่าทองคำ-เพชรหรือเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ เพราะทุกสิ่งมันสามารถหายไปได้ แต่สมบัติในพระคัมภีร์ไม่สามารถสูญหายไปได้ พระเจ้าและพระเยซูแล้วก็คุณจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้า พระเจ้ามีแผนการใหญ่สำหรับชีวิตของคุณบนโลกนี้และสำหรับชีวิตของคุณในสวรรค์

คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับแผนการเหล่านั้นในพระคัมภีร์หรือยัง เพราะนั่นคือสิ่งที่ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นขุมทรัพย์ที่ล้ำค่า! เพราะมันจะสร้างคุณขึ้นและให้คำสัญญาที่ดีสำหรับอนาคตของคุณ คุณอาจจะไม่ได้ร่ำรวยทรัพย์สินบนโลกนี้ แต่บิดาบนสวรรค์ของคุณร่ำรวยมากและพระองค์มีมรดกที่เตรียมไว้สำหรับคุณ   และจะดีกว่าทุกสิ่งที่คุณสามารถจินตนาการได้!

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกขอขอบคุณพระเจ้าสำหรับสมบัติที่ยอดเยี่ยมนี้ที่ได้บอกลูกเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระองค์ เกี่ยวกับวิธีการของพระองค์และคำสัญญาที่ยอดเยี่ยมของพระองค์กับลูก 

ขอโปรดช่วยให้ลูกไม่มุ่งจุดสนใจไปที่ทรัพย์สมบัติชั่วคราว แต่มุ่งสนใจพระองค์ ผู้ทรงเป็นสมบัติล้ำค่าของลูก ขอโปรดสอนลูก ถึงความชื่นชมยินดีที่ได้เปิดเผยตัวเองต่อพระองค์ และการที่พระองค์ทรงสถิตอยู่ด้วยและจัดเตรียมสิ่งต่างๆ ในชีวิตของลูก 

เอเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 thaiodb.org

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พระวจนะของพระเจ้า

 


 ไม่เป็นที่นิยมเสมอไป

แต่เมื่อพวกยิวที่อยู่ในเมืองเธสะโลนิกาทราบว่าเปาโลกล่าวสั่งสอนพระวจนะของพระเจ้าในเมืองเบโรอาด้วย พวกเขาก็มายุยงฝูงชนที่นั่น

กิจการ 17:13

 พระวจนะของพระเจ้าดึงดูดผู้คนมากมายก็จริง แต่จะอาจทำให้ผู้คนบางส่วนโกรธหรือไม่พอใจ เพราะคนบางคนเขาไม่ต้องการฟังใคร แม้แต่พระเจ้า คนประเภทนี้ชอบสร้างความเดือดร้อน พวกเขาไม่ต้องการให้คนอื่นได้ยินพระวจนะของพระเจ้าด้วยดังนั้นพวกเขาจึงทำในสิ่งที่ทำได้เพื่อหยุดคนที่เทศนาและสั่งสอน

 นี่ไม่ใช่สิ่งใหม่ หรือปัญหาใหม่ เพราะมีคนหลายคนไม่อยากคิดถึงพระเจ้าหรือรับรู้ว่าพระองค์มีแผนและกฎอะไรบ้างสำหรับพวกเขา พวกเขาค่อนข้างเชื่อมมั่นในทางของตัวเอง จะอย่างไรก็ตามไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดความจริงของพระวจนะของพระเจ้าได้ พระเจ้าจะทำให้เราแน่ใจว่าผู้ที่ต้องการฟังพระวจนะของพระองค์จะได้รับโอกาส และบางทีคุณอาจจะเป็นคนหนึ่งในนั้น !

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักขอโปรดเปิดใจของผู้คนที่ยังไม่รู้จักพระองค์ โปรดทำให้พวกเขาใจอ่อนลงและอยากที่จะเรียนรู้ถ้อยคำแห่งปัญญาของพระองค์  ลูกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสตเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

จงเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า

 


จงเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า

แต่พระองค์ตรัสว่า “คนทั้งหลายที่ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าแล้วถือรักษาไว้ต่างหากที่เป็นสุข”

ลูกา 11:28

สิ่งที่พระเจ้าปรารถนาในตัวเราคือ "ความจงรักภักดี" (สุภาษิต.19:22) และสำคัญที่สุดของหน้าที่ในการเป็นคนของพระเจ้าคือ "จงยำเกรงพระเจ้าและเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์" (ปัญญาจารย์.12:13) เพราะการเชื่อฟังเป็นผลมาจากความรักที่เรามีต่อพระเจ้า หากรักจริงเราจะเชื่อฟังและทำดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง

"การเชื่อฟัง" ไม่ใช่เรื่องของกฎระเบียบแต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ ความเชื่อเป็นก้าวแรกของการติดตามพระเจ้า เพราะถ้าขาดความเชื่อ จะไม่เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า พระองค์ไม่ได้ต้องการเพียงให้คุณอ่านพระวจนะของพระองค์เท่านั้น แต่พระองค์ต้องการให้คุณศึกษาและนำไปใช้ให้เกิดผลดีในชีวิตจริง  ผู้ที่เชื่อฟังจะได้รับพร ผู้ที่ไม่เชื่อฟังจะไม่ได้รับพร ดังนั้นจงรับพรด้วยการเชื่อฟังพระวจนะของพระเจ้า

 คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักลูกไม่ต้องการเพียงแค่อ่านพระวจนะของพระองค์แต่ลูกต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยพระคำของพระองค์! ในนามพระเยซูคริสตเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

 


พลังที่ดึงดูดผู้คน

ต่อมาขณะที่พระองค์ทรงยืนอยู่บนฝั่งทะเลสาบเยนเนซาเรท และฝูงชนกำลังเบียดเสียดพระองค์เพื่อฟังพระวจนะของพระเจ้านั้น

ลูกา 5: 1

แม่เหล็ก (Magnet) คือ วัตถุที่มีคุณสมบัติ ดูดสารดึงดูดวัตถุสะสารที่มีส่วนประกอบของโลหะ แม่เหล็กเป็นวัตถุที่สร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมาได้ มีตั้งแต่ระดับอ่อนๆ แบบที่เราใช้ติดตู้เย็นจนไปถึงแม่เหล็กที่มีพลังมากจนแรงมนุษย์ฉุดไว้ไม่อยู่ ถ้าคุณถือแม่เหล็กไว้ในมือแล้วยืนอยู่ติดๆกับโต๊ะที่มีเศษโลหะปะปนอยู่  หากคุณเลื่อนแม่เหล็กเข้าไปใกล้ๆโต๊ะแม่เหล็กในมือคุณสามารถดึงดูดเศษโลหะที่อยู่บนโต๊ะออกมาได้ ยิ่งแม่เหล็กมีพลังแรง การดึงดูดก็ยิ่งแรงมากขึ้น พระเจ้าก็เป็นแม่เหล็กที่ทรงพลังเพราะพระองค์เป็นพลังที่ทรงพลัง ผู้คนเบียดเสียดกันเข้าหาพระเยซูเพราะพวกเขาถูกดึงดูดให้เข้าหาพระองค์ พระองค์ทรงสอนพระคัมภีร์และความจริงแก่พวกเขาและผู้คนจากทั่วทุกที่ก็มาเพื่อฟังพระองค์เทศนา

ฝูงชนเปรียบเหมือนชิ้นโลหะที่ดึงดูดด้วยแม่เหล็ก ในทำนองเดียวกันคำพูดของพระเจ้าได้ดึงดูดผู้คนเข้ามาเพราะมันเป็นความจริงและผู้คนก็อยากรู้ความจริง เมื่อคุณอ่านพระวจนะของพระเจ้าแล้วคุณเริ่มเข้าใจและนำมาใช้จริงในการดำเนินชีวิต ผู้คนรอบข้างคุณก็จะถูกดึงดูดเข้าหาคุณด้วยเช่นกัน เพราะการกระทำของคุณได้ชี้ให้พวกเขาเห็นพระเจ้าและช่วยให้เขาอยากรู้จักกับพระวจนะของพระเจ้า แล้วพระวจนะของพระเจ้าจะช่วยให้พวกเขาได้พบความจริงที่พวกเขากำลังมองหา

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักลูกขอขอบพระคุณสำหรับพระคำอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอพระองค์โปรดดึงดูดผู้คนให้เข้ามารู้จักและศึกษาพระวจนะของพระองค์มากขึ้นๆ เพื่อว่าพวกเขาจะได้รู้และพบกับความจริงที่กำลังมองหา เอเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้

 


พลังในการดำรงชีวิต

พระองค์ตรัสตอบว่า “มีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า

มนุษย์จะดำรงชีวิตด้วยอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ได้

แต่ต้องดำรงชีวิตด้วยพระวจนะทุกคำ

ซึ่งออกมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า’ ”

มัทธิว 4: 4

ในโลกทุกวันนี้ ผู้คนเลือกที่จะกินมากขึ้น ในขณะที่บางคนกินอาหารที่ถูกต้องเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง หลายคนก็กินอาหารที่ไม่ดี และทำให้สุขภาพของพวกเขาเสี่ยงที่จะเป็นโรค เช่นเดียวกันกับเรื่องฝ่ายวิญญาณ คุณจะต้องให้อาหารแก่ความเชื่อของคุณด้วยพระคำของพระเจ้า

มันเป็นเสียงของพระเจ้าที่บอกคุณว่าควรจะใช้ชีวิตอย่างไรและพระองค์เป็นอย่างไร พระคัมภีร์เต็มไปด้วยคำตอบที่ชาญฉลาดสำหรับคำถามใหญ่ ๆ ที่ทุกคนมี เช่น มนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร? ทำไมถึงมีความชั่วร้าย? และจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนเราตาย? อาหารและน้ำมีความสำคัญต่อชีวิตร่างกายของคุณก็จริง แต่พระคัมภีร์นั้นสำคัญยิ่งกว่า เพราะจะช่วยให้วิญญาณของคุณมีชีวิต และเป็นพระวจนะที่ให้ชีวิตนิรันดร์

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับโอกาสที่จะได้ยินและรับเอาพระคำของพระองค์ เพราะว่าพระคำนั้นได้นำการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในชีวิตของลูก  และลูกได้รับสติปัญญาและความยอดเยี่ยมโดยพระคำของพระองค์ในวันนี้ ลูกขอกราบขอบพระคุณพระองค์ด้วยสิ้นสุดใจ ในนามพระเยซูคริสตเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

rorthai.com

วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

พระเยซูเข้าใจในความทุกข์ ความเจ็บปวดที่คุณต้องเผชิญ

 


พระเยซูเข้าใจในความทุกข์ - ความเจ็บปวดที่คุณต้องเผชิญ

พระเยซูทรงกันแสง

ยอห์น 11:35

ในพระคัมภีร์ยอห์น 11:35 เป็นพระคำที่กล่าวไว้ได้สั้นที่สุดในพระคัมภีร์เท่าที่เราเคยอ่านมา  แต่ก็แสดงให้เห็นว่าพระเยซูทรงรักคนที่พระองค์ทรงห่วงใยมากเพียงใด เมื่อพระองค์ได้ยินว่าลาซาลัสเพื่อนรักของพระองค์เสียชีวิตพระองค์ทรงร้องไห้ออกมา พระเยซูรักเพื่อนของพระองค์มากแค่ไหนพระองค์ก็ยิ่งรักคุณมากเท่านั้น ให้คุณรู้ไว้เถิดว่าพระองค์ทรงรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่คุณต้องเผชิญและทุกๆ ครั้งที่คุณเจ็บปวดได้

เมื่อคุณรักใครสักคนมากๆ มันจะทำให้คุณเข้าใจความรู้สึกของคนคนนั้นได้อย่างดี  ถ้าคุณเคยเศร้าเพราะว่าคุณเคยเห็นพ่อแม่หรือพี่น้องของคุณร้องไห้มาก่อน แล้วคุณสามารถรับรู้ได้ว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไรนั่นเป็นเพราะว่าคุณเริ่มใส่ใจพวกเขา  คุณจะเข้าใจว่าการรักใครสักคนมากๆ มันจะทำให้คุณมีความรู้สึกร่วมไปกับเขา คุณจะเข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร พระเจ้าให้ความสามารถดังกล่าวแก่คุณเพื่อที่คุณจะได้ รักและช่วยเหลือผู้อื่น และช่วยอธิษฐานต่อผู้ที่ทำร้ายด้วย

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเยซูที่รักขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกสามารถรักคนอื่นได้ด้วยความจริงใจ โดยไม่ต้องคำนึงถึงความรู้สึกหรือสถานการณ์ของตัวลูกเอง ขอโปรดเติมเต็มความรักของพระองค์ให้กับลูกเพื่อที่ลูกจะได้รักเขาเหมือนกับที่พระองค์ทรงรัก เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 prasitemmaus.blogspot.com


ความรักของคริสเตียน

 


ความรักของคริสเตียน

จงทักทายปราศรัยพี่น้องด้วยการจูบอันบริสุทธิ์

1 เธสะโลนิกา 5:26

พระคัมภีร์บอกว่าให้เรารักคริสเตียนคนอื่นด้วย ดังนั้นเมื่อคุณพบคนอื่นที่เป็นคริสเตียนอย่ามองว่าพวกเขาเป็นแค่คนแปลกหน้า แต่แท้จริงแล้วพวกเขาเป็นพี่น้องของคุณในพระเจ้า ศาสนาคริสต์เป็นครอบครัวใหญ่ครอบครัวหนึ่ง นั่นหมายความว่าคุณมีสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่ในส่วนอื่น ๆ ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นในเขตอเมริกาเขตยุโรปเขตเอเชียและเขตแอฟริกา หรืออาจจะมีอยู่ในแอนตาร์กติกาด้วยซ้ำไป!

ครอบครัวของพระเจ้านั้นใหญ่โต จงตื่นเต้นดีใจเถิดที่คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่นี้ ครอบครัวของพระเจ้าเริ่มต้นมานานก่อนที่คุณจะเกิดและมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปหลังจากที่คุณแก่ ให้คุณรักคริสเตียนคนอื่นๆ เหมือนกับที่คุณรักครอบครัวของคุณเอง เพราะว่าวันหนึ่งคุณจะอยู่กับพวกเขาในบ้านสวรรค์ตลอดไป !

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักลูกต้องการแสดงความรักที่พิเศษนี้ให้กับเพื่อนคริสเตียนผู้มีความเชื่อคนอื่น ๆ ด้วยความจริงใจขอพระองค์โปรดช่วยสำแดงวิธีที่จะช่วยให้ลูกรักเขาด้วยเถิด  เอเมน

 

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

Gracezone

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ทำให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้น

 


ทำให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้น

และข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้นพร้อมกับความรู้และวิจารณญาณทุกด้าน

ฟิลิปปี 1: 9

ความรักแบบคริสเตียน คือ รักด้วย การกระทำและด้วยความจริง ไม่ใช่รักกันด้วยคำพูดเท่านั้น ยากอบได้ยกตัวอย่างการรักกันด้วยคำพูดเท่านั้น ในยากอบ 2:15,16 “ถ้าพี่น้องชายหญิง คนใดขัดสนเครื่องนุ่งห่มและอาหารประจำวัน และมีคนใดในพวกท่านกล่าวแก่เขาว่า “เชิญไปเป็นสุขเถิด ขอให้อบอุ่นและอิ่มเถิด” และไม่ได้ให้สิ่งที่เขาขัดสนนั้น จะเป็นประโยชน์อะไร”

การรักกันด้วยคำพูด คือการเพียงแต่พูดถึงปัญหา ความเดือดร้อน ความต้องการของพี่น้อง เท่านั้น แต่การรักกันด้วยการกระทำคือ การลงมือปฏิบัติ เพื่อตอบสนองความต้องการนั้น บางครั้งเราคิดว่า เพราะเราได้พูดถึงเรื่องความเดือดร้อน และได้อธิษฐานเผื่อแล้ว ก็คือเราก็ได้ทำหน้าที่ของเรา ในการแสดงความรัก ความห่วงใยเสร็จแล้ว แต่แท้จริงความรักของคริสเตียนต้องทำมากกว่าคำพูด นั่นคือการที่เราต้องเสียสละ โดยการกระทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนคนอื่น

การรักกันด้วยคำพูด หมายถึง ความรักที่ไม่จริง แต่การรักกันด้วยการกระทำคือรักด้วยความจริงจากใจ ไม่ใช่รักกันแต่ปากเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดประชาชนมากมายให้ติดตามพระเยซูคริสต์เพราะพวกเขารู้ว่า พระองค์รักพวกเขา ความรักแบบคริสเตียนทำให้เกิดการเสียสละ ถึงแม้ว่า ความรักแบบนี้ไม่ได้หวังผลตอบแทนกลับคืนมา แต่กฎของพระเจ้าคือว่า จงให้แล้วท่านจะได้รับ (ลก.6:38) ใช้ได้ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของเงินทองเท่านั้น แต่เรื่องอื่นๆด้วย

ความรักของพระเยซูไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งหมายความว่ามันจะดำเนินต่อไปและตลอดไป มันไม่มีวันหมด  

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักโปรดเพิ่มพูนความรักของลูกให้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนล้นเผื่อแผ่ไปถึงคนอื่นด้วยความจริงใจ เต็มใจ บริสุทธิ์ใจด้วยเทอญ เอเมน.

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

วีรชัย โกแวร์

jaisamarnchurch.org


วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ความรักและความเมตตา

 


ความรักและความเมตตา

คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก

เอเฟซัส 4: 2

 บางครั้งเพื่อนของคุณอาจจะเคยทำให้คุณรำคาญ หรือบางครั้งสมาชิกในครอบครัวของคุณอาจทำให้คุณคลั่งได้ในบางครั้ง แต่พระเจ้าต้องการให้คุณอดทน พระองค์ต้องการให้คุณแสดงความเมตตากรุณาต่อผู้อื่น เพราะทุกคนทำผิดพลาด ดังนั้นอย่าทำตัวแข็งกร้าว หงุดหงิดรำคาญกับพวกเขาเลย  พระเจ้ายังชี้ให้เห็นว่าคุณควรถ่อมตัวและอ่อนโยนต่อผู้อื่นเพราะคุณเองก็ทำผิดได้เช่นกัน

คุณเองก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบเช่นกันและบางครั้งเพื่อนและสมาชิกในครอบครัวของคุณก็ต้องแสดงความอดทนต่อคุณด้วยเช่นกัน เมื่อคุณรู้จักรักผู้อื่นโดยมีความอดทนเมื่อเวลาที่พวกเขาทำผิด พวกเขาก็เต็มใจที่จะแสดงความเมตตาและอดทนอดกลั้นต่อคุณมากขึ้นเมื่อคุณทำผิดพลาดเช่นกัน ท้ายที่สุดพระเจ้าทรงอดทนกับคุณทุกวัน!

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกรู้จักมีความอดทนกับคนอื่น ๆ เพราะว่าลูกเองก็ยังต้องการให้คนอื่นอดทนกับลูกด้วยเช่นกัน ดังนั้นโปรดสอนลูกให้รู้จักถ่อมตัวและอ่อนโยนมีเมตตาต่อผู้อื่นอยู่เสมอ เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

คริสตจักรพระกรุณาธิคุณ

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ผลแรกของพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้น คือความรัก

 


ผลแรกของพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้น คือความรัก

ส่วนผลของพระวิญญาณนั้น คือความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์

กาลาเทีย 5:22

คุณให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานในตัวคุณหรือไม่? วิธีที่คุณจะรู้ได้ก็คือ หากคุณมีผลแห่งวิญญาณที่เติบโตในชีวิตของคุณ กาลาเทีย 5: 22-23 ได้แสดงรายการ ผล (หลายอย่าง) ของพระวิญญาณที่ควรเบ่งบานในชีวิตของผู้คนที่รักพระเยซู ผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสิ่งที่คนอื่นสามารถมองเห็นได้ผ่านการดำเนินชีวิตของคุณ

ผลแรกในรายการคือความรัก เมื่อคุณเดินอยู่ในความรักคุณก็ได้แสดงให้คนอื่นเห็นแล้วว่าคุณมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่พระเจ้าทำงานในตัวคุณ พระเจ้าสามารถเลือกผลอื่น ๆ เพื่อการเริ่มต้นได้ แต่พระองค์ไม่ทำ พระองค์เลือกที่จะใช้ความรักที่ให้มาเป็นอันดับแรก คุณจะเห็นว่าความรักเป็นพื้นฐานสำหรับผลอื่น ๆ ของพระวิญญาณ คุณไม่สามารถมีความสุขความสงบความอดทนความเมตตาความดีความซื่อสัตย์ความอ่อนโยนหรือการควบคุมตนเองโดยไม่ต้องมีความรักนำทาง  ถ้าคุณต้องการที่จะเต็มไปด้วยจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แล้วจงใช้ความรักนำทาง!

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักขอโปรดช่วยให้ผลแห่งพระวิญญาณเติบโตในชีวิตของลูก ขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ในชีวิตลูกเริ่มต้นด้วยความรัก ลูกขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับความอดทน พระคุณ และการให้อภัย ลูกต้องการให้พระวิญญาณบริสุทธิ์นำลูกและเสริมสร้างลูกให้เติบโตขึ้นในทุกๆทาง โดยเฉพาะในทางที่ลูกจะเป็นเหมือนพระเยซูมากขึ้นในความรัก ความชื่นชมยินดี สันติสุข ความอดทน การมีน้ำใจ ความดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยน และการรู้จักควบคุมตนเอง ลูกขอขอบพระคุณที่ทรงฟังคำอธิษฐานของลูกในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

การรักตัวเอง

 


รักตัวเอง

เพราะว่าธรรมบัญญัติทั้งสิ้นนั้นสรุปได้เป็นคำเดียว คือว่า จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง

กาลาเทีย 5:14

พระเจ้าต้องการให้คุณรักคนอื่น แต่พระองค์ไม่ต้องการให้คุณรักพวกเขาเหล่านั้นเพียงแค่เล็กน้อย แต่พระองค์ต้องการให้คุณรักพวกเขามากเท่ากับที่คุณรักตัวเอง เพราะว่าการรักผู้อื่นให้มากเท่าที่คุณรักตัวเองคุณ สิ่งแรกที่ต้องทำคือคุณต้องรู้รักตัวเองก่อน

แล้วนั่นหมายความว่าอย่างไร? ไม่ได้หมายความว่าให้คุณหยิ่งผยองหรือคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดในทุกสิ่ง แต่การรักตัวเองหมายความว่าการรู้ว่าคุณถูกสร้างใหม่ในพระคริสต์และคุณเป็นคนพิเศษในสายตาของพระองค์ คุณไม่ใช่ขยะ คุณมีค่าสำหรับพระองค์ เมื่อคุณรู้ว่าคุณเป็นคนพิเศษแล้วคุณจะสามารถรักตัวเองและรักคนอื่นได้เพราะพวกเขาก็เป็นคนพิเศษด้วยเช่นกัน

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเยซูที่รัก ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกรู้จักรักตัวเองในทางที่ถูกต้องเพื่อที่ลูกจะได้รักคนอื่นในแบบที่พระองค์ทรงสอนไว้ เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

จงรักแม้ว่าคนอื่นจะไม่สนใจก็ตาม

 


จงรักแม้ว่าคนอื่นจะไม่สนใจก็ตาม

และข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะสละทุกสิ่งและสละตัวเองจนหมดเพื่อเห็นแก่ท่านทั้งหลาย เมื่อข้าพเจ้ารักท่านมากขึ้น พวกท่านกลับจะรักข้าพเจ้าน้อยลงหรือ?

2 โครินธ์ 12:15

การรักตัวเองให้มากขึ้นเป็นสิ่งที่ดี แต่การรักคนอื่นให้น้อยลงอาจทำให้ทุกอย่างแย่ลงกว่าเดิม เพราะเมื่อความรักที่มีให้กันค่อยๆ หมดไป ความสุข รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความชื่นบาน ก็ค่อยๆ จางหายไปจากชีวิตของเราด้วยเช่นกัน

ความจริงแล้วความรักไม่ได้ทำให้เราเจ็บปวด แต่ที่เราเจ็บปวดเพราะเราขาดความรักที่มากพอ ความรักที่จะรักษาบาดแผลให้ทุกหัวใจกลับมาเข้มแข็งและพร้อมจะก้าวต่อไปด้วยความรักที่มากกว่าเดิม! นี่คือเหตุผลที่คุณไม่ควรรักคนอื่นเพียงเพราะหวังให้พวกเขามารักคุณตอบ  ถ้าคุณรักคนอื่นเพียงเพื่อหวังที่จะได้บางสิ่งกลับคืนมาคุณมักจะรู้สึกผิดหวังจากความคาดหวังที่มีอยู่ในใจ แต่ถ้าคุณรักผู้อื่นเพียงเพราะคุณรู้ว่าพระเจ้ารักคุณและคุณก็อยากจะส่งต่อความรักนั้นให้กับคนอื่น คุณก็จะได้รับพระพรจากพระเจ้า ให้เรารักคนอื่นแม้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใส่ใจกับความรักของเราเลยก็ตาม เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าความรักของคุณที่มอบออกไปอาจไปช่วยเสริมใจและทำให้ชีวิตของใครบางคนเปลี่ยนไป?

ทุกวันนี้มีคนที่ขาดความรักมากพอๆ กับคนที่กำลังมีความรัก แต่ไม่ว่าวันนี้เรากำลังอยู่ในสถานะแบบไหน ความเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้เสมอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยน แปลง คือ ความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา ขอเพียงแค่เราเปิดใจ ความรักของพระเจ้าก็จะ “หลั่ง เข้าสู่ จิต ใจ ของ เรา” และไม่ว่าสถานการณ์รอบข้างจะเปลี่ยนไปอย่างไร แต่ความรักจากพระทัยของพระเจ้าไม่เปลี่ยนแปลง! ให้เราเปิดรับความรักนี้ เติมเต็มหัวใจ แล้วส่งต่อไปสู่ผู้อื่น

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักบางครั้งมันอาจทำให้ลูกท้อใจเวลาที่ลูกแสดงความรัก ความใส่ใจต่อคนอื่น แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่ลูกทำ ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกสามารถที่จะรักเขาต่อไปได้และทำในสิ่งที่ถูกต้องไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

thaiodb.org


วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ

 


ความรักคงอยู่

ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ

1 โครินธ์ 13: 8

บางครั้งคนที่เรารักหรือคนที่เรารู้จักอาจต้องแยกย้ายกันออกไปอยู่ที่อื่น อาจย้ายไปต่างบ้านต่างเมืองหรืออาจเพราะความตายที่มาพรากเราจากกัน  สิ่งของหรือแม้แต่คนที่เรารักคนที่เราชอบย่อมมีวันเสื่อมสูญ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นกับความรัก เพราะความรักไม่ได้หายไปไหน ความรักของพระเจ้ามีอยู่เสมอไปและจะคงอยู่ตลอดเวลาแม้ว่าคุณจะไปสวรรค์แล้วก็ตาม ความรักของพระองค์ก็ไม่มีวันเสื่อมสลายหรือตายตามร่างไป มันจะคงอยู่ตลอดไป

 บางทีคุณอาจไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและบางทีคุณอาจไม่รู้สึกรักหรือไม่รู้จักความรัก แต่คุณต้องรู้ว่า.. คุณเป็นที่รักของพระเจ้า พระเจ้ารักคุณและความรักของพระองค์จะคงอยู่ตลอดไป แม้ในบางครั้งคุณอาจรู้สึกได้ถึงความรักน้อยนิด แต่นั่นคือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดที่คุณจะต้องรักคนอื่น ให้คุณสวมกอดคนที่คุณรักและบอกพวกเขาว่าพระเจ้ารักพวกเขามากแค่ไหน ความรักจะคงอยู่ตลอดไปดังนั้นจงปฏิบัติต่อกันโดยความรักต่อไป

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักลูกรู้ว่าตัวลูกเองยังอ่อนแอ และหลงลืมที่จะใช้ความรักนำทางในการดำเนินชีวิต ความรักในแบบที่พระคริสต์ทรงทำให้เป็นแบบอย่างในการรักผู้อื่น  ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกตระหนักอยู่เสมอว่าการมีชีวิตอยู่ในความรักนั้นสำคัญเพียงใด เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

thaiodb.org


วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ความรักไม่ยอมแพ้ต้องมีความหวังอยู่เสมอ

 


ความรักไม่ยอมแพ้ต้องมีความหวังอยู่เสมอ

ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ

1 โครินธ์ 13: 7

หากคุณเป็นแฟนคลับที่กำลังเชียร์ทีมกีฬาที่คุณชื่นชอบ คุณก็คงหวังว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ในที่สุด แม้ว่าสุดท้ายแล้วทีมของคุณจะต้องเจออุปสรรคที่ยากลำบากและพวกเขาไม่สามารถเอาชัยชนะมาได้ก็ตาม คุณก็ยังอยากตั้งตารอลุ้นการแข่งขันของปีหน้าต่อไปใช่ไหม?

แฟนคลับ บางคนก็อาจยอมแพ้ให้กับทีมของพวกเขาในทันทีเมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง แต่นั่นคงไม่ใช่รักแท้ เพราะถ้าหากคุณรักใครสักคนหรือรักบางสิ่งมากๆ คุณจะไม่รักเพียงแค่เมื่อสิ่งนั้นเป็นประโยชน์กับคุณเท่านั้น แต่คุณจะรักเขาในทุกช่วงเวลารวมถึงในช่วงเวลาที่เขาต้องทุกข์ยากลำบากด้วยเช่นกัน

ความรักของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่าความรักที่คุณมีต่อเกมกีฬา พระเจ้าทรงรักคุณในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของคุณด้วย ความรักของพระองค์แสดงให้คุณเห็นว่าคุณควรรักผู้อื่นอย่างไรเมื่อพวกเขาต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รักลูกไม่อยากเป็นคนที่ยอมแพ้ต่อความรัก ขอพระองค์ชวยเติมรักแท้ที่หวังดีอยู่เสมอให้กับลูกเพื่อที่ลูกจะได้มอบให้กับเพื่อนมนุษย์  ขอให้ลูกเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอและทนต่อทุกอย่าง อย่าให้ลูกรักใครเพียงแค่หวังสิ่งตอบแทน หรือรักเขาเพียงเพราะเขามีประโยชน์กับลูกเท่านั้นเลย เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

Jerm Sum

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...