วันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ทำความดีและแบ่งปันร่วมกับผู้อื่น

 


ทำความดีและแบ่งปันร่วมกับผู้อื่น

อย่าลืมที่จะทำความดีและแบ่งปันร่วมกับผู้อื่น

เพราะพระเจ้าพอพระทัยเครื่องบูชาเช่นนี้

ฮีบรู 13:16


ทำดี...

แบ่งปัน...

สองแนวคิดที่เด็กอายุ 5 ขวบต้องคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วใช่ไหม?

เหตุใดเราจึงต้องมีคำเตือนที่ชัดเจนเช่นนี้อยู่ในหนังสือฮีบรู?

นอกจากนี้ เหตุใดเราจึงแนะนำให้คุณท่องจำพระคำข้อนี้ในทุกๆวัน


มันมีประโยชน์หลักสองประการ ว่าทำไมเราต้องเพิ่มข้อนี้ในความจำของเรา

อันดับแรก เราต้องพิจารณาก่อนว่าเราทำดีและแบ่งปันในแต่ละวันมากแค่ไหน แน่นอนว่าเราทุกคนต่างมีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในการทำความดี เช่น การทำดีกับเพื่อนร่วมงาน (ไม่นินทา ว่าร้ายคนอื่นเขาก็นับว่าเป็นสิ่งดีเช่นกันนะ)  การแบ่งปันอาหารกับผู้อื่น (คนไร้บ้าน หรือผู้ด้อยโอกาสกว่าเรา) การเสียสละเมื่อมีคนลัดคิว (เขาอาจมีเรื่องด่วนมากกว่าเราก็ได้) การไม่หงุดหงิดอารมณ์เสียเมื่อคนอื่นขับรถปาดหน้าหรือไร้มารยาทบนท้องถนน  แม้จะดูเล็กน้อยเพียงใด แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นความดี

 

อย่างไรก็ตาม เรามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาแห่งความฟุ้งซ่านและวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น การติดอยู่กับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสาร อีเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เราใช้งานงานมันมากถึง 60-80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รวมไปถึงการเข้าฟิตเนสและ อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีแนวโน้มที่จะพบว่าตนเองต้องพยายามอย่างมากในแต่ละวันที่จะทำให้ทุกอย่างในรายการของสิ่งที่ต้องทำตามลิสต์สำเร็จไป  หลายเรื่องที่เราสร้างต้นทุนค่าเสียเวลาโอกาสมหาศาลไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเสียศักยภาพในการวางแผนเพื่อจะทำความดีและแบ่งปันร่วมกับผู้อื่น เราได้พลาดโอกาสที่จะใช้เวลาดูแลหญิงม่าย คนชรา และคนชายขอบ (คนที่พระเจ้าต้องการให้เราดูแล) ด้วยเวลาของเรา  ทรัพย์สมบัติของเรา และพรสวรรค์ของเรา

 

ด้วยความเป็นจริงสมัยใหม่นี้  มันง่ายที่เราจะลืมว่าเราต้องทำอะไร และข้อเตือนใจในข้อนี้ค่อนข้างทรงพลังในการทำให้แน่ใจว่าเราพยายามหาวิธีที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีและแบ่งปันกับผู้อื่นอย่างกระตือรือร้น

 

ประการที่สอง พระคำข้อนี้ประกอบด้วย "ประโยควัตถุประสงค์" ที่ทรงพลังซึ่งสามารถเป็นแรงกระตุ้นสำหรับการอุทิศเวลาและความพยายามในการทำความดีและการแบ่งปัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อความได้ระบุว่า "...สำหรับการเสียสละดังกล่าวนี้ทำให้ พระเจ้าพอพระทัย"

 

เป็นความจริงตามพระคัมภีร์ที่พระเจ้าพอพระทัยในตัวเราเกินกว่าที่เราจะเข้าใจผ่านพระนามของพระเยซูและไม่ใช่ของตัวเราเอง อย่างไรก็ตาม เรายังคงมีโอกาสถวายเครื่องบูชาที่ทำให้พระองค์พอพระทัยตลอดชีวิตของเรา ผู้เขียนหนังสือฮีบรูกำลังยื่นสองบรรทัดจากคู่มือผู้ใช้สุภาษิตว่าเราจะทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้อย่างไร... โดยการทำความดีและแบ่งปันกับผู้อื่น ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่ามันยากที่จะเสียสละเวลาของเรา สมบัติล้ำค่าของเรา และพรสวรรค์ของเราเพื่อทำดีเพื่อผู้อื่น แต่เราสามารถพบแรงจูงใจโดยการรู้ว่าการกระทำดีของเราจะทำให้พระเจ้าพอพระทัย

 

ให้เราฝึกทำสิ่งนี้

1. ทบทวนข้อพระคัมภีร์ฮีบรู 13:16 หลายๆ ครั้งในทุกวัน 

2. เมื่อสิ้นสุดแต่ละวัน ให้นึกถึงจำนวนครั้งที่ได้ทำความดีหรือการแบ่งปันกับผู้อื่นในวันนั้นๆ

3. ค้นหาแรงกระตุ้นที่จำเป็นในแต่ละวันเพื่อทำความดีและแบ่งปันโดยรู้ว่าคุณกำลังทำให้พระเจ้าพอพระทัย

 

วันนี้คุณจะแสดงความเอื้ออาทรได้อย่างไร

ฉันสามารถเป็นพรให้กับใครบางคนได้โดยการแบ่งปันสิ่งของที่ฉันมีอยู่และยังมีสภาพดีแต่ไม่ค่อยได้ใช้งาน

ฉันสามารถขอให้พระเจ้านำทางฉันไปหาคนที่ฉันสามารถให้กำลังใจ/หนุนใจเขาได้

ฉันสามารถทำงานอาสาในชุมชนวัดหรือสละเวลาส่วนตัวเพื่อรับใช้ร่วมกับผู้อื่นได้

 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอบพระคุณสำหรับการดูแลความต้องการของประชากรของพระองค์ พระองค์ทรงให้ทุกสิ่งที่ลูกจำเป็นเสมอมา  ทุกสิ่งที่ลูกมีอยู่ล้วนเป็นของพระองค์ ดังนั้นโปรดใช้ลูกและใช้สิ่งที่ลูกมีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อื่น แม้ลูกจะไม่รู้สึกอยากทำก็ตาม ขอพระองค์โปรดช่วยลูกให้เต็มใจที่จะเสียสละเวลา เงินทอง และทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นด้วยใจจริง ลูกอธิษฐานในพระนามพระเยซู อาเมน

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

bible.com 

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...