ทำความดีและแบ่งปันร่วมกับผู้อื่น
อย่าลืมที่จะทำความดีและแบ่งปันร่วมกับผู้อื่น
เพราะพระเจ้าพอพระทัยเครื่องบูชาเช่นนี้
ฮีบรู 13:16
ทำดี...
แบ่งปัน...
สองแนวคิดที่เด็กอายุ 5 ขวบต้องคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วใช่ไหม?
เหตุใดเราจึงต้องมีคำเตือนที่ชัดเจนเช่นนี้อยู่ในหนังสือฮีบรู?
นอกจากนี้ เหตุใดเราจึงแนะนำให้คุณท่องจำพระคำข้อนี้ในทุกๆวัน
มันมีประโยชน์หลักสองประการ ว่าทำไมเราต้องเพิ่มข้อนี้ในความจำของเรา
อันดับแรก เราต้องพิจารณาก่อนว่าเราทำดีและแบ่งปันในแต่ละวันมากแค่ไหน
แน่นอนว่าเราทุกคนต่างมีกิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในการทำความดี เช่น
การทำดีกับเพื่อนร่วมงาน (ไม่นินทา ว่าร้ายคนอื่นเขาก็นับว่าเป็นสิ่งดีเช่นกันนะ) การแบ่งปันอาหารกับผู้อื่น (คนไร้บ้าน หรือผู้ด้อยโอกาสกว่าเรา) การเสียสละเมื่อมีคนลัดคิว (เขาอาจมีเรื่องด่วนมากกว่าเราก็ได้) การไม่หงุดหงิดอารมณ์เสียเมื่อคนอื่นขับรถปาดหน้าหรือไร้มารยาทบนท้องถนน แม้จะดูเล็กน้อยเพียงใด แต่สิ่งเหล่านี้ก็ยังคงเป็นความดี
อย่างไรก็ตาม เรามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาแห่งความฟุ้งซ่านและวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เช่น การติดอยู่กับโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสาร อีเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เราใช้งานงานมันมากถึง 60-80 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ รวมไปถึงการเข้าฟิตเนสและ อื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีแนวโน้มที่จะพบว่าตนเองต้องพยายามอย่างมากในแต่ละวันที่จะทำให้ทุกอย่างในรายการของสิ่งที่ต้องทำตามลิสต์สำเร็จไป หลายเรื่องที่เราสร้างต้นทุนค่าเสียเวลาโอกาสมหาศาลไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเสียศักยภาพในการวางแผนเพื่อจะทำความดีและแบ่งปันร่วมกับผู้อื่น เราได้พลาดโอกาสที่จะใช้เวลาดูแลหญิงม่าย คนชรา และคนชายขอบ (คนที่พระเจ้าต้องการให้เราดูแล) ด้วยเวลาของเรา ทรัพย์สมบัติของเรา และพรสวรรค์ของเรา
ด้วยความเป็นจริงสมัยใหม่นี้ มันง่ายที่เราจะลืมว่าเราต้องทำอะไร และข้อเตือนใจในข้อนี้ค่อนข้างทรงพลังในการทำให้แน่ใจว่าเราพยายามหาวิธีที่จะนำเสนอสิ่งที่ดีและแบ่งปันกับผู้อื่นอย่างกระตือรือร้น
ประการที่สอง พระคำข้อนี้ประกอบด้วย "ประโยควัตถุประสงค์"
ที่ทรงพลังซึ่งสามารถเป็นแรงกระตุ้นสำหรับการอุทิศเวลาและความพยายามในการทำความดีและการแบ่งปัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อความได้ระบุว่า
"...สำหรับการเสียสละดังกล่าวนี้ทำให้ พระเจ้าพอพระทัย"
เป็นความจริงตามพระคัมภีร์ที่พระเจ้าพอพระทัยในตัวเราเกินกว่าที่เราจะเข้าใจผ่านพระนามของพระเยซูและไม่ใช่ของตัวเราเอง
อย่างไรก็ตาม
เรายังคงมีโอกาสถวายเครื่องบูชาที่ทำให้พระองค์พอพระทัยตลอดชีวิตของเรา ผู้เขียนหนังสือฮีบรูกำลังยื่นสองบรรทัดจากคู่มือผู้ใช้สุภาษิตว่าเราจะทำให้พระเจ้าพอพระทัยได้อย่างไร...
โดยการทำความดีและแบ่งปันกับผู้อื่น ในช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่ามันยากที่จะเสียสละเวลาของเรา
สมบัติล้ำค่าของเรา และพรสวรรค์ของเราเพื่อทำดีเพื่อผู้อื่น แต่เราสามารถพบแรงจูงใจโดยการรู้ว่าการกระทำดีของเราจะทำให้พระเจ้าพอพระทัย
ให้เราฝึกทำสิ่งนี้
1. ทบทวนข้อพระคัมภีร์ฮีบรู 13:16 หลายๆ ครั้งในทุกวัน
2. เมื่อสิ้นสุดแต่ละวัน
ให้นึกถึงจำนวนครั้งที่ได้ทำความดีหรือการแบ่งปันกับผู้อื่นในวันนั้นๆ
3. ค้นหาแรงกระตุ้นที่จำเป็นในแต่ละวันเพื่อทำความดีและแบ่งปันโดยรู้ว่าคุณกำลังทำให้พระเจ้าพอพระทัย
วันนี้คุณจะแสดงความเอื้ออาทรได้อย่างไร
ฉันสามารถเป็นพรให้กับใครบางคนได้โดยการแบ่งปันสิ่งของที่ฉันมีอยู่และยังมีสภาพดีแต่ไม่ค่อยได้ใช้งาน
ฉันสามารถขอให้พระเจ้านำทางฉันไปหาคนที่ฉันสามารถให้กำลังใจ/หนุนใจเขาได้
ฉันสามารถทำงานอาสาในชุมชนวัดหรือสละเวลาส่วนตัวเพื่อรับใช้ร่วมกับผู้อื่นได้
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอบพระคุณสำหรับการดูแลความต้องการของประชากรของพระองค์
พระองค์ทรงให้ทุกสิ่งที่ลูกจำเป็นเสมอมา ทุกสิ่งที่ลูกมีอยู่ล้วนเป็นของพระองค์ ดังนั้นโปรดใช้ลูกและใช้สิ่งที่ลูกมีเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้อื่น
แม้ลูกจะไม่รู้สึกอยากทำก็ตาม ขอพระองค์โปรดช่วยลูกให้เต็มใจที่จะเสียสละเวลา เงินทอง
และทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นด้วยใจจริง ลูกอธิษฐานในพระนามพระเยซู อาเมน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
bible.com
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น