วันที่หนึ่งร้อยยี่สิบสอง - จงอดทนและให้อภัย
3ฉะนั้นจงระวังตัวให้ดี
“ถ้าพี่น้องของท่านทำผิด จงตักเตือนเขา และถ้าเขากลับใจ จงอภัยให้เขา
4แม้เขาทำบาปต่อท่านถึงเจ็ดครั้งในวันเดียว และกลับมาหาท่านเจ็ดครั้งบอกว่า
‘เรากลับใจแล้ว’ ก็จงยกโทษให้เขา”
ลูกา 17:3-4
คุณเคยรู้สึกไหมว่าตัวเองเคยทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก
กับเรื่องบางเรื่อง?? ไม่ใช่แค่คุณแค่คนเดียวหรอกที่รู้สึกแบบนี้!เพราะคนเราผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ว่าคุณจะผิดพลาดไปสักกี่ครั้ง พระเจ้าก็ยังรักและให้อภัยคุณ
และอดทนกับคุณเสมอมา, ซึ่งบางครั้งตัวคุณเองก็ต้องเคยอดทนกับใครบางคนอยู่เช่นกัน
ใช่ไหม?
ความอดทนที่คุณสามารถแสดงออกได้ดี นั่นก็คือการรู้จักให้อภัยผู้อื่น
เมื่อเขารู้สึกเสียใจต่อการกระทำและสำนึกผิด เขาตั้งใจที่จะมาขอโทษคุณ ถึงแม้ว่าความผิดนั้นจะเคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ตาม,
พยายามอย่าโมโห อย่าใช้อารมณ์ในการใช้ชีวิต, ให้คิดเสียว่าการขอโทษเป็นโอกาสที่ดีในการฝึกตัวคุณเองเรื่องการให้อภัย! คุณยังสามารถซื่อสัตย์เกี่ยวกับความรู้สึกของคุณได้
เพราะเรื่องของความรู้สึกมันไม่ได้สั่งหยุดหรือสั่งเปลี่ยนกันได้แบบกดปุ่มอัตโนมัติ
เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ตัวเรายังรู้สึกกับสิ่งที่เขาทำ
แต่อย่าจมอยู่กับมันนานจนเกินไปนะ, แล้วที่สำคัญให้ตัวคุณเองรู้สึกขอบคุณที่พวกเขารู้จักกล่าวคำว่าขอโทษ
หรือแสดงความเสียใจที่จริงใจต่อสิ่งที่เขาได้ทำ. เพราะทุก ๆ ครั้งที่คุณให้อภัยผู้อื่น,
คุณกำลังช่วยสอนให้เขาเรียนรู้ว่า มนุษย์เราทุกคนควรได้รับโอกาสเพื่อปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่เคยผิดพลาด
คนเราทำผิดพลาดกันได้ แต่ต้องรู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดแล้วเริ่มต้น
ปรับปรุงตัวเองให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นใหม่ที่ดีกว่าเมื่อวาน!
ข้อคิดระหว่างวัน
การให้อภัยคล้ายกับเป็นการปล่อยนักโทษให้
เป็นอิสระ แล้วมาพบว่า
นักโทษนั้นก็คือ "ตัวเราเอง"
ลองถามตัวเองดูนะว่าเราเลือกที่จะ"ปล่อย" หรือ "ขัง"
ตัวเอง
หากท่านให้อภัยผู้ที่กระทำผิดต่อท่าน
พระบิดาเจ้าก็จะทรงให้อภัยท่านด้วย
แต่หากท่านไม่ให้อภัยผู้อื่น
พระบิดาของท่านก็จะไม่ทรงให้อภัยแก่ท่านเช่นกัน
(มัทธิ 6:14,15)
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาเจ้า ขอพระโปรดช่วยให้ลูกมีความอดทนต่อผู้อื่น
ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ช่วยสอนให้ลูกรู้จักรักและอภัยผู้อื่นเหมือนเช่นที่พระองค์ทรงรักและให้อภัยลูกเสมอมา
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้
ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว
แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ
ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด ลูกจะไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี
ลูกจะแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
ไม่มีครูใดดีกว่า "พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า
"พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป
แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
KC Love God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น