วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2562

ให้โดยไม่หวังผล


วันที่หนึ่งร้อยยี่สิบเจ็ด - ให้โดยไม่หวังผล
จงรักษาคนเจ็บป่วย ให้คนตายฟื้นขึ้น รักษาคนโรคเรื้อนให้หาย และขับผีออก ท่านทั้งหลายได้รับเปล่าๆ ก็จงให้เปล่าๆ
มัทธิว10:8

     พระเจ้าทรงให้ของขวัญมากมายกับคุณ, และพระองค์ไม่เคยคาดหวังสิ่งใดตอบกลับจากคุณเลย. มันวิเศษมากเลยใช่ไหม? ในฐานะที่คุณเป็นผู้รับ คุณย่อมรู้สึกว่า การให้ที่ไม่หวังผลในแบบพระเจ้าช่างเป็นเรื่องที่ประเสริฐยิ่งนัก แต่สำหรับมนุษย์อย่างเราล่ะ? หากคุณต้องเป็นผู้ให้ล่ะ คุณจะสามารถให้ได้ในแบบเดียวกับที่พระเจ้าให้กับคุณได้หรือเปล่า? คำตอบจะออกมาเป็นแบบไหนก็คงมีแต่ตัวคุณเองนั่นแหละที่รู้ดี. แต่สิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรลืม นั่นก็คือ พระเจ้าทรงต้องการให้คุณเป็นผู้ให้ในแบบเดียวกับที่พระองค์ทรงทำให้เป็นแบบอย่าง พระองค์ต้องการเห็นคุณทำสิ่งนี้กับเพื่อนมนุษย์ทุกคน ไม่มีการแบ่งแยก เพราะทุกคนเท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระเจ้า เราทุกคนมีค่า และเป็นที่รักของพระองค์

     ให้คุณลองนึกดูสิว่ามีอะไรบ้างที่คุณสามารถแบ่งปัน และทำเพื่อคนอื่นได้บ้าง? แน่นอนที่เดียว! ความมีน้ำใจต่อผู้อื่น นี่ก็เป็นสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้ ไม่ต้องซื้อต้องหาแต่เป็นการแสดงออกจากใจจริงของเรา. หรือหากคุณมีทุนทรัพย์พอที่จะหาของขวัญให้กับเพื่อนที่คุณรัก คุณก็สามารถมอบของขวัญในโอกาสวันเกิดหรือวันคริสมาส หรือวันสำคัญต่าง ๆ ก็ได้,  ห้ามพูดว่า “ต้องรอก่อนนะ” เพราะคนส่วนใหญ่มักพูดเสมอว่า “ฉันจะเป็นผู้ให้ถ้าฉันรวยกว่านี้ หรือไม่ก็บอกว่า ถ้าฉันถูกหวย! ฉันถึงจะเป็นผู้ให้ได้”  เพราะถ้ามัวแต่รอวันที่คุณจะรวย หรือวันที่คุณจะประสบความสำเร็จ อาจต้องคอยไปอย่างไม่มีกำหนด เพราะมนุษย์เราไม่มีคำว่าพอ!

     ดังนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีโอกาสที่จะเป็นผู้ให้ อย่าด่วนปฏิเสธ เพราะหากเป็นสิ่งที่คุณสามารถให้ได้ หรือทำให้คนอื่นได้ ก็จงทำมันทันที อย่าบอกให้เขารอ หรือกลับมาใหม่, การให้ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินทอง สิ่งของ เสมอไป, คุณสามารถให้ความรัก ความเอาใจใส่ ให้การดูแล การแบ่งปันสิ่งของที่คุณมีอยู่ซึ่งอาจจะมากเกินความจำเป็น คุณก็แบ่งปันส่งต่อสิ่งเหล่านั้นให้คนอื่นหรือคนที่คุณรักได้. ส่วนเรื่องการยืมเงินทอง หรือยืมสิ่งของมีค่าอื่น ๆ หากเขาคือคนที่คุณรัก และต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริง ๆ  ให้คุณไตร่ตรองให้ดี เพราะสิ่งมีค่าเหล่านี้ เมื่อให้ผู้อื่นยิบยืมไปแล้ว ส่วนใหญ่ผลที่ตามมาจะเป็นผลเสีย และทำให้ความสัมพันธ์ขาดสะบั้น ดังนั้นก่อนจะให้ใครสักคนยืมเงินทอง สิ่งของที่มีค่า คุณมีตัวเลือกสองอย่าง คือให้ไปเลยโดยไม่หวังว่าจะได้มันกลับมา   หรืออาจจะยิบยื่นให้ตามกำลังที่คุณสามารถช่วยได้โดยเป็นการให้ไปเลย หรืออาจต้องปฏิเสธไปเลยหากมันดูเยอะเกินกำลังที่คุณจะช่วยได้.  การให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนจะทำให้ใจของเราสบาย เพราะเราได้ให้เขาไปด้วยความรักด้วยความหวังดี ส่วนผู้รับเขาจะพอใจมากน้อยเพียงใดก็เป็นเรื่องของเขา เราอย่าเอามาคิดให้เป็นปัญหา.

  การให้ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นการให้ด้วยทรัพย์สิน เงินทอง ในที่นี้จะหมายถึง การให้ด้วยน้ำใจ ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า เป็นเรื่องที่หาได้ยากในสังคม การที่จะพบบุคคลที่มีความเสียสละ ทุ่มเท อุทิศแรงกายแรงใจ เสียสละเวลาส่วนตัว ด้วยแล้ว เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ยากเหลือเกินที่จะค้นพบ การให้ด้วยน้ำใจ ปัจจุบันถ้าเป็นเชิงวิชาการ จะหมายถึง การให้ความรู้ ซึ่งเป็นการให้ที่ปราศจากการที่จะหวังผลสิ่งใดตอบแทน เป็นการให้ความรู้จากความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ของตนเอง เพื่อเป็นวิทยาทานให้กับผู้ที่ไม่รู้ หรือเป็นการเพิ่มเติมความรู้ให้กับผู้อื่น. การช่วยเหลือโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้น เป็นการช่วยเหลือโดยที่เรากระทำออกมาจากใจของเรา  เพราะธรรมชาติของมนุษย์เมื่อเห็นคนตกทุกข์ได้ยากนั้น เราก็มักจะอยากเข้าไปช่วยเหลือ แต่การช่วยเหลือจะหวังสิ่งของตอบแทนหรือไม่ ก็แล้วแต่คน  การที่เราช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้น แสดงให้เห็นว่าเรายังมีจิตสำนึกที่ดี  ยังคงมีจิตสาธารณะอยู่  ดังนั้นเราจึงควรที่จะรักษามันไว้ ให้จิตสาธารณะ จิตสำนึกที่ดีนี้อยู่กับเราไปได้นาน ๆ อย่าให้ความฉลาดและความเห็นแก่ตัวของเรามาพรากมันไปจากจิตใจของเราการช่วยเหลือใด ๆนั้นไม่เท่ากับการให้ โดยปราศจากสิ่งของตอบแทน  คือการให้และการทำให้ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์. ทุก ๆคนบนโลกใบนี้ ก็ควรมีใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตใจอันบริสุทธิ์  ช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยอย่าได้หวังสิ่งใดตอบแทนมาเลย  เพราะเมื่อคุณรู้จักให้เขา  เขาก็จะรู้จักเรียนรู้จากสิ่งที่คุณให้และให้คุณกลับมาคืนบ้าง โดยที่คุณไม่ได้ร้องขอเลยด้วยซ้ำ

การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน คือ สโลแกนที่ประเสริฐที่สุด

 ข้อคิดระหว่างวัน
ความสุขใดจะยิ่งใหญ่เท่ากับการให้
เพราะผลของการให้ไม่ใช่การคาดหวังว่าจะได้รับสิ่งต่าง ๆ การให้นั้นสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีเรื่องของการตอบแทนมาเกี่ยวข้อง

ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกขอขอบพระคุณสำหรับทุกพระพรที่พระองค์ทรงมอบให้ลูกและครอบครัวเสมอมา ขอโปรดช่วยให้ลูกรู้จักที่จะเป็นผู้ให้ในแบบเดียวกับที่พระองค์ทรงทำให้กับลูกด้วยเทอญ
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้ ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.

อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน

     และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด  ลูกจะไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี ลูกจะแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป  อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ

ไม่มีครูใดดีกว่า "พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า "พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
KC Love God

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...