วันที่หนึ่งร้อยเก้า- เถาองุ่นที่แข็งแรง
5“เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง
ถ้าผู้ใดคงอยู่ในเราและเราคงอยู่ในเขาผู้นั้นจะเกิดผลมาก
เพราะถ้าแยกจากเราแล้วพวกท่านไม่อาจทำสิ่งใดได้เลย
6ถ้าผู้ใดไม่ได้คงอยู่ในเราผู้นั้นจะเป็นเหมือนแขนงที่ถูกโยนทิ้งและเหี่ยวเฉา
แขนงเหล่านี้จะถูกเก็บไปโยนทิ้งให้ไฟเผา
7ถ้าพวกท่านคงอยู่ในเราและถ้อยคำของเราคงอยู่ในพวกท่าน จงขอสิ่งใด ๆ
ที่พวกท่านปรารถนาแล้วพวกท่านจะได้รับสิ่งนั้น
ยอห์น15:5-7
คุณรู้หรือไม่ว่าองุ่นเติบโตอย่างไร
พวงองุ่นเติบโตอยู่บนเถาองุ่นที่แข็งแรง
ซึ่งประกอบไปด้วยทุกสิ่งที่สามารถเสริมสร้างให้เมล็ดองุ่นเติบโต เถาวัลย์เดียวสามารถให้ผลผลิตมากมาย
สามารถนำมาบริโภคได้หลากหลายวิธี, ความงดงามของต้นไม้ต้นหนึ่งไม่ได้อยู่ที่ลำต้นแต่อยู่ที่กิ่ง
และต้นไม้ต้นหนึ่งควรมีชีวิตเดียวกันไหลผ่านกิ่งหรือแขนง ในขณะที่ไหลผ่านลำต้น
สิ่งนี้ทำให้เห็นถึงแนวความคิดของพระเจ้า เราสนิทอยู่ในพระเจ้า เราเป็นหนึ่งเดียวในพระองค์
และพระบิดาทรงปกปักรักษาเรา
พระเยซูตรัสว่า “เราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นแขนง”
นั่นหมายความว่าเรามีชีวิตและธรรมชาติเดียวกัน. ถ้าเรามองออกไปรอบ ๆ ตัวเรา เราจะเห็นความจริงนี้
กิ่งก้านใดที่ไม่ติดกับลำต้นก็จะต้องเหี่ยวแห้งและตายไป
จากธรรมชาติเช่นนี้พระเยซูเจ้าต้องการสอนเราว่า เราต้องยึดติดกับพระองค์
ติดแบบแนบแน่น เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ใช่แค่เกาะหรือเกี่ยวแค่ภายนอกเท่านั้น. ดังนั้นถ้าเราต้องการพบพระเยซูเจ้า
เราต้องไปวัด, เราต้องเข้ามาเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร, เราต้องสวดภาวนา,
อ่านพระคัมภีร์ ร่วมพิธีมิสซาฯ และรับศีลมหาสนิทอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นแล้ว
เราจะต้องทำให้พระเยซูเจ้าเป็นที่ปรากฏต่อสายตาของคนอื่น ๆ ผ่านการดำเนินชีวิตของเราด้วย
พระศาสนจักรไม่ได้อยู่ที่
“สถานที่” ที่คนมาชุมนุมกัน แต่อยู่ที่ “การชุมนุมกัน”
ของผู้ที่มีความเชื่อในพระเยซูเจ้า, พระศาสนจักรไม่ใช่ “สถานที่”
ที่คนมาชุมนุมกันเพื่อภาวนา แต่อยู่ที่ “บุคคล” ที่มารวมตัวกันเพื่อภาวนา, พระศาสนจักรจะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ก็ต่อเมื่อมีคนมาร่วมชุมนุมกัน, พระศาสนจักรเหมือนกับปังกับเหล้าองุ่นที่เราใช้ในพิธีมิสซาฯ
มาจากข้าวสาลี่และองุ่นจำนวนมากถูกหลอมรวมกัน, เช่นเดียวกับพวกเราที่นี่,
การมาร่วมชุมนุมกันของพวกเรา ทำให้เกิดพระศาสนจักรของพระเยซูเจ้า
ข้อคิดระหว่างวัน
คุณสามารถเชื่อมต่อสายสัมพันธ์กับพระเยซูได้ผ่านทางการภาวนาอธิษฐาน, การอ่านและศึกษาเรื่องราวจากพระคัมภีร์,
หรือการไปร่วมมิสซา เพื่อฟังคำเทศนา.
พระเยซูตรัสว่า ความรักเชื่อมมนุษย์ไว้กับพระเจ้าเยี่ยงเถาองุ่น
และความสัมพันธ์นี้สร้างความสุขใจให้แก่มนุษย์และพระเจ้า (เทียบ ยน
15:1-10)
พระเยซูและพระศาสนจักรของพระองค์เปรียบได้กับต้นองุ่นที่พระเจ้าทรงปลูกไว้
(ด้วยการส่งพระบุตรมาบังเกิดในโลก)
เราเปรียบได้กับแขนงของเถาองุ่น
ความเชื่อช่วยให้เราสนิทอยู่กับพระองค์
เรามีชีวิตอยู่ได้ก็ด้วยพระองค์
- ชีวิตของพระเยซู
คือชีวิตฝ่ายวิญญาณของเรา เปรียบได้กับอาหารที่ต้นองุ่นใช้แจกจ่ายเลี้ยงแขนงของมัน
-
พระบิดาทรงแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆของเรา
เปรียบได้กับเจ้าขององุ่นที่ตัดริดกิ่งก้านสาขาที่เปล่าประโยชน์
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอขอบพระคุณพระองค์สำหรับเกียรติที่ได้เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์
ไม่เพียงแต่พระองค์ได้ทำให้ลูกเป็นที่สถิตของพระองค์ ลูกยังกลายเป็นผู้แจกจ่ายความชอบธรรม
ความเมตตา ความดี และพระคุณของพระองค์ ลูกจะดำเนินชีวิตในพระพรอย่างเต็มล้นของการเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์
เพื่อสำแดงพระสิริ ความงดงาม และสติปัญญาของพระองค์
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้
ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว
แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ
ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด
ลูกจะไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี
ลูกจะแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
ไม่มีครูใดดีกว่า "พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า
"พระวาจา"
พระองค์ไม่เคยสาย พระองค์ไม่เคยช่วยเราช้าเกินไป
แต่พระองค์ทรงทันเวลาเสมอ
KC Love God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น