11
วิธีที่ช่วยในการฟังพระเจ้า
นี่เป็นวิธีเตรียมหรือปรับสภาพจิตวิญญาณของคุณให้รับรู้เมื่อพระเจ้าตรัส!
#1. จงใกล้ชิดกับพระเจ้า (ปรับคลื่นรับของคุณ)
คุณต้องใกล้ชิดกับพระเจ้า คุณต้องพัฒนาความสัมพันธ์ส่วนตัวกับพระองค์!
จูน คลื่นรับฝ่ายวิญญาณของคุณเข้าสู่สถานีของพระองค์ มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้ในวันนี้!
#2. มอบอำนาจให้พระเจ้า
อธิษฐานและประกาศว่าพระเจ้ามีอำนาจเหนือวิญญาณของคุณ! อนุญาตให้พระองค์สื่อสารกับคุณ! กาลาเทีย 5:25
กล่าวว่าในเมื่อเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณก็ให้เราดำเนินตามพระวิญญาณเถิด
คุณต้องละทิ้งการควบคุมชีวิตของตนคุณด้วยการมอบมันให้กับพระเจ้า!
คุณต้องประกาศว่าคุณต้องการได้ยินจากพระเจ้าอย่างเปิดเผยและคุณกำลังฟังอยู่!
#3. ศึกษาพระวจนะของพระเจ้า
ยอห์น 1:1
บอกเราว่าพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระวาทะ! หากคุณต้องการได้ยินจากพระเจ้า คุณต้องอ่านพระคำของพระองค์
บ่อยครั้งที่พระองค์จะทรงสื่อสารกับเราโดยตรงจากพระคัมภีร์!
คุณสามารถเรียนรู้วิธีฟังพระคำของพระเจ้าได้เพียงแค่อ่านพระคัมภีร์!
ดูข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการฟังพระเจ้าไม่ใช่มนุษย์ เช่น กิจการ 5:29!
เปโตรกับอัครทูตอื่นๆ ตอบว่า
“พวกข้าพเจ้าต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์!” – กิจการ 5:29 (NIV)
#4. สงบเสงี่ยม
ฝึกเงียบและฟังพระเจ้า! หลีกหนีจากเสียงรบกวนและสิ่งรบกวนสมาธิ
จงอยู่ต่อหน้าพระเจ้า หยุดจัดตารางเต็มเวลาแล้วให้เวลากับพระเจ้ามากขึ้น
ฝึกใช้เวลาเงียบๆ ของคุณเพื่อฟังพระเจ้าตรัส
#5. พิจารณาแรงจูงใจของคุณ
ทำไมคุณถึงต้องการได้ยินจากพระเจ้า? คุณต้องการความชัดเจน? คุณต้องการการปลอบประโลมหรือไม่?
คุณกำลังมองหาโอกาสที่จะอวด? คุณต้องการที่จะทำให้รู้สึกพิเศษ?
พิจารณาแรงจูงใจของคุณเมื่อฟังพระเจ้า!
หากแรงจูงใจของคุณคือความเห็นแก่ตัว เป็นรูปธรรม หรือหยิ่งทะนง
ความคิดของคุณเองก็สามารถปิดกั้นพระเจ้าได้!
วิธีหนึ่งที่คุณสามารถทำได้คือการแสวงหาพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์ก่อนเสมอ!
#6. อย่าฝืนใจของตัวเอง
คุณไม่สามารถบังคับพระประสงค์ของพระเจ้าให้ตรงกับความต้องการของคุณ
หากคุณต้องการฟังพระเจ้า
คุณต้องพร้อมที่จะได้ยินทุกอย่างที่พระองค์ต้องการจะบอกคุณ
อาจมีบางครั้งที่พระเจ้าเปิดเผยความจริงที่คุณไม่ต้องการได้ยินหรือคำพยากรณ์ที่ดูน่ากลัว
คุณต้องการจะฟังพระองค์เพื่อให้ตนเองได้เข้าใจ ไม่ใช่เพื่อโต้ตอบ
พระเจ้าทรงเป็นพระวิญญาณ
ผู้ที่นมัสการพระองค์ต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง”– ยอห์น 4:24 (NIV)
#7. ฝึกการฟังอย่างกระตือรือร้น
คุณต้องฝึกการฟังอย่างกระตือรือร้นในชีวิตประจำวันของคุณ
เมื่อคุณสื่อสารกับผู้อื่น คุณพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่พวกเขากำลังพูด
หรือคุณกำลังรอโอกาสที่จะได้พูดโต้กลับไป?
ให้ความสนใจเมื่อคนอื่นพูดและสังเกตว่าคุณต้องตอบสนองอย่างไร!
เรียนรู้จากสิ่งนี้และนำไปใช้กับวิธีที่คุณอธิษฐาน!
มีหลายวิธีในการฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี!
#8. เชื่อฟังพระเจ้า
การเชื่อฟังเป็นกุญแจสู่ความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า
พระเจ้าตรัสว่าเราไม่สามารถอ้างได้ว่ารู้จักพระองค์อย่างแท้จริงหากเราไม่ดำเนินชีวิตในการเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์
หากคุณคาดหวังที่จะสื่อสารกับพระเจ้า คุณจำเป็นต้องรู้จักพระองค์
หากคุณต้องการรู้จักพระองค์ คุณต้องเชื่อฟังพระองค์ก่อน
4ผู้ที่พูดว่า “เรารู้จักพระองค์”
แต่ไม่ทำตามสิ่งที่ทรงบัญชา ผู้นั้นก็โกหกและความจริงไม่ได้อยู่ในเขาเลย
5แต่ถ้าผู้ใดเชื่อฟังพระดำรัสของพระองค์ ความรักของพระเจ้า
ก็เต็มบริบูรณ์อยู่ในผู้นั้น ด้วยวิธีนี้เราจึงรู้ว่าเราอยู่ในพระองค์คือ
6ผู้ใดอ้างว่าอยู่ในพระองค์ ผู้นั้นต้องดำเนินชีวิตอย่างที่พระเยซูได้ทรงดำเนิน– 1 ยอห์น 2:4-6 (NIV)
#9. ตอบสนองเมื่อพระเจ้าตรัส
คุณเคยพูดกับคนที่ไม่สนใจฟังคุณบ้างไม่? คุณอาจหยุดพูดไปเลยในสถานการณ์แบบนี้ใช่หรือเปล่า
คุณสามารถจินตนาการได้ว่ามันคล้ายกับพระเจ้า พระองค์ทรงทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อสื่อสารกับเรา
แต่ถ้าเราละเลยการเรียกของพระองค์ พระองค์จะหยุดเคาะที่ประตูของเรา!
เมื่อคุณตระหนักว่าพระเจ้าสื่อสารกับคุณ จงตอบรับพระองค์! คุณสามารถดำเนินการได้โดยการมีส่วนร่วมในการสรรเสริญ ถวายเกียรติและนมัสการพระองค์!
คุณสามารถร้องเพลง เต้นรำ หรือเขียนบรรยายออกมา หรือ คุณจะทำอะไรก็ได้เพื่อให้พระองค์รู้ว่าคุณได้ยินพระองค์!
#10. รับใช้พระเจ้า
ใช่แล้ว พระเจ้าจะสื่อสารกับคุณเพื่อให้การปลอบโยนและให้กำลังใจแก่คุณ
พระองค์จะทรงแจ้งความต้องการของผู้เชื่อคนอื่นๆ และอาณาจักรของพระองค์ให้กับคุณด้วย
คุณพร้อมที่จะรับใช้พระเจ้าแล้วหรือยัง! จงมีส่วนร่วมในคริสตจักรหรือชุมชนวัดของคุณ
จัดกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์ หรือร่วมทำงานเป็นอาสาสมัครในงานของพระเจ้า
ใช้ของประทานที่พระเจ้าอวยพรให้คุณเพื่อรับใช้ผู้อื่น
เมื่อคุณดำเนินชีวิตเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า คุณจะใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น!
#11. จดบันทึก
ครั้งต่อไปที่คุณอธิษฐานต่อพระพักตร์พระเจ้า
ให้จดทุกสิ่งที่พระองค์ทรงเปิดเผยแก่คุณ แม้ว่าคุณจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้นก็ตาม
แต่ให้เขียนลงไป
คุณควรเขียนทุกๆอย่างออกมา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณคิด ข้อพระคัมภีร์ จินตภาพ
ชื่อคน เพลงที่ชอบ และความรู้สึกลงไป! คุณจะเริ่มรับรู้ได้เองเมื่อมีความคิดหรือหัวข้อเดิม
ๆ มันผุดขึ้นมาอีกบ่อยๆ
จงชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์จะประทานสิ่งที่ใจของท่านปรารถนา - สดุดี 37:4 (NIV)
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
sharinglifeandlove.com
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น