วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2565

พระเจ้าอวยพรเราเพื่อเราจะได้เป็นพรแก่ผู้อื่น

 


พระเจ้าอวยพรเราเพื่อเราจะได้เป็นพรแก่ผู้อื่น

พระเจ้าต้องการอวยพรเรา พระองค์รักเราและต้องการให้เราได้สิ่งดีที่สุด แนวความคิดเรื่องพรนี้เกิดขึ้นตลอดทั้งพระคัมภีร์ในพันธสัญญาเดิม พระเจ้ามักจะเชื่อมโยงพระพรของพระองค์กับการเชื่อฟังของผู้คนและทัศนคติในจิตใจของพวกเขา ครั้งแรกที่เราพบคำนี้ในพระคัมภีร์ เป็นคำสัญญาที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าที่จะอวยพรอับราฮัม พระองค์ทำสิ่งนี้ก่อนที่อับราฮัมจะทำอะไรเพื่อแสดงการเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าหรือความเชื่อของเขา

พระเจ้าอวยพรอับราฮัมเพราะเห็นแก่อับราฮัม แต่ยังมีอะไรมากกว่านั้น โดยทางอับราฮัม พระเจ้าสัญญาว่าจะอวยพรทุกคนบนแผ่นดินโลกผ่านทางเขา (ปฐมกาล 12:2-3) กล่าวโดยย่อคือ พระเจ้าอวยพรอับราฮัมให้เป็นพรแก่ผู้อื่น

แต่สิ่งนี้ไม่ได้ใช้กับอับราฮัมเท่านั้น คำอวยพรเกิดขึ้นหลายร้อยครั้งในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ เป็นเรื่องที่เกิดซ้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วลี bless you เกิดขึ้นห้าสิบครั้ง นอกจากนี้ แนวคิดในการให้พรผู้อื่นปรากฏขึ้นสี่สิบครั้ง และให้พรแก่ประเทศต่างๆ ปรากฏขึ้นอีกสิบห้าครั้ง

พระเจ้าคาดหวังให้เราเป็นพรแก่ผู้อื่น เราควรมองการจัดเตรียมของพระเจ้าสำหรับเราจากมุมมองนี้ พระองค์ทรงอวยพรเรา—ทรงทำให้เรารุ่งเรือง—เพื่อที่เราจะสามารถเป็นพรแก่ผู้อื่นได้ ต่อไปนี้คือวิธีที่เราสามารถทำได้:

การบริจาคเงิน

สำหรับคนโดยทั่วไป เมื่อพูดถึงความคิดที่ว่า เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อเป็นพรแก่ผู้อื่น หลายคนจะคิดถึงเรื่องเงิน  เราสามารถใช้เงินที่พระเจ้าประทานพรให้เรามาเพื่อมอบให้กับองค์กรที่มีภารกิจสอดคล้องกับงานของพระเจ้า หรือเราสามารถมอบเงินโดยตรงกับผู้ยากไร้เลยก็ได้

อย่างไรก็ตาม ในทั้งสองกรณี เราต้องทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลที่ดีของพรทางการเงินที่พระเจ้ามอบให้กับเรา เพื่อที่ว่าเงินเหล่านั้นจะเป็นประโยชน์สูงสุดกับพระศาสนจักรและงานของพระเจ้า

การแบ่งปันสิ่งของ

เราสามารถเป็นพรแก่ผู้อื่นได้เช่นกันเมื่อเราแบ่งปันสิ่งของของเรา เมื่อเรามีสิ่งของที่ยังมีคุณภาพดีแต่ตัวเราไม่จำเป็นต้องใช้มันแล้ว เราก็ไม่ควรทิ้ง เราควรนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ที่ต้องการมัน

เราสามารถมอบให้โดยตรงแก่บุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือหรือต่ออองค์กรต่างๆ ที่เขาอาจจะนำไปแจกหรือขายเพื่อระดมเงินเพื่อการกุศลก็ได้

การแบ่งปันนั้นนอกจากจะให้ของที่เราไม่ใช้แล้ว   เรายังสามารถให้สิ่งของที่เรายังคงใช้งานอยู่ได้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งของที่ยังคงมีคุณค่าต่อเรา และต่อผู้อื่นด้วย ถ้ามีใครต้องการมันมากกว่าเรา เราก็อาจจะต้องยอมยกมันให้กับคนอื่น การทำสิ่งนี้เปรียบเสมือนเป็นการส่งต่อความรักของพระเจ้าให้กับเพื่อนมนุษย์

และยังมีวิธีอื่นอีกมากมายที่เราสามารถเป็นพรแก่ผู้อื่นได้ เช่น

การให้เวลา

นอก​จากเรื่อง​สิ่ง​ของ​วัตถุ จง​คำนึง​ถึง​เวลา​ของ​เรา. เราสามารถมอบเวลาของเราในการช่วยเหลือผู้อื่น สิ่งนี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยเริ่มจากการให้เวลาและใส่ใจกับสมาชิกในครอบครัวอย่างเต็มที่ ทำให้ดีกว่าที่เคยทำ และทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะความรักที่ดีควรเริ่มต้นจากคนในครอบครัว จากนั้นเราอาจไปเป็นอาสาสมัครให้กับองค์กรต่างๆ หรือที่โบสถ์ที่เขาเน้นการช่วยเหลือผู้อื่น นอกจากนี้เรายังสามารถทำมันได้โดยตรงโดยการช่วยเหลือเพื่อนบ้านตามความสามารถที่เรามี 

และอย่าให้ใครมาบ่นว่า “ฉันมีเวลาไม่พอ” ฉันขอเตือนคุณว่าเราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงในแต่ละวัน แต่มันขึ้นอยู่ที่ว่าตัวเราจะเลือกวิธีการ หรือบริหารในการใช้เวลานั้นๆอย่างไร แล้วทำไมคุณไม่เลือกที่จะใช้เวลาของคุณเพื่อคนอื่นบ้างละ?

การเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาในเขตชุมชนวัด

วิธีเฉพาะในการเป็นพรแก่ผู้อื่นด้วยเวลาของเราคือการให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัว ด้วยวิธีนี้เราจึงมอบตัวเองเพื่อช่วยให้พวกเขามีทัศนคติชีวิตที่ดีขึ้น มีมุมมองที่แตกต่างออกไปโดยอาศัยพระคำของพระเจ้า เราและเขาก็จะเติบโตขึ้นไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย ทางวิญญาณ อารมณ์ หรือทั้งสามอย่าง

การอธิษฐานเผื่อผู้อื่น

เป็นตัวเลือกสุดท้ายและตัวเลือกที่สำคัญที่สุด เพราะนี่คือสิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้ เราทุกคนสามารถอธิษฐานเผื่อผู้อื่นได้ และเราสามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ ทันที

การเป็นพรแก่ผู้อื่น

พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเราแต่ละคนไม่ว่าจะมากหรือน้อย จงมองหาวิธีที่จะใช้พรของพระองค์ที่มอบให้กับเราเพื่อส่งต่อความรักของพระองค์และเป็นพรที่เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นในทุกๆวัน

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Peterdehaan

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่  kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...