วิธีฟังเสียงพระเจ้า
สิ่งหนึ่งที่คริสเตียนเกือบทั้งหมดต้องยอมรับก็คือเราต้องการได้ยินเสียงของพระเจ้า
แต่พระองค์จะตรัสกับเราอย่างไรละ? คุณสามารถเรียนรู้ที่จะฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าได้ไหม? แล้วคุณพร้อมที่จะเรียนรู้วิธีฟังพระเจ้าแล้วหรือยัง?
ชีวิตของเราในแต่ละวันมันช่างวุ่นวาย ปฏิทินของเราต่างเต็มไปด้วยกำหนดการนัดหมายและการประชุม ไม่ว่าจะเป็นงานราฎ
หรืองานหลวง ไหนจะงานบ้านอีก!
เรามีสิ่งรบกวนอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงในทุกวัน ไหนจะรายการโปรด ซีรี่โปรดของคุณที่สามารถสตรีมได้ทุกเวลา ไหนจะฟีดในโซเชียลมีเดียของคุณที่ไม่มีวันออฟไลน์
และข่าวสารมากมายที่ก็ไม่เคยหยุดนิ่ง
แล้วเราจะคาดหวังได้อย่างไรว่า เราจะ "ได้ยินเสียงจากพระเจ้า”ในขณะที่ตารางเวลาของเรานั้นเต็มไปด้วยเสียงของสิ่งรบกวนมากมายแบบนี้ ? คำอธิษฐานของเราส่วนใหญ่เป็นเหมือนการการโทรศัพท์ เราเปล่งเสียงและวิงวอนต่อพระเจ้าบอกถึงสิ่งที่เรารู้สึก สิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราอยากได้ จากนั้นเราก็ "วางสาย" (พูดๆๆ แล้วก็ไป) โดยที่เราไม่ได้ให้เวลากับการ หยุดฟังเสียงตอบจากพระองค์
อย่างไรก็ตาม
การเรียนรู้ที่จะฟังพระเจ้าและแยกแยะเสียงของพระองค์อาจเป็นหนึ่งในแง่มุมที่สำคัญที่สุดของการเป็นสาวกของคุณ
ให้คุณใช้เวลาสักครู่เพื่ออธิษฐาน ขอให้พระเจ้าเปิดใจและหูของคุณต่อ "เสียง" ของพระองค์ ถามตัวเองว่าการฟังพระเจ้าหมายความว่าอย่างไร?
เรียนรู้วันนี้ถึงความสำคัญและประโยชน์ของการฟังสุรเสียงของพระเจ้า
ทำความเข้าใจว่าพระเจ้าตรัสกับใครและอะไรที่จะมาขัดขวางไม่ให้คุณได้ยินพระองค์
และค้นหาวิธีที่คุณจะได้ยินพระองค์!
แล้วคุณจะเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างการอธิษฐานและการฟังเสียงพระเจ้ามากขึ้น
ฉะนั้นความเชื่อจึงเกิดขึ้นจากการได้ยินเรื่องราวนั้น
และเรื่องราวที่ได้ยินนั้นคือพระวจนะของพระคริสต์ – โรม 10:17 (NIV)
คุณอาจถามตัวเองว่าทำไมการฟังพระเจ้าจึงสำคัญ?
คุณสามารถเป็นคริสเตียนที่ดีโดยไม่ต้องได้ยินสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับคุณได้หรือไม่?
การฟังกำลังประมวลผลสิ่งที่เราได้ยิน ความจริงก็คือ มีเสียงดังอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา
และคุณก็ไม่ได้ฟังเป็นส่วนใหญ่ อันที่จริง
สถิติแสดงให้เห็นว่าเวลาในการสื่อสารของคนเรานั้น เราจะใช้เวลาเพียง 55%
ในการฟังเท่านั้น
เมื่อเราตั้งใจฟัง เราจะเริ่มเข้าใจสิ่งที่เราได้ยินมากกว่าแค่การตอบสนอง
การฟังพระเจ้ามีความสำคัญเพราะเป็นวิธีเดียวที่เราเรียนรู้ที่จะรับรู้ถึงอิทธิพลของพระเจ้าในชีวิตของเรา!
พระเจ้าตรัสกับใครเป็นสิ่งสำคัญ
จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าใจว่าพระเจ้าตรัสกับใคร
คุณคงกำลังสงสัยว่าแล้วฉันจะฟังเสียงของพระเจ้าได้อย่างไร?
และพระองค์กำลังตรัสกับใครอยู่?
คุณอาจแปลกใจที่รู้ว่าพระองค์ตรัสกับทุกคน
พระองค์พูดกับฉัน พระองค์พูดกับคุณ พระองค์พูดกับเพื่อนบ้าน พระเจ้ากำลังสื่อสารกับเราทุกคน!
การได้ยินจากพระเจ้าไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะบุคคลที่ “พระวิญญาณทรงเลือก” เท่านั้น!
พระเจ้าต้องการให้คุณได้ยินพระองค์และฟังสิ่งที่พระองค์บอกคุณ!
ปัจจัยที่ทำให้เราหูหนวกไม่ได้ยินเสียงของพระองค์ก็มีความสำคัญ
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งในการฟังพระเจ้าคือการตระหนักว่าสิ่งใดที่กำลังขัดขวางเราไม่ให้ได้ยินพระองค์!
แล้วมันคืออะไรละ?!?
ยกตัวอย่าง ลองคิดถึงนักดนตรีที่คุณชื่นชอบ
ครั้งแรกที่คุณได้ยินพวกเขาผ่านทางวิทยุ คุณอาจไม่ได้ฟังมันเสียด้วยซ้ำ!
อาจเป็นครั้งที่สองหรือครั้งที่สามที่คุณได้ยินเพลงของพวกเขาอีกครั้ง และครั้งที่สี่ที่คุณได้ยินมันอีก คุณก็เริ่มฟังมันมากขึ้น
หลังจากห้าหรือหกครั้งที่คุณได้ยินศิลปินคนนี้ คุณก็จะเริ่มจำเสียงของพวกเขาได้!
การฟังพระเจ้าก็เหมือนกัน! แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องตระหนักว่าสิ่งที่ "ปิดกั้น"
หูของเราอยู่นั้นก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง!
คุณหยุดตัวเองจากการฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าอยู่หรือไม่?
ถูกต้องแล้ว; เสียงของคุณกำลังกลบสิ่งที่พระเจ้าพยายามจะบอกคุณ
เพราะโดยส่วนใหญ่ คนเราจะคิดว่าเสียงของเรานั้นมีเหตุผลมากเพียงพอแล้ว
นี่คือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับพระเจ้า เมื่อคุณแยกแยะพระสุรเสียงของพระเจ้าได้
คุณจะเห็นว่าพระองค์ทรงอัศจรรย์ ! พระองค์เป็นพระเจ้าที่สุขุมและมีรอบรู้ในทุกสิ่ง
ท่องจำข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการฟังพระเจ้า
พระองค์ตรัสตอบว่า
“ความสุขมีแก่บรรดาผู้ได้ยินพระวจนะของพระเจ้าและเชื่อฟังต่างหาก”– ลูกา 11:28 (NIV)
เราอยู่ที่นี่แล้ว!
เรายืนเคาะอยู่ที่ประตู ถ้าผู้ใดได้ยินเสียงของเราและเปิดประตู
เราจะเข้าไปรับประทานอาหารกับผู้นั้นและเขาจะรับประทานร่วมกับเรา! - วิวรณ์ 3:20 (NIV)
ซาตานจะหยุดคุณไว้ไม่ให้ฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า
นี่ก็เป็นเรื่องใหญ่! เพราะซาตานทำงานอยู่เสมอ
มันพยายามทำให้คุณเสียสมาธิ เสียงของมารจะมาในแง่ลบและทำลายล้าง มันจะประณามคุณและทำให้คุณรู้สึกผิด
แต่นี่ไม่เหมือนกับพระเจ้า เพราะ พระเจ้าตรัสด้วยความรักและให้การเสริมสร้างกำลังใจ!
พระเจ้าตรัสถึงชีวิต ความปีติ และสันติสุข! พระองค์จะตัดสินว่ากระทำผิดแต่ไม่ประณาม
ผู้ที่เป็นคนของพระเจ้าย่อมรับฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัส
เหตุที่พวกท่านไม่ยอมรับฟังก็เพราะพวกท่านไม่ได้เป็นของพระเจ้า” – ยอห์น 8:47 (NIV)
ประโยชน์ของการฟังพระเจ้า
ใช่แล้ว หากการฟังพระเจ้ามีความสำคัญมาก
มันก็ต้องมีผลประโยชน์ที่ยอดเยี่ยมรวมอยู่ด้วยใช่ไหม?
ประโยชน์ #1 – คุณจะเติบโตในสติปัญญา
พระเจ้าเป็นบ่อเกิดของปัญญาทั้งปวง ยากอบ 1:5 บอกเราว่าถ้าเราขาดปัญญา เราต้องทูลขอพระเจ้า! สุภาษิต 2 บอกเราว่าปัญญามาจากพระเจ้า! และในสุภาษิตนั้นเต็มไปด้วย "การฟังพระเจ้า" ไม่มีใครฉลาดกว่าพระเจ้า! และโดยการฟังพระเจ้า เราจะเติบโตในสติปัญญา!
ประโยชน์ #2 – คุณจะได้เรียนรู้จากการโทรของคุณ
คุณสามารถรับโทรศัพท์โดยที่ไม่ได้ยินเสียงเรียกเข้าได้จริงหรือ?
พระเจ้ากำลังเรียกคุณอยู่ อันที่จริง
พระองค์ทรงเรียกเราทุกคนให้สร้างอาณาจักรของพระองค์
แต่คุณจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพระองค์ต้องการอะไรจากคุณ ถ้าคุณไม่ฟังพระองค์!
พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านเป็นผู้สัตย์ซื่อ
และพระองค์จะทรงกระทำ
อย่าดับไฟแห่งพระวิญญาณ– 1
เธสะโลนิกา 5:19 (NIV)
ประโยชน์ #3 –
การฟังพระเจ้าป้องกันคุณจากการหลงทาง
หากคุณจดจ่ออยู่กับเสียงของพระเจ้า มันจะง่ายขึ้นที่จะต้องอยู่บนทางตรงและแคบ!
หากคุณคิดถึง ฝันถึง และมีใจที่ปรารถนาถึง โอกาสที่คุณจะได้ยินในวันนี้ก็จะเพิ่มขึ้น!
หลักการเดียวกันนี้ใช้ได้กับการเดินฝ่ายวิญญาณของคุณ หากคุณกำลังคิดถึงพระสุร -เสียงของพระเจ้า
ฝันถึงพระสุรเสียงของพระเจ้า และต้องการได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้า คุณก็มีโอกาสมากขึ้นที่จะสังเกตเห็นพระสุรเสียงของพระเจ้าเมื่อพระองค์ตรัสกับคุณ!
15แต่ท่านทั้งหลายจงบริสุทธิ์ในการทุกอย่างที่ท่านทำเหมือนอย่างที่พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นบริสุทธิ์
16เพราะมีเขียนไว้ว่า “จงบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์” – 1 เปโตร 1:15-16 (NIV)
ประโยชน์ #4 –
การฟังพระเจ้าจะเปลี่ยนคุณ
มันเป็นไปไม่ได้เลยว่า ถ้าคุณพบพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วคุณจะไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะเมื่อคุณเดินอยู่ในที่ประทับของพระองค์ทุกวัน
คุณจะเห็นความแตกต่างของตัวเอง
พระวิญญาณบริสุทธิ์ถูกส่งมาเพื่อนำทางและสั่งสอนเรา คุณจะกลายเป็นคนละคนกันเมื่อคลื่นภายในของคุณปรับตามความถี่ของพระองค์
คุณจะกลายเป็นคนที่พระองค์ทรงสร้างให้คุณเป็น!
“เราสำแดงตนเองแก่บรรดาผู้ที่ไม่ได้เรียกหาเรา
บรรดาผู้ที่ไม่ได้แสวงหาเราก็พบเรา
ชนชาติที่ไม่ได้ร้องเรียกนามของเรา
เราก็กล่าวกับเขาว่า
‘เราอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่นี่” - อิสยาห์ 65:1 (NIV)
การเตรียมใจของคุณให้พร้อมฟังพระเจ้าเป็นวิถีชีวิตที่คุณต้องการพัฒนา! คุณสามารถเพิ่มสิ่งนี้เข้ากับเป้าหมายฝ่ายวิญญาณของคุณได้ วันนี้คุณอาจยังสงสัยว่า ฉันจะฟังพระเจ้าได้อย่างไร? และฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าพระองค์กำลังตรัสกับฉัน มีสิ่งหนึ่งที่เราสามารถรู้ได้อย่างแน่นอนนั่นคือพระองค์ทรงพยายามสื่อสารกับเราอยู่เสมอ!
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
sharinglifeandlove.com
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น