ทำไมความยำเกรงพระเจ้าจึงสำคัญสำหรับเรา

 

ทำไมความยำเกรงพระเจ้าจึงสำคัญสำหรับเรา ในยุคที่ใครๆต่างก็ชอบอุทานคำว่า “OMG”

สำหรับคนจำนวนมาก เมื่อได้ยินคำว่า "ความยำเกรงพระเจ้า" ฟังแล้วอาจดูเหมือนเป็นศัตรูมากกว่าเป็นเพื่อน  แน่นอนว่า “ความยำเกรงพระเจ้า"  เป็นสิ่งที่หลายคนกำลังพยายามหนีจากมัน หรือเป็นสิ่งที่หลายคนกำลังละเลยเพิกเฉยมัน!” ฟังดูเหมือนเป็นความผิดปกติมากกว่าเป็นสัญญาณของการบอกว่าเรามีสุขภาพฝ่ายวิญญาณที่ดี

ในทางกลับกัน พระคัมภีร์ได้นำเสนอและต้องการบอกกับเราเกี่ยวกับเรื่อง "ความยำเกรงพระเจ้า" ในฐานะเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นเพื่อนที่รักเราและจะทำดีกับเราได้อย่างมากมายมหาศาล:

เราจะให้เขาร่วมกายร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวที่จะยำเกรงเราเสมอ เพื่อประโยชน์สุขของเขาเองและของลูกหลานที่สืบต่อมา- (เยเรมีย์ 32:39)

พระเจ้ากำลังตรัสสิ่งนี้กับประชากรของพระองค์ ประชากรในที่นี้หมายความว่า คนที่อยู่ในความสัมพันธ์ในพันธสัญญากับพระองค์ ลองฟังสิ่งที่พระองค์ตรัสต่อไปนี้: “ประชาชนของเราจะยำเกรงเรา หากพวกเขาไม่ยำเกรงเรา มันก็จะหมายถึงปัญหาสำหรับคนรุ่นต่อไป”

พระเจ้าตรัสว่า “สิ่งนี้จะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของเขาเองและลูกหลานของเขา และสิ่งนี้จะเป็นตลอดไป” นั่นหมายความว่าจะไม่มีวันบนแผ่นดินโลกหรือในสวรรค์ที่ผู้คนของพระเจ้าจะไม่ยำเกรงพระองค์ในความอัศจรรย์อันศักดิ์สิทธิ์ และความน่าเกรงขามของพระองค์

อัศจรรย์แห่งความรักของพระเจ้า

แต่เพราะพระองค์ทรงอภัยโทษ พระองค์จึงทรงเป็นที่ยำเกรง - (สดุดี 130:4)

ความยำเกรงพระเจ้าเกิดขึ้นจากความรู้ของเราเกี่ยวกับพระคุณ ความเมตตา ความรัก การให้อภัยที่นำพาผู้ที่ได้รับ ไปสู่การยำเกรงพระเจ้า

เมื่อคุณเห็นความรักของพระเจ้าและค่าจ่ายบนไม้กางเขน  คุณจะพูดว่า “แล้วฉันจะทำบาปตอบแทนต่อความรักที่แสนดีเช่นนี้ต่อไปได้อย่างไร”

การยำเกรงพระเจ้าคือการรักพระองค์ และเพื่อให้พระพิโรธของพระเจ้าจะเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของคุณ และให้รอยยิ้มของพระเจ้าเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขมากที่สุด

คุณเห็นไหมว่าทำไมเยเรมีย์ถึงพูดถึงความยำเกรงพระเจ้า ว่าเป็นสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป? เพราะแม้แต่ในสวรรค์ ประชากรของพระเจ้าจะยังคงยำเกรงพระองค์อยู่เช่นนั้น และถ้าเรารักพระองค์ เราก็จะยำเกรงต่อพระองค์ ดังนั้น บุคคลที่ยำเกรงต่อพระเจ้าคือผู้ที่ได้เห็นพระสิริของพระองค์ การพิพากษาของพระองค์ และความรักมั่นคงของพระองค์

ความรุ่งโรจน์

สวรรค์จะเต็มไปด้วยสง่าราศีของพระองค์ ผู้มีใจบริสุทธิ์จะเห็นพระเจ้า และเมื่อเราทำเช่นนั้น เราจะก้มหน้าลงสวมมงกุฎต่อหน้าพระองค์ด้วยความยำเกรงและนมัสการพระองค์

คำพิพากษา

สวรรค์จะยังคงเป็นสถานที่ที่มีความสุขและศักดิ์สิทธิ์ตลอดไปเพราะการพิพากษาของพระเจ้าต่อคนบาปที่ไม่สำนึกผิดซึ่งจะอยู่ในนรกตลอดไปเช่นกัน

ความรัก

สวรรค์จะเต็มไปด้วยความรู้ถึงความรักของพระองค์ ความรุ่งโรจน์ การพิพากษา และความรัก – เราจะยำเกรงพระองค์ตลอดไป เราจะรักพระองค์ตลอดไป

“เราจะให้เขาร่วมกายร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวที่จะยำเกรงเราเสมอ เพื่อประโยชน์สุขของเขาเองและของลูกหลานที่สืบต่อมา” - (เยเรมีย์ 32:39)

วัฒนธรรม และสังคม ที่ชอบใช้คำว่า  OMG

เราอาศัยอยู่ในสิ่งที่ฉันจะเรียกว่า "สังคม OMG" เรากำลังจมอยู่กับรายการเรียลลิตี้ที่ผู้คนมักเรียกชื่อพระเจ้าเพื่อแสดงความประหลาดใจ ในสถานการณ์ต่างๆของชีวิต

มันทำให้ฉันรู้สึกว่าสังคมของเราขาดความยำเกรงในพระเจ้ามากเพียงใด คุณรู้ไหมว่าชาวยิวนับถือพระเจ้าอย่างไร เขายกพระองค์เป็นความนับถืออย่างสูงจนพวกเขาไม่แม้แต่จะออกพระนามของพระองค์

แต่ในวัฒนธรรมของเราตอนนี้ ผู้คนออกเสียงตัวอักษร G-O-D โดยที่พวกเขาไม่ได้เข้าใจลึกซึ้งถึงความรุ่งโรจน์ การพิพากษา หรือความรักของผู้ที่พวกเขากำลังเอ่ยนามถึงเลย

หากคุณเป็นลูกของพระเจ้า ฉันขอท้าให้คุณแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง: เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณได้รู้จักพระสิริ การพิพากษา และความรักของพระเจ้า ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณเอ่ยพระนามของพระเจ้า หรือพระเยซูคริสต์ คุณต้องเอ่ยพระนามของพระองค์ในทางที่แตกต่างจากวัฒนธรรมหรือสังคมรอบตัวคุณ เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณรู้จักพระองค์ คุณยำเกรงพระองค์ และคุณรักพระองค์

คุณจะทำให้การตัดสินใจของคุณในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของคำพยานในชีวิตคริสตชนหรือไม่? ถ้าใช่ สามหัวข้อต่อไปนี้จะช่วยให้คุณมีความยำเกรงต่อพระเจ้าในชีวิตของคุณได้

1.พระพร

ความสุขมีแก่ผู้ที่ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าเสมอ

แต่ผู้ที่ทำใจแข็งกระด้างจะตกที่นั่งลำบาก - (สุภาษิต 28:14)

ผู้ที่ยำเกรงพระเจ้าจะได้รับพรอย่างไร ประการแรก การยำเกรงพระเจ้าจะให้ปัญญาแก่คุณ (สดุดี 111:10) ประการที่สอง การยำเกรงพระเจ้าจะป้องกันคุณจากบาป (อพยพ 20:20) และประการที่สาม การยำเกรงพระเจ้าจะกระตุ้นคุณในการประกาศ (2 โครินธ์ 5:11)

ความดีทุกชนิดจะหลั่งไหลเข้ามาในชีวิตของผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า

2. พระสัญญา

เราจะใส่ความยำเกรงเราไว้ในใจพวกเขา เพื่อพวกเขาจะได้ไม่หันหนีไปจากเราอีก - (เยเรมีย์ 32:40)

สังเกตสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับประชากรของพระองค์ที่นี่: พระองค์จะใส่ความยำเกรงพระเจ้าไว้ในใจพวกเขา ทำไมละ? คำตอบคือ เพื่อพวกเขาจะได้ไม่ต่อต้านพระองค์อีก

ความหมายที่ชัดเจนคือหากปราศจากความยำเกรงพระเจ้า เชื่อว่าผู้คนอาจหันมาต่อต้านพระเจ้าได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นส่วนหนึ่งของพระสัญญาใหม่ และพระเจ้าสามารถมอบสิ่งนี้ให้กับคุณได้

พระเจ้าตรัสว่า “เราจะใส่ความยำเกรงเราไว้ในใจของพวกเขา” นี่เป็นพระสัญญาที่ยอดเยี่ยม! ถ้าเรายำเกรงพระเจ้ามากขึ้น เราก็จะทำบาปน้อยลง ถ้าเราเข้าใจความเป็นจริงของการพิพากษาของพระองค์มากขึ้น เราก็จะพยายามทำให้ดีมากขึ้นเพื่อความก้าวหน้าของพระกิตติคุณ(ข่าวประเสริฐ) และหากพระเจ้าแบกรับภาระในชีวิตเรามากขึ้น เราก็จะทำการตัดสินใจที่ฉลาดมากขึ้น

3.การอธิษฐาน

ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงสอนวิถีทางของพระองค์แก่ข้าพระองค์

เพื่อข้าพระองค์จะดำเนินในความจริงของพระองค์

ขอทรงประทานจิตใจแน่วแน่

เพื่อข้าพระองค์จะยำเกรงพระนามของพระองค์ - (สดุดี 86:11)

พระเจ้าข้า หัวใจของลูกถูกดึงมาจากทุกทิศทุกทาง เพื่อรวมใจของลูกให้ยำเกรงต่อพระนามพระองค์!

ฝากไว้ให้คิด

ให้ความยำเกรงต่อพระเจ้าในหัวใจของคุณ เกิดจากพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์ , ความจริงของการพิพากษาของพระองค์ และความมหัศจรรย์ของความรักของพระองค์ ขอให้ทั้งสามความจริงนี้ดำรงอยู่ในหัวใจของเราตลอดไป!

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Openthebible

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่  kattcrewslovegod.blogspot