วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565

พระเจ้าเป็นความสว่างหมายความว่าอย่างไร?

 


พระเจ้าเป็นความสว่างหมายความว่าอย่างไร?

1 ยอห์น 1:5 กล่าวว่า "พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง" ความสว่างเป็นคำเปรียบเทียบทั่วไปในพระคัมภีร์ สุภาษิต 4:8 ให้สัญลักษณ์ของความชอบธรรมว่าเป็น "แสงอรุณ" ฟิลิปปี 2:15 ลูกๆ ของพระเจ้าที่ "ไม่ถูกติเตียน และไม่มีความผิด" เหมือนกับดวงดาวที่ส่องสว่างบนท้องฟ้า พระเยซูใช้ความสว่างเป็นภาพของงานที่ดีคือ "ท่านทั้งหลายก็เหมือนกับตะเกียง จงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาได้เห็นความดีที่ท่านทำ เขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่าน ผู้ทรงอยู่ในสวรรค์" (มัทธิว 5:16) สดุดี 76:4 กล่าวถึงพระเจ้าว่า "พระองค์ทรงรุ่งโรจน์"

 

ความจริงที่ว่าพระเจ้าเป็นความสว่างทำให้เกิดธรรมชาติของความตรงกันข้ามกับความมืด ถ้าความสว่างเปรียบเหมือนความชอบธรรมและความดี แล้วความมืดแสดงออกถึงความชั่วร้ายและความบาป 1 ยอห์น 1:6 กล่าวว่า "ถ้าเราจะว่าเราร่วมสามัคคีธรรมกับพระองค์และยังดำเนินอยู่ในความมืด เราก็พูดมุสา และไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริง" ข้อ 5 กล่าวว่า "พระเจ้าทรงเป็นความสว่าง และความมืดในพระองค์ไม่มีเลย" สังเกตว่าเราไม่ได้ถูกบอกว่าพระเจ้าเป็นแสงสว่างดวงหนึ่งแต่พระองค์เป็นความสว่าง ความสว่างเป็นส่วนสำคัญของพระองค์เหมือนกับความรัก (1 ยอห์น 4:8) ข้อความนั้นก็คือพระเจ้านั้นสมบูรณ์พร้อม ปราศจากข้อสงสัย บริสุทธิ์อย่างแน่นอน โดยไม่มีการผสมผสานของความบาป ไม่มีมลทินแห่งความชั่วร้ายและไม่มีการเปรยถึงความไม่ยุติธรรม

 

ถ้าเราไม่มีความสว่างเราก็ไม่รู้จักพระเจ้า ผู้ที่รู้จักพระเจ้า ผู้ที่เดินกับพระองค์เป็นของความสว่างและเดินในความสว่าง พวกเขาถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในธรรมชาติของพระเจ้า "จะพ้นจากความเสื่อมโทรม ที่มีอยู่ในโลกนี้เพราะตัณหาชั่ว"  (2 เปโตร 1:4)

 

พระเจ้าเป็นความสว่างและพระบุตรของพระองค์ก็เป็นความสว่างเช่นเดียวกัน พระเยซูกล่าวว่า "เราเป็นความสว่างของโลก ผู้ที่ตามเรามาจะไม่เดินในความมืด แต่จะมีความสว่างแห่งชีวิต" (ยอห์น 8:12) การ "เดิน" คือการก้าวหน้าต่อไป ฉะนั้นเราสามารถที่จะสรุปจากข้อนี้ได้ว่าคริสเตียนถูกสร้างมาเพื่อให้เติบโตในความบริสุทธิ์และเพื่อที่จะเติบโตอย่างเต็มที่ในความเชื่อในขณะที่เขาติมตามพระเยซู (ดู 2 เปโตร 3:18)

 

พระเจ้าเป็นความสว่างและเป็นแผนการของพระองค์ที่ผู้เชื่อจะฉายแสงของพระองค์ต่อๆ ไป เป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นทุกๆ วัน "ท่านเป็นบุตรของความสว่าง และเป็นบุตรของกลางวัน เราทั้งหลายไม่ได้เป็นของกลางคืนหรือของความมืด" (1 เธสะโลนิกา 5:5) พระเจ้าเป็นผู้สร้างแสงสว่างที่แท้จริงเช่นเดียวกับการเป็นผู้ให้แสงสว่างฝ่ายวิญญาณเพื่อให้เราสามารถมองเห็นความจริงได้ แสงสว่างเปิดเผยสิ่งที่อยู่ในความมืด เป็นการแสดงว่าสิ่งนั้นจริงๆ แล้วคืออะไร การที่จะเดินในแสงสว่างหมายความว่าการรู้จักพระเจ้า เข้าใจความจริงและดำเนินชีวิตด้วยความชอบธรรม

 

ผู้ที่เชื่อในพระคริสต์ต้องสารภาพไม่ว่าจะเป็นความมืดใดๆ ภายในพวกเขาก็คือความบาปและการผิดจารีตแล้วอนุญาตให้พระเจ้าฉายแสงของพระองค์ผ่านพวกเขา

 

คริสเตียนไม่สามารถที่จะนั่งอยู่อย่างเกียจคร้านและดูผู้อื่นดำเนินต่อไปในความมืดแห่งบาป โดยที่รู้ว่าผู้ที่อยู่ในความมืดจะมีจุดหมายปลายทางคือการแยกจากพระเจ้าชั่วนิรันดร์ ความสว่างของโลกมีความปรารถนาที่จะขับไล่ความมืดและทำให้สติปัญญาของพระองค์ขยายออกไปทั่ว (อิสยาห์ 9:2, ฮาบากุก 2:14, ยอห์น 1:9) ในการนำแสงสว่างของข่าวประเสริฐเข้าไปในโลกเราต้องเปิดเผยสิ่งที่จำเป็นเกี่ยวกับผู้คนเพื่อให้พวกเขาออกจากที่ๆ พวกเขาซ่อนอยู่ ความสว่างนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สะดวกสบายสำหรับผู้ที่เคยชินกับความมืด (ยอห์น 3:20)

 

พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้าที่ไม่มีบาป เป็น "ความสว่างแท้" (ยอห์น 1:9) ในฐานะที่เราเป็นลูกของพระเจ้า เราต้องสะท้อนความสว่างของพระองค์เข้าไปยังโลกที่ถูกทำให้มืดด้วยด้วยความบาป เป้าหมายของเราในการเป็นพยานแก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับความรอดคือ "เพื่อเปิดตาของพวกเขาและหันพวกเขาจากความมืดมาสู่ความสว่างและจากอำนาจของซาตานมาหาพระเจ้า เพื่อพวกเขาจะได้รับการอภัยโทษบาปและได้อยู่ในหมู่ผู้ที่ได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยความเชื่อในเรา’" (กิจการ 26:18)

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Gotquestions

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...