วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เลือกใช้คำพูดอย่างชาญฉลาด

 


เลือกใช้คำพูดของคุณอย่างชาญฉลาด

อ่านสุภาษิต 16:16-33

16ได้สติปัญญาดีกว่าได้ทองคำ

ได้ความเข้าใจดีกว่าได้เงิน!

17ทางหลวงของคนเที่ยงธรรมหลีกห่างจากความชั่ว

ผู้ที่ระแวดระวังทางของตนก็ถนอมชีวิตของตน

18ความยโสโอหังจะทำให้พินาศ

และใจหยิ่งผยองจะทำให้ล้มคว่ำ

19มีใจถ่อมอยู่ในหมู่คนแร้นแค้น

ดีกว่าแบ่งของที่ริบมาได้กับคนเย่อหยิ่ง

20ผู้ที่ใส่ใจในคำสั่งสอนจะเจริญ

ผู้ที่วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับพร

21คนจิตใจฉลาดได้ชื่อว่า “สุขุมมองการณ์ไกล”

และคำพูดที่อ่อนหวานเพิ่มความน่าเชื่อถือ

22ความสุขุมรอบคอบเป็นน้ำพุแห่งชีวิตสำหรับผู้เป็นเจ้าของ

แต่ความโง่เขลานำโทษทัณฑ์มาให้คนโง่

23ใจของคนฉลาดทำให้เขาระวังปาก

และริมฝีปากของเขาส่งเสริมการสั่งสอน

24วาจาอ่อนโยนเปรียบเหมือนน้ำผึ้ง

หวานชื่นแก่จิตวิญญาณและเป็นยารักษาชีวิต

25มีทางหนึ่งซึ่งคนเราคิดว่าถูกต้อง

แต่จุดจบของทางเหล่านี้คือความตาย

26ความอยากของคนงานทำให้เขาทำงาน

แน่นอน ปากท้องจะผลักดันให้เขาทำต่อไป

27คนอันธพาลเตรียมการชั่ว

และวาจาของเขาเหมือนไฟแผดเผา

28คนปลิ้นปล้อนยั่วยุการวิวาท

คนยุแยงตะแคงรั่วทำให้เพื่อนสนิทแตกคอกัน

29คนโหดเหี้ยมล่อลวงเพื่อนบ้าน

และนำเขาไปในทางที่ไม่ดี

30ผู้ที่ขยิบตากำลังคิดแผน

เขาปิดปากเงียบขณะวางแผนร้าย

31ผมหงอกเป็นมงกุฎแห่งศักดิ์ศรี

ได้มาโดยชีวิตอันชอบธรรม

32เป็นคนอดทนก็ดีกว่าเป็นวีรบุรุษสงคราม

คนที่ควบคุมใจของตนก็ดีกว่าคนที่ตีเมืองได้

33เขาโยนสลากเสี่ยงทายลงบนตัก

แต่ผลชี้ขาดมาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

ที่โรงเรียนเราอาจจะเห็นเด็กๆ พูดจาหยาบคายใส่กัน ล้อเลียนกัน หรือที่เรียกกันว่า บูลลี่ (Bully) คือ การกลั่นแกล้ง แซวแรง ให้ร้าย ยั่วยุ เยาะเย้ย นินทา ทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดทางกายและใจ และอื่นๆที่เป็นการกระทำไม่ดีให้อีกฝ่ายกระทบกระเทือนจิตใจ

เชื่อว่ามีเพียงพวกเราไม่กี่คนที่เดินออกมาจากโรงเรียนแล้วไม่รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่เด็กคนอื่นพูดๆไม่ดีกับเรา บ่อยครั้งในวัยเด็ก เราถูกสอนไม่ให้ตอบโต้ด้วยวาจาโดยมีคำสอนที่ว่า “ไม้และก้อนหินอาจทำให้กระดูกเราหักได้ แต่คำพูดของคนไม่เคยทำให้เราเจ็บ” แน่นอนว่าคำโบราณนั้นไม่เป็นความจริง เพราะคำพูดของคนเรามันทำร้ายกันได้อย่างลึกซึ้งและเจ็บปวดยิ่งนัก ถึงมันไม่ได้ทิ้งรอยแผลทางร่างกายแต่มันทิ้งรอยแผลทางจิตใจไว้ให้กับใครหลายๆคน

คุณอาจจะจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อนเคยมีคนพูดไม่ดีกับคุณ อาจเป็นคำพูดที่รุนแรงไม่ว่าจะจากคนในครอบครัว จากพ่อแม่ ครู หรือเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนที่ทำงาน และคำพูดเหล่านั้นมันยังอยู่ในความทรงจำของคุณมาจนถึงปัจจุบันทั้งที่มันผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว และนั่นคือเหตุผลที่ว่า คนฉลาดเขาจะเลือกใช้คำพูดอย่างระมัดระวัง เมื่อตัวเราเองยังไม่ชอบให้คนอื่นพูดจาไม่ดีกับเรา เราเองก็ต้องฉลาดในการเลือกใช้คำพูดมากขึ้นเช่นกัน เพื่อว่าเราจะได้ไม่เผลอพูดในสิ่งที่อาจทำให้คนอื่นเจ็บปวดใจได้

โซโลมอนเขียนว่า 23ใจของคนฉลาดทำให้เขาระวังปาก และริมฝีปากของเขาส่งเสริมการสั่งสอน (สุภาษิต 16:23) ซึ่งหมายความว่าพวกเขาใช้วิจารณญาณในการพูด ด้วยเหตุนี้ คำพูดของพวกเขาจึงช่วยส่งเสริมกำลังมากกว่าทำร้ายจิตใจ และการฟังบุคคลเช่นนี้พูดจะช่วยกระตุ้นให้เราเรียนรู้และน้อมรับสิ่งที่กล่าวไว้นี้ แต่คนโง่มักไม่นึกถึงสิ่งที่พวกเขากำลังพูด และคำพูดของพวกเขาก็ก่อให้เกิดความเสียหาย ในทางกลับกัน โซโลมอนเขียนว่า:

วาจาอ่อนโยนเปรียบเหมือนน้ำผึ้ง  หวานชื่นแก่จิตวิญญาณและเป็นยารักษาชีวิต — สุภาษิต 16:24

เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่รู้ว่าคำพูดของเรามีศักยภาพในการเยียวยา ในโลกยุคโบราณ น้ำผึ้งเป็นสารที่หอมหวานที่สุด และโซโลมอนก็ตั้งใจใช้มันกับจินตภาพของเขา

คำพูดที่อ่อนโยนไม่เพียงแต่ไพเราะต่อจิตวิญญาณเท่านั้น แต่ยังมีศักยภาพที่จะมีผลการรักษาต่อร่างกายอีกด้วย พวกเราส่วนใหญ่คาดหวังว่ายาดีๆก็ต้องมีรสขมเสมอและหากมีรสหวานจะเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ แต่คำพูดที่ใจดีมีเมตตานั้นทั้งหวานและดีต่อสุขภาพ  อัครสาวกเปาโลเสนอคำแนะนำแก่คริสตจักรที่เมืองเอเฟซัสว่าเขาควรจะพูดอย่างไรกับสาวกของพระคริสต์:

อย่าให้คำพูดที่ไม่เหมาะสมออกมาจากปากของคุณ แต่ให้พูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ในการสร้างผู้อื่นตามความต้องการของพวกเขาเท่านั้น และที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ฟัง — เอเฟซัส 4:29

เป็นเรื่องง่ายที่เราจะลืมผลกระทบที่ว่าคำพูดของเรามีผลต่อผู้อื่น คำพูดของเรามีศักยภาพที่จะช่วยเหลือหรือทำร้ายคนก็ได้  ทำให้พิการหรือเยียวยารักษาก็ได้ เราต้องการสติปัญญาในการเลือกคำพูดของเราอย่างชาญฉลาด

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอขอบพระคุณสำหรับสิทธิพิเศษที่ลูกสามารถอธิษฐานพูดคุยกับพระองค์ได้ในทุกๆวัน ขอพระองค์โปรดทรงตีสอนลูกอย่างรวดเร็วเมื่อลูกเผลอใช้คำพูดทำร้าย หรือเผลอใช้คำพูดที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น  โปรดช่วยให้ลูกพูดแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ได้ยิน ลูกตั้งใจและอยากจะพูดแต่ถ้อยคำที่ดีมีเมตตากรุณาและเสริมสร้างกำลังให้แก่คนอื่นในทุกๆวันของลูก ลูกขออธิษฐานในพระนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ไตร่ตรอง

คุณเคยเจอคนใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ คำพูดที่ไม่ถนอมน้ำใจคุณ บ้างหรือไม่? ประสบการณ์เหล่านั้นมีอิทธิพลต่อคำพูดของตัวคุณเองอย่างไรบ้าง? วันนี้จะมีใครได้ประโยชน์จากคำพูดที่ดี(คำพูดที่เสริมกำลังใจ หนุนใจ)ของคุณบ้าง? คุณจะใช้คำพูดของคุณเพื่อเยียวยาคนที่กำลังเจ็บปวดใจได้อย่างไรบ้าง?

 ถึงเวลาของคุณแล้ว : คนฉลาดมักเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง เป็นธรรมชาติที่เราทุกคนจะรู้สึกหงุดหงิดและเกิดอารมณ์ได้ พอใช้อารมณ์นำมันก็ทำให้ต่างคนต่างมีคำพูดที่ไม่ดีเหวี่ยงใส่กันได้อย่างง่ายดาย แต่ในฐานะผู้เชื่อที่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในตัวเรา เราก็มีสติปัญญาของพระองค์อยู่กับเราด้วยเช่นกัน เราจึงสามารถใช้คำพูดของเราเพื่อเยียวยารักษากัน เพื่อเสริมใจกัน แทนที่จะสร้างรอยแผลและความเจ็บปวดในใจให้กับคนอื่น

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Faithgateway

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่  kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...