ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้าพระผู้สร้าง
เขียนโดย ศูนย์คำสอนราชบุรี
1. เราสามารถรู้จักพระเจ้าได้ด้วยสติปัญญาของเราเองโดยสังเกตจากสิ่งต่างๆในโลกจักรวาล
ซึ่งมีอยู่มากมายและลึกลับซับซ้อนเกินที่มนุษย์คนไหนจะสามารถทำหรือสร้างมันขึ้นมาได้
ทั้งนี้รวมทั้งตัวมนุษย์เองด้วย มนุษย์สามารถสร้างเครื่องยนต์กลไก
หรือสร้างหุ่นยนตร์มนุษย์ขึ้นมา แต่มนุษย์ไม่สามารถสร้างมนุษย์จริงๆ ขึ้นมาได้
ผู้ที่สร้างได้นั้นต้องสูงและเลิศกว่ามนุษย์มากนัก และผู้นั้นคือพระเจ้า
2.
เรายังสามารถรู้จักพระเจ้าได้จากหลายหนทางด้วยกัน
แต่ที่สำคัญคือการเผยแสดงของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์เราโดยผ่านทางพระคัมภีร์ไบเบิ้ลซึ่งเป็นหนังสือศักดิ์สิทธิ์ที่บันทึกเรื่องราวของพระเป็นเจ้าผู้ทรงสร้างโลกจักรวาล สัตว์ ต้นไม้ และมนุษย์ พระคัมภีร์เล่าว่า
“ในปฐมกาลพระเจ้าทรงสร้างฟ้าและแผ่นดิน” ( ปฐมกาล 1, - 2,3 )
ให้เราฟังพระวาจาของพระเจ้า(ครูอาจจะอ่านหรือเล่าประกอบรูปภาพก็ได้)
การทรงสร้าง
วันที่ 1
พระองค์ทรงสร้างความสว่าง ทรงแยกความสว่างจากความมืด ทรงเรียกความสว่างว่า
“ วัน “ และทรงเรียกความมืดว่า “ คืน “
วันที่ 2
พระองค์ทรงแยกน้ำเบื้องบนกับน้ำเบื้องล่างออกจากกัน
โดยทรงสร้างพื้นอากาศมาคั่นกลาง ทรงเรียกพื้นอากาศนั้นว่า “ ฟ้า “
วันที่ 3 พระองค์ทรงรวมน้ำเบื้องล่างมาไว้ในที่แห่งเดียวเรียกว่า
“ ทะเล “ ให้มีที่แห้งเกิดขึ้นเรียกว่า “ แผ่นดิน “
และทรงให้มีต้นไม้นานาพันธุ์เกิดขึ้นบนแผ่นดินนั้น
วันที่ 4 พระองค์ทรงสร้างดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
และดาวต่างๆบนฟ้า
วันที่ 5 พระองค์ทรงสร้างปลาในทะเล และนกในพื้นอากาศ
วันที่ 6 พระองค์ทรงสร้างสัตว์ต่างๆ บนแผ่นดิน
และสุดท้ายทรงสร้างมนุษย์ให้เป็นเจ้าปกครองดูแลสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ทรงสร้างขึ้นมา
วันที่ 7
พระองค์ทรงเสร็จสิ้นงานสร้างสิ่งต่างๆ จึงทรงหยุดงานทุกอย่าง และทรงกำหนดให้วันที่
7 นี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์
3. พระคัมภีร์ไม่ใช่หนังสือภูมิศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์
แต่เป็นหนังสือสำหรับสอนความจริงเกี่ยวกับพระเจ้า
โดยอาศัยภูมิปัญญาความรู้
ความเข้าใจของคนในยุคนั้น ซึ่งแตกต่างจากคนในยุคของเรา แต่ความจริงก็ยังคงเป็นความจริงเดียวกันที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือ
“มีพระเจ้าแท้แต่องค์เดียว คือพระผู้สร้างสรรพสิ่ง ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
สิ่งต่างๆ ในธรรมชาติ ไม่ใช่พระเจ้า
พระเจ้าทรงเป็นอยู่ก่อนสิ่งใดๆทั้งหมด และพระองค์คือพระเจ้าสูงสุด”
เราจึงต้องนมัสการพระเจ้าสูงสุดแต่องค์เดียวเท่านั้น
4. พระเจ้าทรงสร้างสรรพสิ่งโดยตรัสแต่เพียงคำเดียว
และสรรพสิ่งก็เกิดขึ้นมา
มนุษย์เราจะสร้างสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ต้องอาศัยวัตถุปัจจัยต่างๆ
แต่พระเจ้าไม่ได้ทรงใช้สิ่งใดเลย แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงฤทธิ์ทุกประการ
ไม่มีสิ่งใดมีฤทธิ์เท่าพระองค์ ในบทภาวนา “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้า”
จึงกล่าวสรรเสริญพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเจ้า
พระบิดาทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดิน” เพื่อสอนเราว่า
ต่อหน้าพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพนี้
เราต้องเคารพและนอบน้อมเชื่อฟังพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด
5. ความเชื่อถึงพระเจ้าเที่ยงแท้แต่พระองค์เดียว
ทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดินนี้เป็นหลักเบื้องต้นและสำคัญที่สุดในคริสตศาสนาและในชีวิตคริสตชนของเรา
ความเชื่อถึงสิ่งอื่น ๆ ทั้งหมดล้วนมีพื้นฐานอยู่บนความเชื่อถึงพระเจ้านี้ทั้งสิ้น
และเมื่อเราเชื่อถึงพระเจ้าแล้ว
ความเชื่อนี้จะส่งผลถึงชีวิตของเรามนุษย์ดังต่อไปนี้
ก. เราจะยึดพระเจ้าเป็นหลักในชีวิต ซึ่งจะมั่นคงปลอดภัยและถูกต้องเที่ยงธรรมเสมอ
ผิดจากพระองค์ไปก็จะมีแต่ความปรวนแปรเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน
หาความถูกต้องเสมอไปมิได้
ข. เราจะสำนึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่พระองค์ทรงมีต่อเรา คือทุกสิ่งที่เรามีล้วนมาจากพระองค์
เราก็จะเฝ้าขอบพระคุณพระองค์อยู่มิรู้วาย
และชีวิตคริสตชนก็คือการดำรงชีวิตแต่ละวันขอบพระคุณพระเจ้านี้เอง
ค. เราจะรักและเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะทุกคนล้วนถูกสร้างมาจากพระเจ้า
และตามพระฉายาของพระองค์ด้วย
ง. เราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสิ่งสร้างทั้งหลาย คือ สัตว์
ต้นไม้ ดิน ฟ้า อากาศ น้ำ ฯลฯ จะอยู่กันอย่างสันติและถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน เพราะพระองค์ทรงสร้างมนุษย์มาให้เป็นผู้ปกครองดูแลสรรพสิ่ง
มิใช่ให้มาทำลาย
ข้อควรจำ
1. สรรพสิ่งเกิดขึ้นเองไม่ได้ จำต้องมีผู้สร้างขึ้นมา และผู้สร้างสรรพสิ่งคือพระเจ้า
2. มนุษย์เป็นสุดยอดแห่งกิจการสร้างสรรค์ของพระเจ้า
3. มีพระเจ้าเที่ยงแท้แต่เพียงองค์เดียว ทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดิน
ทรงเป็นอยู่ก่อนสิ่งอื่นใด และทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด
4. เรารู้จักและเข้าใกล้ชิดพระเจ้าได้โดยอาศัยการอ่านพระคัมภีร์และการอธิษฐาน
5. พื้นฐานของการเป็นคริสตชนคือความเชื่อถึงพระเจ้า
ซึ่งแสดงออกด้วยการนมัสการพระองค์ ขอบพระคุณพระองค์
เคารพพระองค์ในเพื่อนมนุษย์และในสิ่งสร้างทั้งหลาย
6. ผลของความเชื่อ คือ เราจะยึดพระเจ้าเป็นหลักในการดำเนินชีวิต
เราจะสำนึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา
เราจะรักและเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสิ่งสร้างทั้งหลาย และอยู่กันอย่างสันติ
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
Kamsondeedee
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น