ชีวิตในแต่ละวันมันช่างวุ่นวายและง่ายต่อการแยกตัวเราเองออกจากสังคมและหมกมุ่นไปยังสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองเท่านั้น
ฉันเองก็เคยผิดพลาดในเรื่องนี้ เพราะฉันเองก็เคยลืมที่จะทำตัวเป็นพรแก่ผู้อื่น นั่นเป็นเพราะฉันเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับสถานการณ์ในชีวิตของตัวฉันเองเท่านั้น
ฉันต้องเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าฉันต้องออกจาก "ฟองสบู่" ของตัวเองนี้ให้ได้ ฉันต้องเลิกคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองได้แล้ว
ทุกคนต่างก็ต้องเคยเจอกับปัญหาในชีวิต ไม่มีทางที่เราจะหลีกเลี่ยงมันได้
ข้อพระคัมภีร์เกี่ยวกับการเป็นพรแก่ผู้อื่นช่วยแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเราต้องแบ่งปันความรักของพระคริสต์ให้แก่กันและกัน
ชีวิตของเรารายล้อมไปด้วยผู้คนมากมายและในทุกวันเราสามารถเป็นพรให้กันและกันได้
หากคุณยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้บ้าง ผ่านการอธิษฐานคุณก็สามารถเป็นพรแก่ผู้อื่นได้แล้วเช่นกัน (วันนี้คุณอธิษฐานเผื่อใครบ้างแล้วหรือยัง)
การรู้จักความรักของพระคริสต์เป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์ และการเป็นพรแก่ผู้อื่นก็เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้แบ่งปันความรักของพระเจ้าต่อเพื่อนมนุษย์
ดังนั้น การได้รับรู้ว่า”การได้รับความรักแบบไม่มีเงื่อนไขจากพระเจ้านั้นมันรู้สึกดีมากแค่ไหน ” เมื่อเรารับรู้ถึงความรักของพระองค์ มันก็จะช่วยส่งเสริมให้เราสามารถแบ่งปันและส่งต่อความรักนั้นออกไปสู่ผู้อื่นได้ดี
ความรักของพระผู้เป็นเจ้าเป็นแบบอย่างที่ดีพร้อม วันนี้ให้เราเริ่มเรียนรู้ที่จะรักและเป็นพรแก่ผู้อื่น
พระพรคืออะไร?
เรามักจะได้ยินคำว่าพระพรเมื่อเราพูดถึงพระเจ้า ใช่แล้ว
เราทุกคนต้องการพรจากพระเจ้า เราต้องการความโปรดปรานและการปกป้องจากพระองค์
ในฐานะคริสตชน เราถูกเรียกให้แบ่งปันความรักของพระเจ้าให้กับคนทั้งโลก
นั่นคือที่มาของพระพร คุณจะเป็นพรได้แน่นอนถ้าคุณเลือกที่จะให้พรผู้อื่น
วิธีเป็นพรแก่ผู้อื่น
การเป็นพรให้แก่ผู้อื่นอาจเป็นเรื่องง่ายสำหรับพวกเราบางคน เพราะถ้าเราสามารถออกจากความต้องการของตัวเองได้และคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง
เราก็จะเป็นพรได้อย่างแน่นอน
พระคัมภีร์สอนว่าพระเยซูต้องมาเป็นที่หนึ่งเสมอ
และเราควรรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง นั่นหมายความว่าคนอื่นควรมาก่อนเรา นี่คืออักษรย่อที่ฉันชื่นชอบและต้องจำให้ขึ้นใจ
J – พระเยซู
O –คนอื่นๆ
Y – ตัวคุณเอง
คุณเป็นพรเมื่อคุณมองดูความต้องการของผู้อื่น จงอธิษฐานในวันนี้และขอให้พระเจ้าทำงานผ่านคุณเพื่อที่คุณจะได้เป็นพรเพื่อพระสิริของพระองค์
พระเจ้าจะจัดเตรียมมันให้กับคุณ คุณแค่ต้องทูลถามพระองค์ และมีศรัทธาว่าพระองค์จะทรงใช้คุณ
วิธีที่จะช่วยให้เราเป็นพรแก่ผู้อื่น
1. การอธิษฐานเผื่อผู้อื่น
การอธิษฐานเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถทำได้ การอธิษฐานทำให้เราได้รับการปกป้องในแต่ละวันที่เราต้องการ การอธิษฐานเผื่อผู้อื่นก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน เป็นเรื่องง่ายที่เราจะเห็นแก่ตัวและสวดอ้อนวอนแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น หากการอธิษฐานเป็นพรในชีวิตของเรา คุณลองนึกภาพสิว่าคุณจะให้พรผู้อื่นได้มากมายเพียงใดผ่านการอธิษฐาน เพื่อขอพรให้พวกเขา วันนี้คุณคิดถึงใครในคำภาวนาบ้างหรือยัง?
ฉันเป็นหนึ่งในคนที่ชื่นชอบการอธิษฐานเพื่อผู้อื่น แต่ฉันก็มักจะลืมสิ่งที่ต้องอธิษฐานหลังจากที่การสนทนานั้นจบลง
ฉันจึงตัดสินใจตั้งแต่นั้นว่าฉันจะต้องอธิษฐานเผื่อบุคคลนั้นทันทีเพื่อไม่ให้ลืมมันอีก
แต่ถ้าฉันลืมจริงๆ ฉันก็เชื่อว่าพระเจ้าของเรารู้ทุกอย่างและรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร ก่อนที่ฉันจะพูดมันออกมาเสียอีก ฉันเชื่อว่าพระองค์ทรงรับรู้ความตั้งใจจริงของฉัน แต่จะให้ดี เราควรรีบอธิษฐานทันที อย่ารอเพราะอาจจะลืมได้
2. การตอบสนองความต้องการ
เราทุกคนต่างก็มีความต้องการมากมายในตนเอง มันเลยยากมากที่เราจะหันไปสนใจในความต้องการของคนอื่น
อย่างไรก็ตาม ยังมีคนที่เหงาและโดยเดี่ยวอยู่รอบกายคุณ บางครั้งมันก็ง่ายที่จะมองเห็นเขาเหล่านั้น
วันนี้ลองมองไปรอบๆสิว่า มีใครกำลังต้องการให้เราช่วยอะไรอยู่หรือเปล่า?
เพื่อให้เราตอบสนองความต้องการได้ดี เราต้องรู้จักฟัง
บางครั้งเราสามารถตอบสนองความต้องการของคนอื่นได้เพียงแค่เราสละเวลาของเราเพื่อรับฟังพวกเขาระบายมันออกมา การฟังก็เป็นการปลอบใจได้ดีอย่างหนึ่ง
3. การเป็นกำลังใจ
กำลังใจเป็นคำปลอบโยนที่ดีอย่างหนึ่งที่เรามอบให้กันได้ เพราะมนุษย์เราสามารถท้อแท้ได้ในทุกวันและมันสามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
ยกตัวอย่าง ฉันท้อแท้เมื่อฉันทำโฮมสคูลกับลูกๆ (อาจจะเป็นการเรียนออนไลน์ หรือการจัดหลักสูตรแบบเรียนที่บ้านให้กับลูกๆ) แต่สามีของฉันทำให้ฉันมีกำลังใจมากขึ้น (สำหรับฉันแล้วสิ่งที่สามีแสดงออกมา มันช่างเป็นพระพรที่ดีอะไรเช่นนี้) ดังนั้น ความเข้าใจ ความเห็นอกเห็นใจกัน แม้จะดูเล็กน้อยแต่มันก็เป็นกำลังใจและเป็นยาดีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว การเป็นพรแก่ผู้อื่นด้วยการให้กำลังใจจึงไม่ใช่เรื่องยาก
4. การมีน้ำใจ หรือเอาใจเขามาใจเรา
ฉันชอบความคิดที่ว่า “เราจะรู้ว่ามีใครกำลังคิดถึงเราได้ โดยเราสามารถเห็นได้จากการกระทำของเขา”
แต่การจมอยู่กับ "ฟองสบู่"
ของตัวเองอยู่บ่อยๆมันก็ทำให้ฉันลืมคิดถึงคนรอบข้างไปได้เช่นกัน
ฉันต้องตั้งใจให้มากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณสามารถแสดงออกถึงการเอาใจใส่ได้โดยการหยิบโทรศัพท์และโทรหาใครสักคน
ถามไถ่ทุกข์-สุข หรือเวลาที่คุณหยิบของสักชิ้นขึ้นมาดู แล้วทำให้คุณนึกถึงใครบางคน
ก็อย่าลืมคิดถึงเขาในคำภาวนาบ้างนะ
ยกตัวอย่าง อยู่มาวันหนึ่งฉันรู้ว่าเพื่อนของฉันกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ฉันจึงโทรไปสั่งซื้อดอกไม้ที่ร้านเพื่อส่งไปให้เธอที่บ้าน
วิธีที่จะเป็นพรอีกอย่างที่เราสามารถทำได้ทุกวันเช่นกัน คือการบอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณกำลังคิดถึงพวกเขา
ผ่านการแบ่งปันข้อพระคัมภีร์เพื่อหนุนใจ หรือเพื่อให้กำลังใจกับใครสักคนเพื่อให้เขามีกำลังใจสู้ต่อ
เพื่อให้เขารู้ว่า พระเจ้ารักเขาเช่นกัน
5. การพูดจาดี ๆ
เวลาที่ฉันอารมณ์ไม่ดี ฉันก็กลายเป็นคนที่หยาบคายได้ง่ายๆเหมือนกัน
พฤติกรรมของฉันในช่วงเวลานั้นสามารถสร้างบรรยากาศแย่ๆในบ้านได้ดีจริงๆ พระคำของพระเจ้าได้ช่วยเตือนเราว่า
คำพูดที่ไพเราะจะทำให้จิตใจเบิกบาน
การเรียนรู้ที่จะพูดแต่ถ้อยคำที่มีเมตตากรุณาจึงเป็นคำอธิษฐานที่ยาวนานสำหรับฉัน
ฉันไม่ได้เน้นแค่ภาษาที่หยาบคายเท่านั้นนะ แต่ฉันกำลังพูดถึงว่าเมื่อคนเรารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเราก็มักจะพูดอะไรที่มันไม่เหมาะสมออกมาเสมอเช่นกัน ดังนั้นการคิดก่อนพูดจึงสำคัญ หากคิดดีไม่ได้เราก็ไม่จำเป็นต้องพูด หรือเราไม่ต้องพูดทุกอย่างที่คิดออกมาก็ได้ ถ้าเรารู้ตัวว่าเรากำลังโมโห หงุดหงิดอยู่ เงียบๆไว้จะดีที่สุด
การให้พรผู้อื่นด้วยคำพูดที่กรุณาจะทำให้วันนั้นของพวกเขาดีขึ้นได้
หากคุณคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร ก็ชมเชยพวกเขาไป ชื่นชมเรื่องความสวยความงามก็ได้ หยิบยกในสิ่งดีขึ้นมาพูด หรือชมเชยว่าพวกเขาทำได้ดีมากแล้วในวันนี้
จากนั้นให้เราอธิษฐานเพื่อว่าพระเจ้าจะทรงประทานโอกาสและถ้อยคำที่ดีแก่เราเพื่อให้เราสามารถพูดจาแบบที่มีเมตตากับผู้อื่นได้ง่าย และเป็นนิสัย
6. การให้เวลาของคุณ
ชีวิตแต่ละวันมันช่างวุ่นวาย ลองสังเกตดู
เวลาคุณกำลังสนทนากับใครสักคน แล้วพวกเขาชอบพูดว่าพวกเขากำลังยุ่งอยู่ที่ใดที่หนึ่งในขณะที่สนทนากับคุณ
หากคุณสังเกตเห็นว่าคนที่คุณกำลังคุยด้วยไม่ว่างหรือพวกเขาบอกว่ากำลังยุ่งอยู่
คุณก็ควรถามพวกเขาไปเลยว่ามีอะไรที่คุณพอจะช่วยเหลือเขาได้บ้างไหม
หากเป็นเพื่อนบ้าน หรือเพื่อนสนิท คุณอาจช่วยดูแลลูก ๆ ของพวกเขาในขณะที่พวกเขาออกไปทำธุระที่ร้านขายของชำหรือเวลาที่เขาออกไปทำธุระอื่นๆนอกบ้านได้ แสดงตัวช่วยเหลือในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ตามความสามารถของคุณ
7. การอวยพรคนที่มีงบจำกัด
การมีงบประมาณจำกัดเป็นเรื่องที่หนักมากสำหรับใครหลายๆคน แม้ว่าการวางแผนงบประมาณให้ดีเป็นสิ่งสำคัญ
แต่การพยายามที่จะทำให้มันสำเร็จก็เป็นเรื่องที่ยากกว่า แต่คุณก็สามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อเป็นพรแก่ผู้อื่นได้ในสถานการณ์แบบนี้
คุณสามารถเอาเงินใส่ซองเพื่อมอบให้พวกเขา แต่คุณก็ต้องใช้ดุลยพินิจของคุณเองในเรื่องนี้
เพราะว่าคนส่วนใหญ่ก็มีความเป็นส่วนตัวสูงมากเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ทางการเงิน มันอาจจะดีกว่าถ้าคุณให้เงินพวกเขาอย่างลับๆ
และพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
ทางเลือกอื่นที่เราพอทำได้คือการแบ่งปันเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ หรือแม้แต่นำอาหารมาแบ่งปันกับพวกเขา
คุณจะได้รับพระพรมากพอที่จะเป็นพรแก่ผู้อื่นต่อได้หรือไม่?
การเป็นพรแก่ผู้อื่นคือการกระทำที่ไม่เห็นแก่ตัว การมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของคนอื่นมากกว่าคิดถึงแต่เรื่องของตนเอง
และต้องเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำจากใจ
ถ้าเราไม่ต้องคิดถึงหรือหรือให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ฉันเชื่อว่าหลายๆคนจะยังคงดำเนินชีวิตได้ต่อไปตามปกติ
เพราะการคิดถึงแต่เรื่องของตนเอง จดจ่ออยู่กับสถานการณ์ของตัวเองมันก็วุ่นวายจนหมดวันเวลาไปแล้ว
ดังนั้น วันนี้ให้คุณสวดอ้อนวอนขอพระเจ้าทรงสำแดงให้คุณเห็นว่าคุณสามารถเป็นพรให้แก่ผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
Christembassy
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น