ฉันเป็นคนใจกว้าง
แต่ละคนควรให้ตามที่คิดหมายไว้ในใจ
ไม่ใช่อย่างลังเลหรือเพราะถูกผลักดัน เพราะพระเจ้าทรงรักผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี
-
2โครินธ์ 9:7
พระเจ้าเป็นผู้สร้างสรรค์การให้
เมื่อพระเจ้าให้ชีวิตแก่จักรวาล พระองค์ไม่ทรงละเว้นสิ่งใดเลย
ลองนึกถึงของขวัญอันน่าทึ่งทั้งหมดที่พระองค์สร้าง: พระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ยอดเขาที่สวยงาม
และมหาสมุทรสีคราม ลองนึกถึงวิธีที่พืชให้ออกซิเจน แม่ให้กำเนิดลูก
และน้ำให้ชีวิตแก่สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ที่จริงแล้ว สิ่งมีชีวิตทุกอย่าง ทุกชนิด ล้วนเป็นผู้ให้ไม่ว่าในทางใดก็ทางหนึ่ง
ทำไมถึงเป็นแบบนั้นละ? ก็เพราะลมปราณที่เป่าเข้าในชีวิตของเรานั้นเจือปนด้วยความเอื้ออาทร
พระเจ้าของเราเป็นผู้สร้างสรรค์การให้
เมื่อผ่านความบาป เรานำความตายมาสู่ทางร่างกายและทางวิญญาณ
พระเจ้าพบวิธีที่สร้างสรรค์ในการให้ชีวิตใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้
พระองค์ประทานพระชนม์ชีพที่ไร้เดียงสาของพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ด้วยการสิ้นพระชนม์
นี่เป็นของขวัญที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มากที่สุด
จากนั้น ก่อนที่พระเยซูจะเสด็จขึ้นไป
พระองค์ทรงสัญญาการมาของผู้ที่หนุนใจที่เรียกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำของประทานอันทรงพลังมาให้กับผู้ที่ติดตามพระคริสต์
เพื่อสร้างคริสตจักรและทำให้เรื่องราวของพระเยซูให้เป็นที่รู้จัก
การให้จึงอยู่ในประวัติศาสตร์ของพระเจ้า ในพระหัตถ์ของพระองค์
ด้วยมือของพระองค์ เพื่อสร้างครอบครัวของพระองค์ เมื่อเรารู้จักให้ ก็เท่ากับเราได้ก็ทำตัวเหมือนพระองค์
คำอธิษฐาน:
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ขอบพระคุณสำหรับพระพรทั้งหมดที่พระองค์มอบให้กับข้าพระองค์
ข้าพระองค์ต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์และดำเนินชีวิตด้วยการมีน้ำใจกับเพื่อนมนุษย์ มีความเต็มใจที่จะแบ่งปันสิ่งของที่ข้าพระองค์มีให้กับผู้อื่นด้วยใจยินดี
โปรดนำทางข้าพระองค์ไปสู่โอกาสที่ข้าพระองค์จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้อื่นได้
ไม่ว่าจะเป็นเวลา - ทรัพย์สิน และการเงินของข้าพระองค์ โปรดช่วยให้ข้าพระองค์เติบโตด้วยใจที่เอื้ออาทรต่อเพื่อนบ้าน
ชุมชนแห่งความเชื่อ คริสตจักร ครอบครัว ขอโปรดช่วยให้ข้าพระองค์รับใช้คนรอบข้างด้วยใจกว้างขวาง
ด้วยหัวใจที่สะท้อนถึงพระธรรมชาติของพระองค์
ในพระนามพระเยซู อาเมน
วันนี้คุณจะใจกว้างได้อย่างไร
1.
ฉันสามารถใจกว้างโดยสละเวลาของฉัน โดยให้บริการกับใครสักคนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือ
2.
ฉันสามารถใจกว้างโดยมอบสิ่งของที่ฉันมี บริจาคหรือแบ่งสิ่งของที่ฉันมีซึ่งมันอยู่ในสภาพดี
แต่ฉันไม่ค่อยได้ใช้งานสักเท่าไหร่ แล้วมอบสิ่งเหล่านั้นให้กับคนที่เขาจะได้ใช้ประโยชน์จากมันมากกว่าฉัน
3.
ฉันสามารถใจกว้างเกี่ยวกับการเงินของฉัน เช่น แบ่งปันกับผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือโดยช่วยเหลือตามความสามารถที่ทำได้
(แบบไม่ให้เดือดร้อนผู้อื่น และไม่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์)
4.
ลงมือทำทันที ทำเท่าที่ทำได้ ทำด้วยใจยินดี และอย่าพูดว่า
“ให้คุณมาใหม่ในวันพรุ่งนี้นะ ฉันจะลองคิดดูอีกที” เพราะพระคัมภีร์ได้บอกเราไว้ชัดเจนว่า
“แต่ละคนควรให้ตามที่คิดหมายไว้ในใจ
ไม่ใช่อย่างลังเลหรือเพราะถูกผลักดัน แต่เพราะพระเจ้าทรงรักผู้ที่ให้ด้วยใจยินดี”
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
bible.com
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น