วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2565

เฉลียวฉลาดเหมือนงูและสุภาพไม่มีพิษภัยเหมือนนกพิราบ

 




 เฉลียวฉลาดเหมือนงูและสุภาพไม่มีพิษภัยเหมือนนกพิราบ

พระเยซูได้ทรงเสริมกำลังแก่เหล่าสาวกและได้สั่งสอนพวกเขาโดยเฉพาะ พวกเขาต้องเทศนา รักษาคนป่วย ประกาศอาณาจักรของพระเจ้า แต่พวกเขาต้องดูแลตนเองให้ดีเพราะพระองค์ส่งพวกเขาออกไปในโลกที่ซาตานปกครอง มันอันตราย ถ้าพวกเขาจะเติบโต พวกเขาจะต้องกลายเป็นคนบางประเภท เป็นคนที่เป็นเหมือนพระคริสต์  สุภาพไม่มีพิษภัย แต่เฉลียวฉลาด

 

ตลอดการปฏิบัติศาสนกิจของพระเยซู พระองค์มักใช้เรื่องเล่าอุทาหรณ์ในการสั่งสอน เพื่อกระตุ้นให้ผู้ฟังพิจารณาความหมายที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเมื่อทรงเสริมกำลังเหล่าสาวกของพระองค์ ก่อนที่จะส่งพวกเขาออกไปในโลก พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า

 

เราส่งท่านไปเหมือนลูกแกะในหมู่สุนัขป่า ฉะนั้นจงเฉลียวฉลาดเหมือนงูและสุภาพไม่มีพิษภัยเหมือนนกพิราบ”

- มัทธิว 10:16

 

ฝูงสัตว์เกี่ยวอะไรกับคำแนะนำของพระเยซู? นี่คือสิ่งที่คุณควรทราบ:

ประการแรก

 #1 “เรากำลังส่งท่านออกไป…”

สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับพันธกิจเฉพาะ แต่คริสเตียนควรเข้าใจตนเองในฐานะผู้ส่ง ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ คือคำพูดสุดท้ายของพระเยซูต่อเหล่าสาวกของพระองค์บนโลก พิสูจน์ให้เห็นถึงความตั้งใจของพระองค์คือการที่พระศาสนจักรจะดำเนินพันธกิจบนแผ่นดินโลกของพระองค์ต่อไป โดยได้รับอำนาจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ (มธ 28:18-20) ไม่ว่าคุณจะได้รับเรียกให้ไปเป็นมิชชันนารีในต่างประเทศหรือในบ้านของคุณเอง คุณก็คือสาวกที่ถูกส่งออกไปทำพันธกิจในทุกวัน

 

ประการที่สอง

#2 “…เหมือนแกะท่ามกลางหมาป่า”

คนที่เป็นแกะเป็นบรรทัดฐานทั่วไปในพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ ผู้เชื่อเป็น “แกะในทุ่งหญ้าของพระองค์” (สด 100:3) พระเยซูทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี (ยน 10:11) และหัวหน้าผู้เลี้ยง (1 ปต. 5:4) ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับการต้อนแกะจะเข้าใจถึงอันตรายของหมาป่า  คำเตือนของพระเยซูคือเราต้องระแวด ระวัง และฉลาด เพราะจะมีคนที่มาทำร้าย แต่จงอย่าแปลกใจหรือไม่ทันตั้งตัวเลย

 

ประการที่สาม

#3 “ฉะนั้นจงฉลาดเฉกเช่นงู…”

ตั้งแต่สวนเอเดน งูก็ถูกมองว่าชั่วร้าย แต่ที่นี่งูถูกพูดถึงความเฉลียวฉลาดของมัน พระเยซูตรัสให้เหล่าลูกแกะหลีกเลี่ยงหรือต่อสู้กับหมาป่า แต่พวกเขาจะต้องฉลาดพอๆ กับงู ในทุกวันนี้คริสเตียนต้องพึ่งพาการอธิษฐาน การศึกษาพระวจนะ การสามัคคีธรรม และยืนอยู่บนศิลาแห่งความจริงเพื่อประเมินและจัดการกับสิ่งที่ซาตานและโลกนี้เหวี่ยงใส่เราตอดเวลา และประตูแดนมรณาจะเอาชนะคริสตจักรนั้นไม่ได้เลย (มธ 16:18)

 

พระเยซูไม่ได้ทำให้ภารกิจของเหล่าสาวกดูเรียบง่าย พระองค์ไม่ได้ดึงดูดพวกเขาด้วยความสะดวกสบาย ความหรูหรา หรือความรู้สึกปลอดภัย  แต่พระองค์ทรงเตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าโดยเตือนพวกเขาถึงอันตรายที่รออยู่  เช่น “หมู่หมาป่า” ที่พยายามจะทำลายพวกเขา

 

พระเยซูทรงเปรียบเทียบสาวกของพระองค์กับแกะ ไม่ใช่สัตว์ที่หิวโหยและมีอำนาจเหนือกว่าสิ่งอื่นใดอย่างสิงโต เสือ หรือหมี แต่เป็นสัตว์ที่เชื่อฟังและถ่อมตนเหมือนแกะ และแกะต้องใกล้ชิดกับผู้เลี้ยงของมัน และฝูงของมัน เพื่อคุ้มครองกันและก้าวเดินต่อไป

 

ประการที่สี่

#4 “…และไร้เดียงสา(สุภาพไม่มีพิษภัย)เหมือนนกพิราบ”

ในเรื่องของความคิด เราต้องเป็นคนที่ฉลาดคิด ส่วนในการกระทำของเรา เราต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ควรให้เหตุผลกับการทำบาปและการไม่เชื่อฟังพระเจ้า  อาดัมและเอวาอาจพยายามฉลาดเหมือนงู แต่พวกเขาลืมที่จะไร้เดียงสาเหมือนนกพิราบและเชื่อฟังพระเจ้า ให้เราวางใจในพระบัญชาและความชอบธรรมของพระองค์ มากกว่าเชื่อมั่นความเฉลียวฉลาดของตนเอง

 

พระเยซูทรงแนะนำสาวกของพระองค์ให้ฉลาดเหมือนงู แต่ไร้เดียงสาเหมือนนกพิราบ เพื่อใช้สมองในขณะที่ยังรักษาใจให้อ่อนโยน ไม่ละทิ้งสัญชาตญาณในขณะที่ต้องรักษาตนให้บริสุทธิ์ เพื่อยกระดับความเฉลียวฉลาดของพวกเขาในขณะที่ยังคงไร้ที่ติ

 

และแม้ว่าพระเยซูจะประทานข้อความพิเศษนี้แก่เหล่าสาวกที่อยู่ต่อหน้าพระองค์ในวันนั้น แต่พระวจนะของพระองค์ยังคงใช้ได้กับผู้ติดตามพระองค์มาจนถึงทุกวันนี้

 

เราอยู่ในโลกที่แตกสลาย โลกที่ปล่อยให้ความชั่วร้ายดำรงอยู่  แต่ถึงแม้ความชั่วร้ายที่เราเห็นในข่าวและในละแวกบ้านของเราจะมีมากมายก็ตาม

 

เราถูกส่งมาในโลก  ให้เป็นคนฉลาดและชอบธรรม ฉลาดและอ่อนโยน นี่เป็นความจริงและพระคุณที่คุณต้องจำเอาไว้  พระเยซูทรงสั่งเหล่าสาวกว่า พวกเขาจะต้องไร้เดียงสา (ไม่มีพิษภัย) หรืออย่างที่บางคนแปลว่า ความสุภาพซึ่งเป็นผลของพระวิญญาณ (กท 5) พวกเขาจะต้องไม่ทำความชั่ว พวกเขาต้องรักทุกคน พวกเขาต้องฉลาด  พวกเขาต้องมีความเข้าใจเช่นเดียวกับพระอาจารย์ที่ว่ามนุษย์เรานั้นล้วนมีข้อบกพร่องและไม่ควรไว้วางใจ (ยน 2:24) จนกว่าพวกเขาจะได้รับการพิสูจน์ว่าเชื่อถือได้

 

ดังนั้นจงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อต้าน เพราะเรามีศัตรูตัวจริงล้อมรอบเราอยู่  และจงจำไว้ว่าคุณเป็นใคร  คุณเป็นลูกของพระเจ้า

 

และอย่าลืมใช้สมองและหัวใจของคุณ เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพราะพระเจ้าได้มอบให้คุณทั้งสองอย่างแล้ว

 

คุณต้องการอะไรจากพระเจ้าในวันนี้

ความกล้าในการทำสิ่งที่ถูกต้อง

ความมั่นใจในตัวตนของฉันในพระคริสต์

สติปัญญาที่จะรู้วิธีตอบสนองต่อผู้คน

 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเจ้า ลูกต้องการแบ่งปันความรักของพระองค์ให้กับคนทั้งโลก และด้วยเหตุนี้ ลูกจึงรู้ว่าบางครั้งลูกเองก็ต้องเผชิญกับความท้าทาย แต่ลูกก็รู้ว่าพระองค์จะทรงอยู่กับลูก โปรดมอบความกล้าหาญที่จะแบ่งปันข่าวดีของพระองค์ให้กับลูก โปรดมอบภูมิปัญญาเพื่อที่ลูกจะพูดกับผู้คนที่ยังไม่รู้จักพระองค์ และโปรดมอบความสุภาพเมื่อลูกต้องเผชิญหน้ากับคนที่ต่อต้านพระองค์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูเจ้า อาเมน

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

  bible.com  

connectusfund

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ มีความเชื่อเมื่อได้ยิน หรือ ได้ยินแต่ไม่ได้เชื่อ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ มีความเชื่อเมื่อได้ยิน หรือ ได้ยินแต่ไม่ได้เชื่อ อ่านฮีบรู 3:1 ถึง 4:13 เพราะเราทั้งหลายได้รับข่าวป...