วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565

วิธีรักผู้อื่นในทุกวัน

 


วิธีรักผู้อื่นในทุกวัน

พระเจ้าสั่งให้เรา “รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (กาลาเทีย 5:14; เลวีนิติ 9:18) เป็นบัญญัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งในสองประการที่พระองค์ประทานแก่เรา และอีกข้อที่ยิ่งใหญ่สุดคือการ “รักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดใจ สุดจิต และสุดความคิดของเจ้า” (มัทธิว 22:37)

 

นี่เป็นบัญญัติที่สำคัญมาก แต่เราเข้าใจจริง ๆ แล้วหรือว่าเราจะต้องรักคนอื่นยังไง ? หรือทำไมเราต้องทำ?

 

ทำไมเราต้องทำ” คำตอบง่ายๆคือ เพราะพระคัมภีร์บอกเรา!

 

ผู้ติดตามพระคริสต์ต้องมีสัมพันธ์กันในลักษณะที่ชุมชนแห่งศรัทธาของเรามีลักษณะเฉพาะด้วยการกระทำแห่งความรัก . . . ความรักไม่ได้หมายถึงอารมณ์แต่หมายถึงการมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของผู้อื่น 

 

ความรักเป็นเครื่องหมายของผู้ติดตามที่แท้จริงของพระเยซู (ยอห์น 13:34-35) และเป็นประสบการณ์ที่แท้จริงของพระเจ้า (1 ยอห์น 2:9-11; 3:11-18; 4:7-21) . . . ความรักคือการแสดงออกทางจริยธรรมที่เป็นศูนย์กลางของความเชื่อของคริสเตียน ซึ่งเป็นผลหลักของพระวิญญาณ (กาลาเทีย 5:22) และแรงจูงใจที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งสำหรับพันธกิจนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เชื่อคือการเห็นคุณค่าและแสวงหาการเป็นคนที่สัตย์ซื่อ 

 

เราถูกสอนให้รักผู้อื่นเพราะพระเจ้ารักเรามาก เราต้องสะท้อนภาพลักษณ์ของพระเจ้า ผู้ทรงรักเราทุกคนโดยไม่มีสิ้นสุด ตลอดทั้งวัน ทุกวัน และในนิรันดร ความรักที่เรามีต่อพระเจ้าเกิดขึ้นเพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน และถ้าพระเจ้าทรงรักคนทุกคนของพระองค์ เราก็ควรรักผู้อื่นให้ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?

 

ดังนั้น คำว่า" รักเพื่อนบ้านของคุณ" หมายถึงการรักเพื่อนบ้านของคุณอย่างจริงใจใช่หรือไม่? ใช่แล้ว แต่นอกจากคุณจะรักเพื่อนบ้านแล้วคุณยังต้องรักคนอื่นๆรอบตัวคุณด้วย

 

ความรักหมายถึงการแสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อ ดูแลความต้องการของผู้ถูกข่มเหงและติดคุก ซื่อสัตย์ในการสมรส และการปฏิเสธชีวิตที่มีเงินจูงใจ (ฮีบรู 13:1-6) 

 

ทั้งหมดนี้อาจฟังดูหนักและค่อนข้างยาก ฉันได้รวบรวมพระวจนะของพระเจ้าเพื่อให้เป็นแบบอย่างในการนำทาง เพื่อที่เราจะสามารถแสดงความรักของคริสเตียนต่อผู้อื่นได้ แม้โลกใบนี้มันช่างสับสนวุ่นวายมากก็ตาม

 

1. “จงระงับโทสะและเลิกโกรธ อย่าเดือดร้อน เพราะไม่เกิดประโยชน์ใด”(สดุดี 37:8)

2. “อย่าพูดว่าข้าจะแก้แค้นความชั่ว จงรอคอยพระเจ้า พระองค์จะทรงช่วยเจ้า”(สุภาษิต 20:22)

3. “ท่านอยากให้เขาทำกับท่านอย่างไร ก็จงทำกับเขาอย่างนั้นเถิด นี้คือธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศก”(มัทธิว 7:12)

4. “แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า จงรักศัตรู จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน”(มัทธิว 5:44)

5. “อย่าตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่ว อย่าด่าตอบผู้ที่ด่าท่าน แต่ตรงกันข้าม จงอวยพรเขา เพราะพระเจ้าทรงเรียกท่านมาก็เพื่อให้รับพระพร”(1 เปโตร 3:9)

6. “อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว จงพยายามทำดีต่อมนุษย์ทุกคน”(โรม 12:17)

7. “ท่านทั้งหลายจงมีความคิดเห็นพ้องต้องกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน รักกันฉันพี่น้อง เห็นอกเห็นใจกันและรู้จักถ่อมตน”(1 เปโตร 3:8)

8. “ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”(เลวีนิติ 19:18)

9. “เป็นการดีและน่าชื่นชมอย่างยิ่งที่จะอยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง”(สดุดี 133:1)

10. “ขอให้พระเจ้าผู้ประทานความพากเพียรและการปลอบใจ โปรดให้ท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตามแบบฉบับของพระคริสตเยซู เพื่อท่านจะได้พร้อมใจกันและเปล่งวาจาเป็นเสียงเดียวกัน ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงเป็นบิดาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”(โรม 15:5-6)

 

เราทุกคนมีโอกาสมากมายในแต่ละวันที่จะรักผู้อื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่หรือราคาแพง แต่ให้เป็นการทำความดีแบบง่ายๆ ที่เราสามารถทำเพื่อคนอื่นได้ทุกวัน เพราะความเรียบง่ายก็สามารถส่งผลไปได้ไกลมากเช่นกัน

 

ห้าวิธีในการแสดงความรัก

- การให้ของขวัญ ของเล็กๆน้อยๆ มีของติดไม้ติดมือไปฝาก

- บัญญัติ อีกวิธีในการแสดงความรักคือการทำสิ่งดีๆแก่ผู้อื่น โดยไม่หวังผล การช่วยเหลือคนอื่น การมีน้ำใจดี การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คิดถึงใจเขาใจเรา

- การให้เวลา  หมายถึง การใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกันกับผู้อื่นนี่ก็เป็นการแสดงความรักด้วยเช่นกัน

- การสัมผัส  ความรักสามารถแสดงออกผ่านการสัมผัสทางกายได้เช่นเดียวกัน

- การมีคำพูดที่เสริมสร้างกำลังใจต่อกัน

 

ฝึกใช้ชีวิตด้วยความรัก แบ่งปันความสว่างของพระเยซูกับผู้อื่น และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ว่าจะเป็น เวลา ความคิด คำอธิษฐาน คำสรรเสริญ และทรัพยากรทั้งหมดเหล่านี้จะสามารถนำคุณไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

 

คุณรู้ไหมว่าความรู้สึกที่คุณได้รับเมื่อคุณได้ทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นมันเป็นอย่างไร? ทำไมไม่ลองเล่าความรู้สึกนั้นซ้ำๆ ทุกวันผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการแสดงความมีเมตตาต่อผู้อื่น

คุณสามารถเป็นพรและอวยพรคนอื่นได้ทุกวัน และคุณยังจะได้รับพรจากพระเจ้าด้วย

 

ยิ่งคุณนำพรเล็กๆ น้อยๆ ไปสู่ผู้อื่นในชีวิตประจำวันของคุณมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งอยากจะทำมันต่อไปเรื่อยๆ  และมันจะทำให้พรของคุณใหญ่ขึ้นและดีขึ้น! ใครจะรู้ละว่าวันหนึ่งคุณอาจประสบความสำเร็จ? ดังนั้นคุณต้องเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อยและมุ่งมั่นที่จะเป็นคนที่ให้พรและเป็นพรแก่ผู้อื่นทุกวัน (หรือทำอย่างสม่ำเสมอ!)

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Tyndal

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...