วิธีรักผู้อื่นในทุกวัน
พระเจ้าสั่งให้เรา “รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (กาลาเทีย 5:14; เลวีนิติ 9:18) เป็นบัญญัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดข้อหนึ่งในสองประการที่พระองค์ประทานแก่เรา
และอีกข้อที่ยิ่งใหญ่สุดคือการ “รักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของเจ้าด้วยสุดใจ
สุดจิต และสุดความคิดของเจ้า” (มัทธิว 22:37)
นี่เป็นบัญญัติที่สำคัญมาก แต่เราเข้าใจจริง ๆ แล้วหรือว่าเราจะต้องรักคนอื่นยังไง ? หรือทำไมเราต้องทำ?
“ทำไมเราต้องทำ” คำตอบง่ายๆคือ เพราะพระคัมภีร์บอกเรา!
ผู้ติดตามพระคริสต์ต้องมีสัมพันธ์กันในลักษณะที่ชุมชนแห่งศรัทธาของเรามีลักษณะเฉพาะด้วยการกระทำแห่งความรัก . . . ความรักไม่ได้หมายถึงอารมณ์แต่หมายถึงการมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของผู้อื่น
ความรักเป็นเครื่องหมายของผู้ติดตามที่แท้จริงของพระเยซู (ยอห์น 13:34-35) และเป็นประสบการณ์ที่แท้จริงของพระเจ้า (1 ยอห์น 2:9-11; 3:11-18; 4:7-21) . . . ความรักคือการแสดงออกทางจริยธรรมที่เป็นศูนย์กลางของความเชื่อของคริสเตียน ซึ่งเป็นผลหลักของพระวิญญาณ (กาลาเทีย 5:22) และแรงจูงใจที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งสำหรับพันธกิจนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เชื่อคือการเห็นคุณค่าและแสวงหาการเป็นคนที่สัตย์ซื่อ
เราถูกสอนให้รักผู้อื่นเพราะพระเจ้ารักเรามาก เราต้องสะท้อนภาพลักษณ์ของพระเจ้า
ผู้ทรงรักเราทุกคนโดยไม่มีสิ้นสุด ตลอดทั้งวัน ทุกวัน และในนิรันดร
ความรักที่เรามีต่อพระเจ้าเกิดขึ้นเพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน และถ้าพระเจ้าทรงรักคนทุกคนของพระองค์
เราก็ควรรักผู้อื่นให้ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ?
ดังนั้น คำว่า" รักเพื่อนบ้านของคุณ" หมายถึงการรักเพื่อนบ้านของคุณอย่างจริงใจใช่หรือไม่? ใช่แล้ว แต่นอกจากคุณจะรักเพื่อนบ้านแล้วคุณยังต้องรักคนอื่นๆรอบตัวคุณด้วย
ความรักหมายถึงการแสดงน้ำใจเอื้อเฟื้อ
ดูแลความต้องการของผู้ถูกข่มเหงและติดคุก ซื่อสัตย์ในการสมรส และการปฏิเสธชีวิตที่มีเงินจูงใจ
(ฮีบรู 13:1-6)
ทั้งหมดนี้อาจฟังดูหนักและค่อนข้างยาก ฉันได้รวบรวมพระวจนะของพระเจ้าเพื่อให้เป็นแบบอย่างในการนำทาง
เพื่อที่เราจะสามารถแสดงความรักของคริสเตียนต่อผู้อื่นได้
แม้โลกใบนี้มันช่างสับสนวุ่นวายมากก็ตาม
1. “จงระงับโทสะและเลิกโกรธ อย่าเดือดร้อน เพราะไม่เกิดประโยชน์ใด”(สดุดี
37:8)
2. “อย่าพูดว่าข้าจะแก้แค้นความชั่ว จงรอคอยพระเจ้า
พระองค์จะทรงช่วยเจ้า”(สุภาษิต 20:22)
3. “ท่านอยากให้เขาทำกับท่านอย่างไร ก็จงทำกับเขาอย่างนั้นเถิด
นี้คือธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศก”(มัทธิว 7:12)
4. “แต่เรากล่าวแก่ท่านว่า จงรักศัตรู จงอธิษฐานภาวนาให้ผู้ที่เบียดเบียนท่าน”(มัทธิว
5:44)
5. “อย่าตอบโต้ความชั่วด้วยความชั่ว อย่าด่าตอบผู้ที่ด่าท่าน
แต่ตรงกันข้าม จงอวยพรเขา เพราะพระเจ้าทรงเรียกท่านมาก็เพื่อให้รับพระพร”(1 เปโตร
3:9)
6. “อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว จงพยายามทำดีต่อมนุษย์ทุกคน”(โรม
12:17)
7. “ท่านทั้งหลายจงมีความคิดเห็นพ้องต้องกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน
รักกันฉันพี่น้อง เห็นอกเห็นใจกันและรู้จักถ่อมตน”(1 เปโตร 3:8)
8. “ท่านจะต้องไม่แก้แค้น หรืออาฆาตชนชาติเดียวกับท่าน
แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”(เลวีนิติ 19:18)
9. “เป็นการดีและน่าชื่นชมอย่างยิ่งที่จะอยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง”(สดุดี
133:1)
10. “ขอให้พระเจ้าผู้ประทานความพากเพียรและการปลอบใจ
โปรดให้ท่านเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ตามแบบฉบับของพระคริสตเยซู เพื่อท่านจะได้พร้อมใจกันและเปล่งวาจาเป็นเสียงเดียวกัน
ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าผู้ทรงเป็นบิดาของพระเยซูคริสต์
องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”(โรม 15:5-6)
เราทุกคนมีโอกาสมากมายในแต่ละวันที่จะรักผู้อื่น
ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องยิ่งใหญ่หรือราคาแพง แต่ให้เป็นการทำความดีแบบง่ายๆ ที่เราสามารถทำเพื่อคนอื่นได้ทุกวัน เพราะความเรียบง่ายก็สามารถส่งผลไปได้ไกลมากเช่นกัน
ห้าวิธีในการแสดงความรัก
- การให้ของขวัญ ของเล็กๆน้อยๆ มีของติดไม้ติดมือไปฝาก
- บัญญัติ อีกวิธีในการแสดงความรักคือการทำสิ่งดีๆแก่ผู้อื่น โดยไม่หวังผล
การช่วยเหลือคนอื่น การมีน้ำใจดี การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คิดถึงใจเขาใจเรา
- การให้เวลา หมายถึง การใช้เวลาที่มีคุณภาพร่วมกันกับผู้อื่นนี่ก็เป็นการแสดงความรักด้วยเช่นกัน
- การสัมผัส ความรักสามารถแสดงออกผ่านการสัมผัสทางกายได้เช่นเดียวกัน
- การมีคำพูดที่เสริมสร้างกำลังใจต่อกัน
ฝึกใช้ชีวิตด้วยความรัก แบ่งปันความสว่างของพระเยซูกับผู้อื่น และมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ไม่ว่าจะเป็น เวลา ความคิด คำอธิษฐาน คำสรรเสริญ และทรัพยากรทั้งหมดเหล่านี้จะสามารถนำคุณไปสู่ชีวิตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
คุณรู้ไหมว่าความรู้สึกที่คุณได้รับเมื่อคุณได้ทำสิ่งดีๆ เพื่อคนอื่นมันเป็นอย่างไร? ทำไมไม่ลองเล่าความรู้สึกนั้นซ้ำๆ ทุกวันผ่านการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการแสดงความมีเมตตาต่อผู้อื่น?
คุณสามารถเป็นพรและอวยพรคนอื่นได้ทุกวัน และคุณยังจะได้รับพรจากพระเจ้าด้วย
ยิ่งคุณนำพรเล็กๆ น้อยๆ ไปสู่ผู้อื่นในชีวิตประจำวันของคุณมากเท่าไหร่
คุณก็ยิ่งอยากจะทำมันต่อไปเรื่อยๆ และมันจะทำให้พรของคุณใหญ่ขึ้นและดีขึ้น!
ใครจะรู้ละว่าวันหนึ่งคุณอาจประสบความสำเร็จ? ดังนั้นคุณต้องเริ่มต้นจากสิ่งเล็กน้อยและมุ่งมั่นที่จะเป็นคนที่ให้พรและเป็นพรแก่ผู้อื่นทุกวัน
(หรือทำอย่างสม่ำเสมอ!)
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
Tyndal
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น