วันอังคารที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2565

วิธีมอบความโกรธของคุณไว้กับพระเจ้า

 


วิธีมอบความโกรธของคุณไว้กับพระเจ้า

พระคำของพระเจ้าไม่เพียงแต่สอนวิธีจัดการกับความโกรธเท่านั้น แต่ยังสอนวิธีเอาชนะความโกรธที่เป็นบาปไว้ด้วย


เคยมีคนบอกคุณไหมว่า “อารมณ์เป็นสิ่งที่ไม่ดี” หรือ “จงเพิกเฉยต่อความรู้สึกของตัวเองแล้วดำเนินชีวิตด้วยศรัทธาต่อไป”? คุณเคยคิดสงสัยหรือไม่ว่าแล้วทำไมพระเจ้าถึงมอบอารมณ์ความรู้สึกให้กับคุณตั้งแต่แรก หากคุณต้องเพิกเฉยต่อพวกมัน?

 

“ในยามโกรธ ท่านอย่าทำบาป” อย่าให้ถึงดวงอาทิตย์ตกแล้วท่านยังโกรธอยู่” (เอเฟซัส 4:26)

 

ฉันถูกเลี้ยงดูมาในบ้านที่ไม่ใช่คริสเตียน และฉันเรียนรู้เพียงสองวิธีในการจัดการความเจ็บปวดและความโกรธ นั่นก็คือการตะโกนออกมาด้วยการกรีดร้อง หรือไม่ก็กลั้นมันเอาไว้ พ่อของฉันมีเหตุผลมากมายที่จะโกรธ แต่น่าเสียดายที่มันถูกแสดงออกมาจากภายนอกด้วยการตะโกนใส่ครอบครัวของเขา แม่ของฉันถูกทารุณกรรมมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กและแม่ไม่เคยจัดการกับมันอย่างเหมาะสม ดังนั้นความโกรธภายในใจของเธอจึงกลายเป็นความหดหู่ใจอย่างสุดซึ้ง

 

จากการที่ฉันได้เห็นการทดลองในชีวิตของพ่อกับแม่และวิธีการเอาชีวิตรอดในยามวิกฤตของพวกเขา ฉันได้เรียนรู้ว่าทางเลือกเหล่านี้จะไม่นำมาซึ่งความช่วยเหลือหรือการรักษาแน่นอน วันนี้ฉันต้องการช่วยให้พวกคุณหลุดพ้นจากความโกรธหรือความขมขื่นที่จะเข้ามาควบคุมหัวใจของพวกคุณ และเพื่อที่คุณจะได้หายใจและได้รับพร

 

บางทีคุณอาจเคยถามตัวเองว่า “ถ้าพระเจ้ารักฉัน ทำไมฉันถึงรู้สึกปวดร้าวเช่นนี้” ฉันขอรับรองกับคุณว่าพระเจ้าได้ทรงออกแบบความโกรธด้วยเหตุผลที่ดี

 

ประการแรก คุณถูกสร้างขึ้นตามพระฉายของพระองค์ และพระเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพก็มีความรู้สึกโกรธเช่นกัน มีตัวอย่างในพระคัมภีร์มากกว่า 2,000 กรณีที่กล่าวถึงอารมณ์ของพระเจ้า อารมณ์เชิงบวกและเชิงลบถูกสร้างขึ้นเพื่อเปิดเผยสภาพของจิตวิญญาณของหัวใจมนุษย์

 

ประการที่สอง บางครั้งอารมณ์ก็เป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่ามีบางอย่างกำลังทำร้ายเรา เฉกเช่นความเจ็บปวดทางกายเผยให้เห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของเรา อารมณ์ก็สามารถเผยให้เห็นว่าวิญญาณของเราต้องการความเอาใจใส่ การรู้สึกโกรธจึงไม่ใช่บาป แต่การปล่อยให้ความโกรธกลายเป็นความพินาศหรือการทำร้ายตัวเองนั่นคือเวลาที่บาปกำลังเกิดขึ้น

 

ทุกวันนี้มีเหตุผลมากมายที่เราจะโกรธ และความโกรธที่ชอบธรรมซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในทางบวกจะทำให้พระเจ้าพอพระทัย แต่อย่างไรก็ตาม หากความโกรธกำลังกลืนกินคุณและแสดงออกมาในทางที่เป็นอันตราย วันนี้ฉันต้องการให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และได้ผลในการรักษา

 

1.ยอมรับความจริงกับพระเจ้า

เราไม่สามารถซ่อนตัวจากพระเจ้าได้ และพระองค์ทรงรักเราไม่ว่าเราจะรู้สึกอย่างไร

 

ในพระธรรมสดุดี กษัตริย์ดาวิดทรงเคร่งขรึมราวกับกำลังอ่านบันทึกส่วนตัวของพระองค์ ดาวิดพยายามหาทางแก้แค้นอย่างไม่ถูกต้องและขอให้พระเจ้าลดชีวิตของศัตรูให้สั้นลง แต่พระเจ้าเรียกดาวิดว่าเขาเป็นชายที่ตามหาน้ำพระทัยของพระองค์

 

ศัตรูต้องการให้เรากลัวเกินกว่าจะเข้าหาพระเจ้าเมื่อเราโกรธ เราต้องเอาชนะความกลัวนี้ เพราะวิธีเดียวที่จะหลุดพ้นจากความโกรธคือการพูดความจริงกับพระเจ้า แม้ว่าเราจะต้องกรีดร้องและตะโกนออกมาก็ตาม

 

พระเจ้ารักคุณมาก คุณคือลูกของพระองค์ และพระองค์ทรงเป็นบิดาบนสวรรค์ของคุณ พระองค์ต้องการได้ยินคุณร้องไห้ เพื่อที่พระองค์จะทรงสามารถกุมหัวใจคุณและรักษาคุณได้ ยิ่งคุณจริงจังกับพระเจ้ามากเท่าไร พระองค์ก็จะยิ่งกลายเป็นจริงสำหรับชีวิตคุณมากเท่านั้น!

 

2.สารภาพความโกรธของคุณต่อพระเจ้า

การสารภาพความโกรธต่อพระเจ้าจะทำให้คุณสะอาดจากภายใน อาจฟังดูแปลกที่จะพูดคุยกับพระเจ้าเมื่อคุณรู้สึกโกรธ อิจฉา หรือเกลียดชัง แต่เป็นวิธีเดียวที่จะหลุดพ้น ฉันสนับสนุนให้คุณสารภาพกับพระเจ้าทุกครั้งที่คุณรู้สึกโกรธ

 

หากไม่รู้จะเริ่มตรงไหน? ฉันมีตัวอย่างคำอธิษฐานสารภาพด้านล่าง อ่านแล้วคุณสามารถปรับเปลี่ยนทำให้มันเป็นแบบของตัวคุณเองได้

 

ข้าแต่พระเจ้าที่รัก,

ลูกขอสารภาพความโกรธทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้ต่อพระองค์ และขอเชิญพระองค์เสด็จเข้ามาในบริเวณที่มืดสนิทในใจของลูก ที่ซึ่งลูกได้พยายามซ่อนความโกรธเอาไว้จากพระองค์ ลูกอนุญาตให้พระองค์เข้ามาประทับและโปรดส่องแสงของพระองค์ลงมายังบาปของลูก ขอโปรดแสดงให้ลูกได้เห็นวิธีที่จะมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความโกรธทั้งหลายที่มันพยายามควบคุมลูกอยู่นี้ ลูกขอเลือกที่จะเชื่อว่าตอนนี้พระองค์กำลังทำความสะอาดใจลูกและสร้างใจใหม่ในตัวของลูก ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกเชื่อว่าพระองค์ทรงมอบกำลังเหนือธรรมชาติแก่ลูกในการดำเนินอยู่ในพระวิญญาณ ที่ไม่ใช่ในเนื้อหนัง  เพื่อที่ลูกจะได้ไม่แพ้ต่อการล่อลวงอีกต่อไป ลูกอธิษฐานในพระนามพระเยซูเจ้า อาเมน

 

หากเราพยายามจัดการกับความโกรธของเราเอง แสดงว่าเรากำลังเล่นบทเป็นพระเจ้า แต่ถ้าเรายอมจำนนต่อพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยความรัก พระองค์จะทรงแทนที่ความเจ็บปวดจากความโกรธของเราด้วยสันติสุขอันสมบูรณ์ของพระองค์  โดยผ่านความเข้าใจของเราเองว่าพระองค์ได้ทรงทำงานอย่างไรในใจเราและผ่านเรา

 

3.มอบความโกรธของคุณไว้กับพระเจ้า

เมื่อสามีของฉันและฉันกำลังดิ้นรนในความสัมพันธ์ของเราเมื่อหลายปีก่อน ฉันทำผิดที่พูดบอกลูกๆ และสามีของฉันว่าตัวฉันโกรธสามีมากแค่ไหน (แน่นอน  เพราะฉันเกิดมาจากครอบครัวที่แสดงออกด้วยวิธีนี้) แต่การทำแบบนั้นมันทำให้ฉันโกรธและเกิดความขมขื่นยิ่งกว่าเดิม ฉันทำให้เพื่อนๆรอบตัวโกรธ และที่แย่ไปกว่านั้นคือ ฉันทำให้ลูกๆ ของเราพลอยอารมณ์เสียไปด้วย จึงเห็นได้ชัดว่าฉันปล่อยให้ความโกรธควบคุมพฤติกรรมของฉัน

 

วันนี้ฉันรู้แล้วว่าการร้องทูลต่อพระเจ้าและสารภาพความโกรธเป็นวิธีเดียวที่ฉันจะได้รับอิสรภาพ หลายครั้งที่เราเลือกจะพูดบอกคนรอบกายเกี่ยวกับความโกรธของเรา ขอเน้นว่าทุกคนแต่ยกเว้นพระเจ้า แต่ยิ่งเราบอกคนอื่นมากเท่าไหร่ เราก็ยิ่งขมขื่นมากขึ้นเท่านั้น จงปล่อยให้ถ้อยคำของพระเจ้ารักษาเรา จงยกหินแห่งความโกรธออกจากใจเราและแทนที่มันด้วยพระสัญญาของพระองค์เถิด

 

เมื่อมีบางสิ่งที่น่ากลัวมาทำลายศรัทธาของคุณ คุณจะทำอย่างไรเมื่อคุณโกรธ? พระองค์คือผู้เดียวที่มีอำนาจรักษาหัวใจของคุณและปลอบโยนคุณ และเป็นไปไม่ได้ที่จะพบการบรรเทาทุกข์ชั่วนิรันดร์เมื่อคุณโกรธพระเจ้า 


น่าเศร้าที่เราอาศัยอยู่ในดินแดนที่ล่มสลาย ไม่ใช่ในเทพนิยาย ความเจ็บปวดจึงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต นั่นก็เพราะความบาปของมนุษย์ ไม่ใช่เพราะพระเจ้า (ไม่ว่าจะเป็นบทเรียนของความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูก การที่สามีมีชู้ การตกงาน หรือการทรยศจากเพื่อนที่เราไว้ใจ)

 

ประการแรก จงรู้เถิดว่าพระบิดาบนสวรรค์ของคุณสามารถเข้าใจได้เมื่อคุณโกรธพระองค์ และพระองค์จะไม่มีวันหยุดรักคุณ เมื่อพระเยซูอยู่บนไม้กางเขน มีอยู่ช่วงหนึ่งที่พระองค์ร้องทูลพระเจ้า ถามว่าทำไมพระบิดาจึงละทิ้งพระองค์ และพระเยซูทรงร้องอยู่ที่สวนในคืนที่พระองค์ถูกทรยศ ในความทุกข์ยากของพระองค์ พระองค์จะขอทางอื่นจากพระบิดาก็ได้ แต่ทว่าพระเยซูทรงวางพระทัยแผนการของพระเจ้ามากกว่า เพราะพระองค์รู้ว่าชัยชนะที่สูงสุดนั้นอยู่ที่ไม้กางเขน

 

อย่าสงสัยเลยว่าพระเจ้าจะอยู่กับคุณหรือเปล่า หากคุณจะร้องทูลพระองค์ในการอธิษฐาน พระองค์จะทรงเดินไปพร้อมกับคุณผ่านสวนแห่งความเศร้าโศกและตรงไปยังกางเขน ที่ซึ่งการทดลองของคุณจะเปลี่ยนไปสู่ชัยชนะและพบความหลงใหลในการใช้ชีวิตใหม่

 

ฉันเชื่อว่าถ้าหากพระบิดาบนสวรรค์ของคุณจะเขียนจดหมายรักส่วนตัวถึงคุณในวันนี้ มันจะเป็นข้อความประมาณนี้:

 

แด่ผู้เป็นที่รักของฉัน,

เรารู้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในโลกที่ทำให้ลูกต้องรู้สึกโกรธ แต่ความโกรธเป็นกับดักที่ศัตรูของจิตวิญญาณลูกได้วางเอาไว้ หากลูกจับเหยื่อแห่งความโกรธ ลูกจะขมขื่น และไม่มีอะไรดีเกิดขึ้นนอกจากความขมขื่น ดังนั้นเมื่อลูกรู้สึกโกรธ ให้ลูกร้องไห้ออกมาและสารภาพความโกรธนั้นกับเรา เราเป็นคนเดียวที่สามารถจัดการกับหัวใจของลูกและนำลูกผ่านสนามรบแห่งความโกรธนี้ไปได้ เราจะสอนวิธีดำเนินชีวิตให้ปราศจากความโกรธแค้นที่จะนำมาซึ่งความพินาศ ลูกสามารถอยู่อย่างสงบสุขได้ในขณะที่ลูกเรียนรู้ที่จะเชื่อใจเราและปล่อยให้เราจัดการกับทุกคนและทุกสิ่งที่ทำร้ายลูก

ด้วยรักจากใจ,

จากพระราชาผู้ทรงยุติธรรม

 

เพื่อนเอ๋ย อย่าแก้แค้น แต่จงปล่อยให้พระเจ้าทรงสำแดงพระพิโรธ เพราะมีเขียนไว้ว่า “การแก้แค้นเป็นหน้าที่ของเราเอง เราจะคืนสนอง” องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ (โรม 12:19)

 

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Beliefnet

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...