น้ำดำรงชีวิต
37ในวันสุดท้ายซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดของเทศกาล
พระเยซูทรงยืนขึ้นและตรัสเสียงดังว่า “ถ้าผู้ใดกระหาย ให้เขามาหาเราและดื่มเถิด 38ดังที่พระคัมภีร์เขียนไว้ ผู้ใดก็ตามที่เชื่อในเรา
สายธารซึ่งมีน้ำที่ให้ชีวิตจะไหลออกมาจากภายในผู้นั้น” 39ที่ตรัสดังนี้พระองค์ทรงหมายถึงพระวิญญาณ
ซึ่งผู้ที่เชื่อในพระองค์จะได้รับในภายหลัง เวลานั้นยังไม่ได้ประทานพระวิญญาณให้
เนื่องจากพระเยซูยังไม่ได้รับพระเกียรติสิริ
ยอห์น 7: 37-39
“น้ำดำรงชีวิต” เป็นวลีที่สามารถพบได้ในหนังสือต่าง ๆ ตลอดทั้งพระคัมภีร์
มีตัวอย่างหลักสี่กรณีที่มีนัยสำคัญ
สองกรณีในพันธสัญญาเดิมและอีกสองกรณีในพันธสัญญาใหม่
ตัวอย่างแรกๆ ของน้ำดำรงชีวิตในพระคัมภีร์มาจากเยเรมีย์ 2:13 ซึ่งพระเจ้าตรัสว่า ““ประชากรของเราทำบาปถึงสองสถานคือ พวกเขาได้ละทิ้งเรา
ผู้เป็นธารน้ำซึ่งให้ชีวิตและได้สร้างบ่อน้ำรั่วให้ตนเองซึ่งเก็บน้ำไว้ไม่อยู่”
ต่อมาในเยเรมีย์ 17:13 เยเรมีย์กล่าวถึงพระเจ้าว่า
“ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นความหวังของอิสราเอล คนทั้งปวงที่ละทิ้งพระองค์จะอัปยศอดสู
ผู้ที่หันไปจากพระองค์จะถูกจารึกไว้ในธุลีดิน เพราะเขาละทิ้งองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นบ่อน้ำพุซึ่งมีน้ำที่ให้ชีวิต”
ในสองข้อความนี้ พระเจ้าถูกเรียกว่าเป็น “น้ำพุแห่งน้ำดำรงชีวิต”
ซึ่งผู้คนของพระองค์ได้ละทิ้งความพยายามและทำสิ่งต่าง ๆ
ในแบบของพวกเขาเองโดยการขุดบ่อน้ำของพวกเขาเองและหันหลังให้พระองค์ ข้อความเหล่านี้แสดงว่าพระเจ้าประทานทุกสิ่งที่พวกเขาต้องการแก่คนของพระองค์
เช่น น้ำ และเมื่อพวกเขาหันหลังให้พระองค์ พวกเขาจะหลงทางและสิ้นหวัง
ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูตรัสกับหญิงชาวสะมาเรียในยอห์น 4:10 พระเยซูตรัสตอบนางว่า
“ถ้าเจ้ารู้จักของที่พระเจ้าประทานและรู้จักผู้ที่ขอน้ำจากเจ้า
เจ้าคงจะขอจากผู้นั้นและผู้นั้นจะให้น้ำซึ่งให้ชีวิตแก่เจ้า”
ต่อมาในยอห์น 7: 37-39 พระเยซูตรัสถึงน้ำดำรงชีวิตอีกครั้งว่า “
‘ให้ผู้กระหายน้ำมาหาเราและดื่ม ใครก็ตามที่เชื่อในเราตามที่พระคัมภีร์กล่าวไว้
แม่น้ำที่มีน้ำดำรงชีวิตจะไหลออกมาจากภายในนั้น’ โดยสิ่งนี้เขาหมายถึงพระวิญญาณซึ่งผู้ที่เชื่อในพระองค์จะได้รับในภายหลัง
จนถึงเวลานั้นพระวิญญาณยังไม่ได้รับ เนื่องจากพระเยซูยังไม่ได้รับเกียรติ”
ในข้อความสองตอนจากยอห์น พระเยซูตรัสถึงน้ำดำรงชีวิต ไม่ใช่แค่น้ำ
แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์และสิ่งที่จะมาภายหลังการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูและการฟื้นคืนพระชนม์สำหรับสาวกของพระองค์ที่เชื่อในพระองค์
แล้วน้ำมีชีวิตคืออะไร? น้ำดำรงชีวิตสามารถเข้าใจได้หลายวิธี
แต่วิธีที่ชัดเจนที่สุดคือน้ำดำรงชีวิตเป็นสัญลักษณ์ของความรอดและความรู้ที่แท้จริงของพระเจ้า
พระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าประทานทุกสิ่งที่เราต้องการและเป็น
“น้ำดำรงชีวิต” ที่พระองค์ยังคงประทานให้เราเสมอ
เพื่อเป็นการระลึกถึงวันเวลาที่พระเจ้าประทานน้ำให้พวกเขาในถิ่นทุรกันดาร
พระเยซูทรงเห็นพวกเขาทำตามศาสนพิธีนี้ทุกวัน แต่ภายในจิตใจเขากลับแห้งแล้ง
พระองค์จึงยืนขึ้นบอกกับพวกเขาว่า ความแห้งแล้งภายในใจของพวกเขานั้นจะได้รับการเติมเต็ม
เพราะคำตอบนั้นอยู่ที่พระองค์
.
1) พระองค์เป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิต:
จิตใจที่แห้งแล้งของเรานั้นเต็มเท่าไหร่ก็ไม่เคยเต็ม
ทุกสิ่งที่มีอยู่บนโลกนี้ล้วนเป็นของชั่วคราว ทุกคนต่างค้นหามาให้ได้ซึ่งความสุข
แต่ความสุขเหล่านั้นไม่มีวันยั่งยืน วันนี้พระองค์ตรัสกับเราว่า
พระองค์ทรงเป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิตที่ทุกคนกำลังถามหา
2) น้ำแห่งชีวิตนี้ช่วยเหลือผู้คนได้:
เมื่อมาถึงจุดหนึ่งของชีวิต
ยิ่งมีมากเท่าไหร่จะยิ่งพบว่าในใจยิ่งว่างเปล่าเท่านั้น แต่พระองค์สามารถเติมเต็มสันติสุขแท้ในจิตใจมนุษย์ได้
ชีวิตจึงมีความหวัง และความหวังนี้ไม่ใช่เพียงชั่วครู่ชั่วยาม
แต่เป็นความหวังนิรันดร์
3) โดยเหตุแห่งพระวิญญาณ: ในขณะที่พระเยซูตรัสนั้น
พระองค์ยังไม่ได้ประทานพระวิญญาณให้
เพราะพระราชกิจแห่งการไถ่บาปเพื่อทุกคนโดยการสิ้นพระชนม์บนกางเขนยังไม่เสร็จสิ้น
และหลังจากการฟื้นคืนพระชนม์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์
พระองค์จึงได้ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้แก่ทุกคนที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์นั้น
ขอบคุณพระองค์ผู้ทรงเป็นแหล่งน้ำแห่งชีวิต และจิตใจที่แห้งแล้งของเรานั้นจะไม่กระหายอีกเลย ไม่ว่าเราจะไปที่ใด จะอยู่ที่ไหน หรือทำอะไร
พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงประทานให้นั้นจะสถิตอยู่ในเรา
และพระพรที่พระองค์ประทานให้นั้นก็ล้นอยู่ จนเราไม่สามารถเก็บไว้เพียงผู้เดียว
(ต้องแบ่งปันออกไป)
วันนี้คุณจะใช้เวลากับพระเจ้าอย่างไร?
โดยการอ่านพระวจนะของพระองค์
โดยการนมัสการพระองค์
โดยการสังเกตการสิ่งสร้างของพระองค์
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์เป็นผู้เดียวที่ทำให้ข้าพระองค์พอใจได้อย่างแท้จริง
สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้พยายามโน้มน้าวใจของข้าพระองค์ ข้าพระองค์ต้องการมันมาเพื่อเพิ่มความสุขให้ตนเอง
แต่ข้าพระองค์รู้ดีว่าความสุขที่แท้จริงนั้นต้องมาจากพระองค์เท่านั้น ข้าพระองค์ขอขอบพระคุณที่พระองค์ไม่เพียงแค่รักษา
แต่ยังทรงรักและดูแลข้าพระองค์เสมอมา ข้าพระองค์ยำเกรงในความรักและพระสัญญาของพระองค์
อธิษฐานในพระนามของพระเยซูเจ้า อาเมน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
Quenched
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น