วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562

การปฏิเสธตนเอง




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่สามสิบสาม - การปฏิเสธตนเอง
23จากนั้นพระองค์ตรัสกับเขาทั้งปวงว่า “หากผู้ใดปรารถนาจะตามเรามา เขาต้องปฏิเสธตนเอง รับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา 24เพราะผู้ใดต้องการเอาชีวิตรอด ผู้นั้นจะเสียชีวิต แต่ผู้ใดพลีชีวิตเพื่อเรา ผู้นั้นจะมีชีวิตรอด
ลูกา9:23-24

พระเยซูทรงเสียสละอย่างยิ่งสำหรับเราทุกคน คุณเต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคุณเพื่อพระองค์อย่างจริงจังบ้างหรือไม่? คุณสามารถพูดได้อย่างตรงไปตรงมาว่าคุณเองมีศรัทธามากและคุณกำลังติดตามพระเยซูอย่างจริงจังแล้วในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน ก็หวังว่าเราทุกคนจะเป็นอย่างนั้น แต่ถ้าคุณยังหมกมุ่นอยู่กับสิ่งอื่น ๆ บนโลกนี้ - หรือถ้าคุณเป็นแค่คริสตชนที่เคร่งครัดเฉพาะวันอาทิตย์หรือวันฉลองสำคัญ - คุณต้องเริ่มคิดถึงการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณของตนเองได้แล้ว!

ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความมุ่งมั่นอย่างสุดใจที่คุณมีต่อพระบิดาและพระบุตรของพระองค์ ความเชื่อและความศรัทธาของคุณต่อพระเจ้าจะต้องมาเป็นสิ่งแรกของทุกวัน มันจะต้องเป็นความสำคัญสูงสุดในชีวิตของคุณ และเป็นความปรารถนาสูงสุดของคุณในทุกวัน คุณเป็นผู้รับความรักของพระคริสต์ จง รับเอาความรักของพระองค์เข้ามาในชีวิตของคุณและแบ่งปันออกไปอย่างจริงจัง จงมีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง  เพราะคุณก็สมควรได้รับประสบการณ์ของการแบ่งปันข่าวประเสริฐของพระองค์สู่โลกนี้เช่นกัน

ข้อคิดวันนี้
ลองทบทวนคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับพระเยซู: มันคืออะไร?และมันสามารถเป็นอะไรได้บ้างที่คุณสามารถทำได้ในทุกวัน? จากนั้นเมื่อคุณได้เริ่มความสัมพันธ์ของคุณกับพระเยซูในทุก ๆ วัน การเดินทางในระยะต่อไปของชีวิตคุณจะไม่โดดเดี่ยว เพราะคุณได้เลือกที่จะเดินไปพร้อมกับผู้ช่วยให้รอดของคุณ และในทุกย่างก้าวของคุณจะมีพระองค์ทรงนำพระองค์จะนำคุณไปในที่ที่คุณควรต้องไป

การปฏิเสธตัวเอง ไม่ใช่ให้ดูถูกตนเอง หรือมองว่าตนเองไร้ค่า

แต่เป็นการยอมรับว่า ตัวเราก็เป็นแค่คนที่มีความบกพร่อง
ให้เราปฏิเสธกับการใช้ชีวิตแบบเดิมๆที่ไม่ดี
เพื่อเราจะได้รับชีวิตใหม่ โดยพระคุณผ่านทางไม้กางเขน

วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2562

การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในคริสตชน



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่สามสิบสอง -  การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในคริสตชน
1เป็นการดีและน่าชื่นใจยิ่งนัก
เมื่อพี่น้องอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน!
สดุดี 133:1

ความเชื่อสำคัญของคริสตชน เรามีศูนย์รวมอยู่ที่การเชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ไถ่ แต่ศาสนาคริสต์เป็นมากกว่าชุดความเชื่อ นั่นคือเป็นแนวทางการดำเนินชีวิต  ความเชื่อแบบคริสตชนต้องส่งผลเป็นการใช้ชีวิตรักและรับใช้ผู้อื่น มิฉะนั้นมันจะเป็นความเชื่อที่ไม่จริงใจและเปล่าประโยชน์ สาระสำคัญของหลักธรรมสำหรับคริสตชนก็คือ “ความรัก” นั่นเอง

เราต้องมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  เพราะความสัมพันธ์พิเศษกับพระคริสต์    เราต่างรู้ว่า พี่น้องควรรักซึ่งกันและกัน และมีความปรองดองกัน  เพราะว่าเราคือพี่น้องมีบิดามารดาเดียวกัน และสายเลือดเดียวกัน  ส่วนพี่น้องคริสตชนเราเป็นพี่น้องฝ่ายวิญญาณในพระเป็นเจ้า   แท้จริงเมื่อก่อนนั้นเราต่างคนต่างไม่รู้จักมาก่อน   เราเป็นคนต่างชาติที่ไม่มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน   แต่โดยการบังเกิดใหม่ เราได้กลายเป็นพี่น้องกันในพระเยซู ดังนั้นเราควรรักซึ่งกันและกัน และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 

ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  ในกิจการอัครสาวก 4:32 กลุ่มผู้มีความเชื่อดำเนินชีวิตเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็นกรรมสิทธิ์ของตน แต่ทุกสิ่งเป็นของส่วนรวม.  กลุ่มผู้มีความเชื่อแรกเริ่มดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกัน ทุกสิ่งที่พวกเขามีก็เพื่อประโยชน์ของทุกคน หลายคนในพวกเขา เช่น บาร์นาบัส (ผู้มีที่ดินของตน) เขาได้ขายทรัพย์สมบัติของเขา และมอบเงินให้กับหมู่คณะ

คุณเป็นสมาชิกที่มีความกระตือรือร้นในการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหรือไม่  คุณมีส่วนร่วมในความรุ่งโรจน์ของพระเจ้าด้วยการบริจาคเวลาและความสามารถของคุณให้กับส่วนรวมบ้างหรือไม่? พระองค์ก็หวังว่าอย่างนั้น!  มิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในกลุ่มคริสตชนมีไว้เพื่อเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการประกาศข่าวดีของพระเจ้าและยกระดับลูกหลานของพระองค์ และพระเจ้าทรงประสงค์ให้คุณเป็นสมาชิกที่มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการส่งเสริมมิตรภาพในกลุ่มผู้มีความเชื่อและการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วย  ดังนั้นตัวคุณเองก็ควรมีความตั้งใจแบบเดียวกับพระองค์ด้วยเช่นกัน

ข้อคิดวันนี้
พระเจ้ามีพระประสงค์ที่จะให้คุณเป็นสมาชิกที่มีความกระตือรือร้นในการสร้างมิตรภาพในกลุ่มของผู้มีความเชื่อ และเสริมสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน  เพื่อจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ต้องถือว่า คนอื่นดีกว่า  “อย่าทำสิ่งใดในทางชิงดีกันหรือถือดี แต่จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว”   เราไม่ควรเปรียบเทียบกับคนอื่น  ไม่น่าคิดว่าความคิดเห็นของตนถูกต้องและดีเสมอ และความคิดเห็นของคนอื่นผิดหรือไม่ดี แต่ต้องถ่อมใจลง และถือว่าคนอื่นดีกว่าเรา เราทุกคนมีความสัมพันธ์พิเศษกับพระคริสต์  เรามีพระเจ้าองค์เดียว เราทุกคนได้รับความรอดโดยความเชื่อในพระเยซูองค์เดียว ดังนั้นเราต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562

คุณต้องเลือก



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่สามสิบเอ็ด -  ฉลาดเลือก
19ข้าพเจ้าอ้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกมาเป็นพยานต่อสู้ท่านว่า ในวันนี้ข้าพเจ้าได้ตั้งชีวิตและความตาย พระพรและคำสาปแช่งไว้ต่อหน้าท่าน ขอให้ท่านเลือกเอาชีวิตเถิดเพื่อท่านกับลูกหลานจะมีชีวิตอยู่ 20และเพื่อท่านจะรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน เชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์และยึดมั่นในพระองค์ เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเป็นชีวิตของท่านและจะทรงให้ท่านมีชีวิตอยู่ยาวนานในดินแดนที่ทรงปฏิญาณว่าจะประทานแก่บรรพบุรุษของท่าน คือแก่อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ
เฉลยธรรมบัญญัติ 30:19-21

บางครั้งเพราะคุณเป็นมนุษย์ที่ไม่สมบูรณ์คุณอาจรู้สึกสับสน หลายครั้งคุณเองก็จดจ่อในการตอบสนองความคาดหวังของสังคมมากจนทำให้คุณไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความคาดหวังของพระเจ้า การทำเช่นนั้นเป็นความผิดพลาดใหญ่ -หากรู้ตัวก็จงหยุดทำ และจงเริ่มแสวงหาแนวทางของพระเจ้า เพราะในขณะที่คุณได้พยายามที่จะพัฒนาตัวเองและเลือกที่จะคิดดี ทำดี พูดดี เพื่อไปสู่การเป็น "คุณ" ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณไม่ต้องรอขออนุมัติจากเพื่อนหรือคนรอบข้างของคุณ แต่ สิทธิ์นั้นมาจากผู้สร้างของคุณ ความตั้งใจดี การเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์และการยึดมั่นในพระองค์ของคุณ ทำให้พระเจ้าพอพระทัย

วันนี้คุณจะพยายามทำให้ใครถูกใจ: พระเจ้าหรือมนุษย์? ภาระหน้าที่หลักของคุณคือการเลิกจดจ่ออยู่กับการทำให้คนอื่นพอใจหรือยอมรับ โดยที่รู้ว่าสิ่งนั้นขัดต่อบทบัญญัติของพระเจ้า  แต่ภาระหน้าที่ของคุณคือพยายามอย่างขยันขันแข็งเพื่อตอบสนองความคาดหวังของพระเจ้าผู้รอบรู้และสมบูรณ์แบบ จงเชื่อใจพระองค์เสมอ รักพระองค์เสมอ สรรเสริญพระองค์เสมอ และเลือกสิ่งที่ทำให้พระองค์พึงพอใจเสมอ. จงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเติมสิ่งทั้งปวงเหล่านี้ให้  มัทธิว 6:33

ข้อคิดวันนี้
สิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือ คุณต้องเลือก ... และในไม่ช้าหนทางที่คุณเลือกเหล่านั้นก็เริ่มที่จะสร้างชีวิตของคุณ หล่อหลอมคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณต้องเลือกอย่างชาญฉลาด ... หรือหากคุณเลือกผิดคุณก็ต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจากการเลือกที่ไม่ฉลาดของตนเองไปตลอดชีวิต ดังนั้นจงเริ่มแสวงหาแนวทางของพระเจ้า เพื่อพบกับพระพรในโลกนี้และชีวิตนิรันดร์ในโลกหน้า

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2562

อุปนิสัย ต้องใช้เวลา



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่สามสิบ -  อุปนิสัย ต้องใช้เวลา
5ด้วยเหตุนี้ท่านจงพยายามทุกวิถีทางที่จะเพิ่มความดีเข้ากับความเชื่อ เพิ่มความรู้เข้ากับความดี 6เพิ่มการบังคับตนเข้ากับความรู้ เพิ่มความอดทนบากบั่นเข้ากับการบังคับตน เพิ่มการดำเนินในทางพระเจ้าเข้ากับความอดทนบากบั่น 7เพิ่มความรักฉันพี่น้องเข้ากับการดำเนินในทางพระเจ้า และเพิ่มความรักเข้ากับความรักฉันพี่น้อง 8เพราะถ้าท่านมีคุณสมบัติเหล่านี้มากยิ่งๆ ขึ้นก็จะทำให้ท่านมีประสิทธิภาพและเกิดผลในการรู้จักองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา 9แต่ถ้าผู้ใดขาดคุณสมบัติเหล่านี้ก็ตาบอดตาสั้น และลืมว่าตนได้รับการทรงชำระจากบาปในอดีตแล้ว
2เปโตร1:5-9

อุปนิสัยของคนเราถูกสร้างขึ้นอย่างช้า ๆ ตลอดช่วงเวลาของชีวิต มันคือผลรวมของการกระทำของเรา, การตัดสินใจที่ถูกต้องตลอดที่ผ่านมา, การซื่อสัตย์ต่อคำพูด, การมีคุณธรรมสูง, และทุกคำอธิษฐานที่จริงใจ อุปนิสัยของคนเราเปรียบเสมือนเหล็กที่ถูกหลอมมาอย่างดีและถูกขัดเกลาโดยคุณธรรมสองประการของความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และความอ่อนน้อมถ่อมตน เราจะเป็นคนแบบไหนนั้นคือผลพวงจากสิ่งที่เราทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเป็นเลิศไม่เกิดขึ้นจากการกระทำแค่เพียงครั้งเดียว แต่มันคือการกระทำจนเป็นอุปนิสัย

นิสัยนั้นอาจยากที่จะทำลาย เพราะเมื่อเราคุ้นเคยกับอะไรเดิม ๆ มาเป็นระยะเวลานาน จนทำจนติดเป็นนิสัยหรือความเคยชินของเราแล้วล่ะก็ สิ่งเหล่านั้นก็ย่อมยากที่จะปรับเปลี่ยน และในขณะเดียวกันนิสัยก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นมาใหม่ได้ยากเช่นเดียวกัน เพราะมันต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่เราจะคุ้นชินกับอะไรบางอย่าง แต่สิ่งที่เรียกว่าอุปนิสัยนี้เอง ที่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของผู้ที่ต้องการความสำเร็จอย่างแท้จริง ดังนั้นถ้าหากเราอยากที่จะประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ ลองเริ่มต้นถามคำถามที่ดีกับตัวเอง จากนั้นก็ตามด้วยการกระทำที่ดีซ้ำๆ เพื่อนำไปสู่คำตอบเหล่านั้น

คำถามสำหรับจิตวิญญาณ
อะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
อะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อยกระดับจิตใจของตัวเอง
คำถามสำหรับชีวิต
อะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อเพิ่มระดับความสามารถของตัวเอง
อะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อเพิ่มเวลาในชีวิตให้มากยิ่งขึ้น
คำถามสำหรับความสัมพันธ์
อะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อสร้างครอบครัวที่อบอุ่น
อะไรคือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

 เราต้องพยายามดำเนินชีวิตในแต่ละวันอย่างมียวินัย,ถือความซื่อสัตย์และศรัทธา เมื่อเราทำความซื่อสัตย์ให้กลายเป็นนิสัย มันก็ทำให้พระบิดาบนสวรรค์ของเรายิ้มและพอพระทัย "จงปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ โดยถือเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อความเจริญของท่านจะได้ปรากฏแก่คนทั้งปวง” (1 ทิโมธี 4:15)

เราแต่ละคนเป็นงานศิลปะพิเศษของพระเจ้า    พระองค์ทรงสอนและสร้างแรงบันดาลใจ, ให้ความสุข และให้กำลังใจ, ให้ความรู้แก่เรา พระเจ้าได้แสดงความคิดและความตั้งใจของพระองค์ผ่านสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างในตัวเราแต่ละคน   ให้เราทิ้งความกลัวที่ทำให้เราไม่เติบโตไปเสีย และฝึกดำเนินชีวิตติดสนิทกับพระเจ้าเพราะความจริงในพระองค์นั้นจะทำให้เราเป็นอิสระ “...ถ้าท่านทั้งหลายดำรงอยู่ในคำของเรา ท่านก็เป็นสาวกของเราอย่างแท้จริง และท่านทั้งหลายจะรู้จักสัจจะ และสัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท” (ยอห์น8:31-32) แต่เราอาจจะเจอกับปัญหาบ้างในช่วงแรกๆ จากความกลัวที่ได้พบว่าเรามีความบกพร่องทางพฤติกรรมบางอย่าง และเราเองก็ไม่ยอมรับและแก้ไขมันอย่างตรงไปตรงมา แต่ถ้าเราอยู่ในพระเจ้า พระองค์จะทรงสาดส่องแสงแห่งความจริงของพระองค์เข้ามาในชีวิตทำให้เรามองเห็นถึงความผิดพลาด, ความล้มเหลวและความวิตกกังวลต่าง ๆ ของเราเพื่อเราจะสามารถแก้ไขมันได้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงไม่สามารถเติบโตได้โดยปราศจากการถ่อมตัว และการยอมรับการสั่งสอนจากผู้อื่น

หยุดสร้างอัตลักษณ์ของตัวเองบน "ความบกพร่อง" ด้วยคำพูดที่กล่าวว่า "ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ" หรือ "ฉันจะเป็นอย่างที่ฉันอยากเป็น" ความกังวลที่ไร้สติคือถ้าเรายอมเปลี่ยนนิสัยอย่างที่เคยเป็นแล้วต่อไปเราจะเป็นอย่างไร คนรอบข้างจะรู้สึกว่าเราบ้าไปหรือเปล่า บางคนคงจะขบขันและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเราซึ่งเมื่อก่อนเราไม่ใช่เป็นคนอย่างนี้? ความกลัวแบบนี้เป็นอุปสรรคและมันทำให้การเติบโตของเราหยุดชะงักอย่างแน่นอน (คริสตจักรพระกรุณาธิคุณ)


ข้อคิดวันนี้
เมื่อคุณซื่อสัตย์ต่อคำพูดของตนเองและมีความตั้งใจดี บริสุทธิ์ใจ คุณก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
อุปนิสัยที่ดีสามารถสร้างได้จากจุดเล็ก ๆ ในชีวิตของเรา อย่างจุดที่เรียกว่านิสัยนั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นนิสัยแบบไหนก็ได้ที่จะพาเราไปสู่พระพร แต่มันต้องเป็นนิสัยที่ดีที่เหมาะสมกับพระพรเหล่านั้นด้วย   และแน่นอนว่ามันไม่ได้สร้างเสร็จเพียงแค่วันสองวัน สำหรับอุปนิสัยแห่งความสำเร็จที่ว่า มันต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน ประกอบกับการกระทำที่ต่อเนื่อง ซึ่งผลตอบแทนของความยากลำบากและระยะเวลาที่ยาวนานที่เราใช้ไปเพื่อสร้างนิสัยเหล่านั้น มันคุ้มค่าต่อการลงแรงอย่างแน่นอน เพราะมันคือพระพรในชีวิตของเรานั่นเอง  อย่าลืมว่าอุปนิสัยที่ดีนั้นต้องใช้เวลาในการพัฒนา จำไว้ว่าตัวตนของเราก็มาจากอุปนิสัยของเรา เราไม่สามารถเรียกร้องหาความซื่อสัตย์ได้นอกเสียจากว่าเราจะมีนิสัยซื่อสัตย์อยู่เสมอ

จำเอาไว้: เราต้องฝึกฝนอุปนิสัยทุกวันด้วยการพึ่งพาพระเจ้าแล้วเราจะเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น "ให้ท่านสวมสภาพใหม่ ซึ่งทรงสร้างขึ้นใหม่ตามแบบอย่างของพระเจ้า ในความชอบธรรม และความบริสุทธิ์ที่แท้จริง" (เอเฟซัส 4:24)

วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2562

นี่คือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบเก้า -  นี่คือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง
24นี่คือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง
ให้เราชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์
สดุดี118:24

ในบทสดุดีที่ 118 เตือนเราว่าวันนี้และในทุกทุกวันเป็นวันของการเฉลิมฉลองให้เราชื่นชมยินดีและเปรมปรีดิ์ พระเจ้ามอบวันใหม่นี้ให้กับเรา พระองค์ทรงเติมเต็มวันใหม่ด้วยความเป็นไปได้และพระองค์ท้าทายให้เราใช้มันเพื่อจุดประสงค์ของพระองค์   แต่เราต้องระวัง: เพราะวันนี้เป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่อีก - เพราะเมื่อมันหมดไปแล้วมันจะหายไปตลอดกาล แน่นอนความรับผิดชอบของเราคือการใช้วันนี้ในการให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้าและตามบัญญัติของพระองค์

วันนี้จงรักษาเวลาที่พระเจ้ามอบให้คุณ จงให้เกียรติ จงสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า เพราะพระองค์สมควรจะได้รับ และค้นหาความเป็นไปได้ที่ซ่อนอยู่ซึ่งพระเจ้าได้วางไว้บนเส้นทางของคุณ วันนี้เป็นของขวัญล้ำค่าจากพระเจ้าจง ใช้มันอย่างมีความสุข และรู้ค่าและนับจากนี้จงสนับสนุนให้ผู้อื่นทำเช่นเดียวกัน  เพราะวันนี้คือวันที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้าง

หากคุณสามารถให้อภัยคนที่คุณเป็นอยู่และยอมรับคนที่คุณเป็นและเชื่อในคนที่คุณจะกลายเป็น นั่นหมายถึงการที่คุณรู้จักให้อภัยตนเองและพยายามปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ตนเองเป็นคนที่ดีกว่าเมื่อวานสำหรับพระเจ้า คุณกำลังมุ่งหน้าไปหาความสุข จงฉลอง จงชมยินดีและเปรมปรีดิ์กับชีวิตของคุณเถิด

ข้อคิดวันนี้
ถ้าตอนนี้คุณไม่รู้สึกอยากฉลองหรือชื่นชมยินดีอะไรเลยเพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีพระพรเช่นคนอื่นเขา  ให้คุณเริ่มลองนับพระพรของคุณที่เคยได้รับตลอดเวลาที่ผ่านมา จดมันเป็นรายการเอาไว้ และอีกไม่นานคุณจะรู้ว่าคุณมีเหตุผลมากมายที่จะฉลองและชื่นชมกับวันใหม่ที่พระเจ้าได้ทรงมอบให้กับคุณเหมือนกับที่พระองค์ทรงมอบให้กับคนอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ให้เราขอบคุณพระเจ้าในทุกเช้าวันใหม่ที่ตื่นขึ้นมา

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Bible - แผนงานของชีวิต



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบแปด -  แผนงานของชีวิต
16พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า และเป็นประโยชน์ในการสั่งสอน การว่ากล่าวตักเตือน การแก้ไขข้อบกพร่อง และการฝึกฝนในความชอบธรรม 17เพื่อเตรียมคนของพระเจ้าให้พรักพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง
2 ทิโมธี 3:16-17

พระวจนะของพระเจ้าไม่เหมือนกับหนังสือเล่มอื่น ๆ พระคัมภีร์เป็นแผนงานสำหรับชีวิตของเราทุกคนบนโลกนี้และเพื่อชีวิตนิรันดร์ ในฐานะคริสตชนเราถูกเรียกให้ศึกษาพระวจนะอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเพื่อวางใจในพระสัญญา, และเพื่อให้เราทำตามพระบัญญัติที่พระองค์มอบให้, และเพื่อให้เราได้แบ่งปันข่าวดีนี้กับชาวโลก

 ในฐานะที่เราเป็นลูกของพระเจ้า เราต้องศึกษาพระคัมภีร์และใช้เวลาสงบเงียบเพื่ออธิษฐานและทำความเข้าใจกับพระวจนะเพื่อที่เราจะได้เข้าใจความหมายของชีวิตเรา ถ้าเราไม่ทำ ก็เท่ากับเราได้กีดกันตนเอออกจากของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงมอบไว้ให้กับเราทุกคน พระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าคือขุมทรัพย์ที่ไม่เหมือนใครเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ และเพราะว่าพระคัมภีร์ไม่เหมือนหนังสืออื่นทั่ว ๆ ไป ( ไม่ได้เขียนขึ้นโดยมนุษย์แต่พระเจ้าเป็นผู้เขียนขึ้นมา ) เราจึงต้องดูที่คำสั่งของพระองค์เพียงหนึ่งเดียวว่าเราจะอ่านพระคัมภีร์ให้เข้าใจได้อย่างไร พระคัมภีร์เป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ของเราเท่านั้น เราไม่สามารถใช้ความคิดที่ไร้สาระและจิตใจที่มีมลทินจากบาปมาเพื่อที่จะพัฒนาทำความเข้าใจ พระคัมภีร์ได้เลย เพราะว่าถ้อยคำเหล่านี้ถูกต้องและเป็นจริง ไม่มีข้อผิดพลาดหรือการโต้แย้งใด ๆ ในพระคัมภีร์ ดังนั้น ถ้าเราพบข้อความตอนใดซึ่งดูเหมือนว่าขัดแย้งต่อกันแล้วล่ะก็ เราสามารถรู้ได้ว่าเรากำลังเข้าใจข้อความนั้นไม่ถูกต้อง บ่อยครั้งที่พระเจ้าใช้ข้อความที่ขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดเพื่อเรียกร้องความสนใจของพวกเราต่อคำสอนที่สำคัญนั้น บังคับให้เราต้องศึกษาอย่างขยันขันแข็งเพิ่มมากขึ้น ไม่มีหนังสือเล่มไหนในจักรวาลนี้ที่มีความสำคัญมากไปกว่า นี้ พระเจ้าจะไม่ช่วยเหลือผู้ซึ่งละเว้นจากอำนาจพระวจนะของพระองค์ นี่คือแก่นแท้ของความสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ

ข้อคิดวันนี้
พระเจ้าตั้งใจและมีเจตนาให้คุณใช้คำพูดของพระองค์เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของคุณ พวกเราต้องศึกษาพระคัมภีร์อย่างอ่อนน้อมและเฝ้าสวดอธิษฐาน ขอให้พระเจ้าเปิดดวงตาแห่งจิตวิญญาณของเราและยอมให้เราเข้าใจในถ้อยคำของพระองค์

วันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2562

การกระทำและความเชื่อของเรา



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบเจ็ด -  การกระทำและความเชื่อของเรา
 6ดังนั้นในเมื่อท่านได้รับพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วก็จงดำเนินชีวิตในพระองค์ต่อ ไป 7ด้วยการหยั่งรากและรับการก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ มั่นคงขึ้นในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาและเต็มล้นด้วยการขอบพระคุณ
โคลีสี2:6-7

“ท่านก็เห็นแล้วความเชื่อและการกระทำของเขาทำงานควบคู่กันความเชื่อของเขาครบถ้วนสมบูรณ์โดยสิ่งที่เขาทำ”

 ยากอบ 2:27


คริสตชนอย่างเราต้องดำเนินชีวิตและทำอย่างดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าการกระทำของเรานั้นได้สะท้อนความเชื่อของเราอย่างถูกต้องที่สุด  เราจะต้องแสดงผ่านการกระทำให้ทุกคนได้เห็น ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดของเราเท่านั้น แต่การกระทำตลอดการดำเนินชีวิตของเรามันจะเป็นภาพสะท้อนที่ดีที่สุดในการบ่งบอกว่าเราเป็นลูกของพระเจ้า ไม่ใช่สักแต่พูดว่าเรารักพระเจ้า แต่เราต้องยืนยันผ่านการกระทำของเราด้วย  

เราอาจจะประกาศความเชื่อของเราในเนื้อหาจากหัวใจของเรา แต่คำประกาศของเราจะไม่มีความหมายอะไรเลย - ทั้งต่อผู้อื่นหรือต่อตัวเราเอง - เว้นเสียแต่ว่าเราจะทำให้คำพูดและการกระทเป็นไปในทิศทางเดียวกัน   ดังนั้นจงจำไว้ว่า: การดำเนินชีวิตของคุณคือภาพสะท้อนที่ดีที่สุดของความเชื่อของคุณ   หากข้อเท็จจริงนี้ทำให้คุณเกิดความกังวลว่าคุณอาจจะไม่สามารถทำมันได้เสมอต้นเสมอปลาย ขอโปรดอย่ากังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่คุณตั้งใจจะทำให้เกิดผลดีในชีวิตของคุณเลย  ขอให้คุณอธิษฐานต่อพระเจ้าและทูลขอการทรงนำจากพระเยซูคริสต์ เมื่อคุณขอแล้วคุณจะได้ เมื่อคุณเคาะ ประตูจะเปิดออก

   ในพระคัมภีร์สอนเราว่า เราต้องทำให้ความเชื่อของเราสมบูรณ์ด้วยการปฏิบัติของเรา การปฏิบัติของเราภายนอกบ่งบอกถึงความเชื่อที่อยู่ภายใน แต่สิ่งที่จะพิสูจน์ว่าเราเชื่อจริง ๆ ไม่ใช่แค่เราท่องหลักข้อเชื่อได้อย่างคล่องแคล่ว หรือสอบข้อเขียนได้อย่างไม่ผิดเลยสักข้อเดียว แต่พฤติกรรมที่แสดงออกในชีวิตประจำวันทั้งต่อหน้าและลับหลังผู้คน นี่ต่างหากคือตัววัด แล้วคุณเชื่อจริงไหมว่าจะมีวันพิพากษาคนดีและคนชั่ว? คุณเชื่อจริงไหมว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมา?  

       การกระทำของเราจะทำให้ความเชื่อสมบูรณ์    ความเชื่อที่ไม่มีการกระทำเป็นความเชื่อที่ตายแล้ว  ฉะนั้นผู้ที่จะอวดอ้างความเชื่อก็ขอให้การอ้างสมบูรณ์ด้วยการกระทำในชีวิตประจำวันของตัวเราเองด้วย

การกระทำที่เชื่อฟังของเราจะเป็นตัวแสดงออกถึงความรัก การถวายเกียรติ และคำสรรเสริญต่อพระเจ้ามากกว่าคำพูดปากเปล่าที่เราอาจพูดให้ดูดี

ข้อคิดวันนี้
คุณจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ในการดำเนินชีวิตของคุณในแต่ละวัน? คำตอบเดียวคือ โดยการเดินไปกับพระเยซูทุก ๆ วันในการดำเนินชีวิตของคุณ

ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาของลูกทั้งหลาย ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกสามารถทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับพระองค์ และกับคนอื่นได้อย่างสุดความสามารถ โปรดช่วยให้ลูกทำตามน้ำพระทัยของพระองค์และไม่เพียงแต่ด้วยพูดเท่านั้น แต่ขอให้ลูกเข้มแข็งและกล้าหาญที่จะดำเนินชีวิตอย่างดีเพื่อเป็นการยืนยันความเชื่อของลูกโดยการปฏิบัติตามคำสอนที่พระเยซูให้ไว้อย่างสม่ำเสมอในทุกวันด้วยเทอญ
 ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน


วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ความรักไม่มีที่สิ้นสุด




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบหก -  ความรักไม่มีที่สิ้นสุด
20ถ้าผู้ใดพูดว่า “ข้าพเจ้ารักพระเจ้า” แต่ยังเกลียดพี่น้องของตน ผู้นั้นก็โกหก เพราะผู้ที่ไม่รักพี่น้องซึ่งตนมองเห็นย่อมไม่สามารถรักพระเจ้าซึ่งตนมองไม่เห็น 21และพระองค์ทรงบัญชาเราไว้ว่าผู้ที่รักพระเจ้าต้องรักพี่น้องของตนด้วย
1ยอห์น 4:20-21

เมื่อเรานมัสการพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์และเชื่อฟัง เราได้เชื้อเชิญความรักของพระองค์เข้ามาในใจ ของเรา เมื่อเรานมัสการพระเจ้าด้วยใจที่เชื่อฟังและ นอบน้อม นั่นคือเราได้ยอมให้พระองค์ปกครองวันเวลาและชีวิตของเรา ในทางกลับกันเราเองก็จะยิ่งรักพระเจ้ามากขึ้นทุกวันเมื่อเราสัมผัสได้ถึงความรักที่พระองค์มีต่อเรา

การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันคือ เมื่อมีความรักก็ต้องเรียนรู้จัก การผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน ธรรมชาติของมนุษย์เราคือ การคิดว่าตัวเราเองเป็นศูนย์กลางซึ่งนำไปสู่การขัดแย้ง และแตกแยก พระธรรม โคโลสี 3:13 กล่าวไว้ว่า “จงผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน และถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกันและกัน และถ้าแม้ว่าผู้ใดมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงยกโทษให้กันและกันองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงโปรดยกโทษให้ท่านฉันใด ท่านจงกระทำอย่างนั้นเหมือนกัน” พระคัมภีร์ข้อนี้ไม่ได้หมายความว่าให้เราอะลุ่มอล่วยกับความบาป แต่ว่าให้เรารู้จักยอมรับกันและกันในความแตกต่าง ในความไม่เหมือนกัน เพราะว่าเราทั้งหลายมีข้อบกพร่องด้วยกันทั้งนั้น เราต้องให้อภัยพี่น้องถ้าเรารักพระเจ้าเราก็ต้องให้อภัยและรักเพื่อนมนุษย์ให้ได้เช่นกัน พระคัมภีร์สอนเราเสมอว่า “ทุกคนจงทำให้เพื่อนบ้านพอใจ”  วันนี้ให้คุณเปิดหัวใจของตัวเองให้กับพระเจ้า และให้คุณมีหัวใจที่เชื่อฟังเพื่อเป็นการตอบแทน ต่อความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพระองค์

ข้อคิดวันนี้
   ทำไมเราถึงต้องรักซึ่งกันและกัน ก็เพราะว่าพระเจ้ารักเราและเลือกเราก่อน เพราะฉะนั้นเราจึงต้องรักพี่น้องของเรา ทั้งชาวคริสต์ หรือต่างศาสนาก็ตาม เราต้องรู้จัก การผ่อนหนักผ่อนเบาซึ่งกันและกัน และวิธีหนึ่งที่คุณสามารถแสดงให้พระองค์เห็นถึงความรักของคุณได้ นั่นก็คือการเชื่อฟังพระองค์อย่างสุดจิตสุดใจ สุดการกระทำ เพื่อเป็นการตอบแทนต่อความรักที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพระองค์

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562

อย่าตัดสิน มิฉะนั้นท่านเองจะถูกตัดสินด้วย




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบสี่ -  อย่าตัดสิน มิฉะนั้นท่านเองจะถูกตัดสินด้วย
7เมื่อพวกเขายังถามไม่หยุด พระองค์ก็ทรงยืดพระกายขึ้นแล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าผู้ใดในพวกท่านไม่มีบาป ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างนางเป็นคนแรก” 8แล้วทรงโน้มพระกายลงเขียนที่พื้นอีก
ยอห์น 8:7-8

คำเตือนในพระธรรมของมัทธิว 7: 1-2 ได้บอกไว้อย่างชัดเจน: "1“อย่าตัดสิน มิฉะนั้นท่านเองจะถูกตัดสินด้วย 2เพราะท่านตัดสินผู้อื่นอย่างไร ท่านจะถูกตัดสินอย่างนั้น ท่านตวงให้ไปด้วยทะนานอันใด ท่านก็จะได้รับเท่ากับทะนานอันนั้น" ถึงกระนั้นแม้แต่คริสตชนที่อุทิศตนมากที่สุดก็อาจตกเป็นเหยื่อของการทดลองที่ทรงพลังและละเอียดอ่อนนี้ได้: เพราะมันคือสิ่งล่อใจต่อการทำตัวเป็นผู้พิพากษาผู้อื่น แต่ในฐานะของผู้ติดตามและผู้เชื่อในพระคริสต์เราได้รับคำสั่งให้งดพฤติกรรมดังกล่าวนี้

3เหล่าธรรมาจารย์และพวกฟาริสีนำตัวหญิงคนหนึ่งมา นางถูกจับฐานล่วงประเวณี พวกเขาให้นางยืนอยู่ต่อหน้าคนกลุ่มนั้น 4แล้วทูลพระเยซูว่า “ท่านอาจารย์ หญิงผู้นี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี 5ในหนังสือบทบัญญัติโมเสสสั่งให้เราเอาหินขว้างหญิงที่ทำอย่างนี้ ท่านจะว่าอย่างไร?” 6เขาใช้คำถามนี้เป็นกับดักเพื่อหาเหตุกล่าวโทษพระองค์  แต่พระเยซูทรงโน้มพระกายลงและทรงใช้นิ้วพระหัตถ์เขียนที่พื้น 7เมื่อพวกเขายังถามไม่หยุด พระองค์ก็ทรงยืดพระกายขึ้นแล้วตรัสกับพวกเขาว่า “ถ้าผู้ใดในพวกท่านไม่มีบาป ให้ผู้นั้นเอาหินขว้างนางเป็นคนแรก” 8แล้วทรงโน้มพระกายลงเขียนที่พื้นอีก 9ถึงตรงนี้พวกที่ได้ยินก็ทยอยออกไปทีละคน เริ่มจากคนเฒ่าคนแก่จนเหลือแต่พระเยซูกับหญิงคนนั้นซึ่งยังคงยืนอยู่ "(ยอห์น 8: 3-9) ข้อความของพระเยซูคริสต์มีความชัดเจนและไม่เพียงแต่นำมาใช้กับพวกฟาริสีในสมัยโบราณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพวกเราในทุกยุคทุกสมัยด้วย

บางครั้ง บางเหตุการณ์ เราเองอาจเผลอทำตัวคิดว่าตัวเองกำลังดำเนินคดีในฐานะทนายความหรือผู้พิพากษากับคนอื่น ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้วพระเจ้าทรงเรียกพวกเราทุกคนมาเพื่อให้เป็นพยาน

ข้อคิดวันนี้
หากคุณคิดจะตัดสินคนอื่น คุณจะต้องถูกตัดสินด้วยเช่นกัน  ดังนั้นคุณต้องหลีกเลี่ยงความคิดแบบนี้และเลือกใช้คำพูดที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผู้อื่น

วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2562

เลือกดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบสี่ -  เลือกดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า
23ในวันนั้นพวกท่านจะไม่ถามอะไรเราอีก เราบอกความจริงแก่พวกท่านว่า สิ่งใดที่พวกท่านขอในนามของเรา พระบิดาจะประทานแก่พวกท่าน 24จนถึงบัดนี้พวกท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเราเลย จงขอเถิดแล้วพวกท่านจะได้และความชื่นชมยินดีของพวกท่านจะเต็มบริบูรณ์
ยอห์น16:23-24

พระเจ้าเสนอความอุดมสมบูรณ์ให้เรามากมายผ่านทางพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ คือพระเยซู มันก็ขึ้นอยู่กับเราแต่ละคนว่าเราจะยอมรับความอุดมสมบูรณ์ของพระเจ้าหรือไม่?   เมื่อเรามอบหัวใจและวันเวลาของเราให้กับผู้ที่สร้าง เราเราจะพบกับความอุดมสมบูรณ์ผ่านพระคุณที่ไม่มีวันหมดสิ้น และการเสียสละของพระเยซูพระบุตรสุดที่รักของพระองค์ แต่เมื่อเราหันเหความสนใจของเราไปจากพระบัญญัติของพระเจ้า เราย่อมสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ทางวิญญาณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  

ทุกวันนี้คุณสนใจเรื่องอะไร คุณมุ่งเน้นไปที่คำสอนของพระเจ้าและพระประสงค์ของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของคุณหรือไม่? หรือคุณมุ่งเน้นไปกับสิ่งที่ทำให้คุณไขว้เขวหรือสิ่งล่อใจของทางโลกที่อาจนำพาความยากลำบากมาให้คุณในภายหลังได้  และคำตอบสำหรับคำถามนี้จะเป็นตัวกำหนดคุณภาพและทิศทางของแต่ละวันของคุณ เราเป็นมนุษย์มีผิดพลาดได้อยู่เสมอ แต่หากเราพยายามปรับปรุงตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเมื่อวานอย่างตั้งใจ พระพรของพระเจ้ามีไว้ให้เราตลอดการเดินทางอย่างแน่นอน

หากคุณแสวงหาความอุดมสมบูรณ์ทางวิญญาณอย่างจริงจังและจริงใจ พระผู้ช่วยให้รอดของคุณเสนอให้คุณติดตามพระองค์อย่างจริงจัง ให้ดูแบบอย่างของพระองค์และนำมาปฏิบัติให้เกิดผลดีในชีวิตจริงอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอ คุณอาจท้อแท้บ้างแต่อย่าถอย เมื่อคุณทำเช่นนั้นคุณจะได้รับความรักชีวิตและความอุดมสมบูรณ์ที่พระองค์สัญญาไว้

ข้อคิดวันนี้
อย่าพลาดความอุดมสมบูรณ์และพระคุณของพระเจ้า เพราะทุกเช้าวันใหม่เป็นของขวัญที่ถูกห่อไว้อย่างสวยงามจากพระองค์ จงค่อย ๆ แกะมันออกมา และขอบพระคุณพระองค์ทุก ๆ วัน

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2562

สร้างนิสัยที่ดี และกำจัดนิสัยที่ไม่ดี




อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบสาม -นิสัยที่ดี และนิสัยที่ไม่ดี
33อย่าให้ใครชักจูงให้หลงผิดเลย “เพื่อนเลวย่อมทำให้อุปนิสัยที่ดีเสื่อมทรามไป” 34จงกลับมีสติสัมปชัญญะอย่างที่ควรเถิดและเลิกทำบาป เพราะมีบางคนไม่รู้จักพระเจ้าเลย ที่ข้าพเจ้าพูดเช่นนี้ก็เพื่อให้ท่านละอายใจ
1โครินทร์ 15:33-34

มีคำพูดที่เก่าแก่ประโยคหนึ่ง และมันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่า ตอนแรกเราสร้างนิสัย ตอนหลังนิสัยจะสร้างเรา ตอนแรกเราเป็นนายนิสัย พอทำจนเป็นนิสัย นิสัยจะควบคุมเรานิสัยบางอย่างจะนำคุณเข้าใกล้พระเจ้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนิสัยอื่น ๆที่ไม่ดีก็จะนำคุณออกไปจากเส้นทางที่พระองค์เลือกให้กับคุณ หากคุณปรารถนาที่จะปรับปรุงจิตวิญญาณของคุณให้เติบโตแข็งแรงอย่างจริงใจคุณต้องตรวจสอบนิสัยที่ประกอบขึ้นจากองค์ประกอบในแต่ละวันของคุณอย่างซื่อสัตย์ และคุณต้องละทิ้งนิสัยในส่วนที่ไม่ดีเหล่านั้นไปเพราะมันไม่ได้เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้า

  มีหนังสือเล่มหนึ่งบอกว่า "เราเป็นทาสของอุปนิสัยของเรา" เพราะเราทำทุกอย่างตามที่นิสัยเราชอบตามที่นิสัยเราสั่งให้เราทำ เราทำตามนิสัยความเคยชิน ความชอบของเรา นักจิตวิทยาเชื่อว่า 95% ของพฤติกรรมของเราเกิดจากนิสัยที่เคยชิน มันควบคุมชีวิตของเราจริง ๆ เราไม่มีอิสระจากนิสัยของเราเลย มีหลายคนไม่ชอบนิสัยบางอย่างของตัวเอง แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้ ออกจากนิสัยไม่ได้ มันควบคุมการกระทำของเราและส่วนมากจะเป็นนิสัยไม่ดีสะมากกว่า

รม.12:2 "อย่าประพฤติตามอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจและอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม" 

ถ้าคุณวางใจในพระเจ้าและเฝ้าอธิษฐานต่อพระองค์ทูลขอความกรุณาของพระองค์ พระองค์ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ หากคุณขอให้พระองค์ช่วยคุณด้วยความจริงใจ พระเจ้าผู้สร้างจักรวาลจะช่วยคุณเอาชนะนิสัยที่คุณเคยพ่ายแพ้มาก่อน ดังนั้นถ้าในตอนแรกคุณยังเปลี่ยนแปลงหรือทำมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร จงอย่าหยุด อย่าท้อ ขอให้คุณอธิษฐานต่อไป พระเจ้ากำลังฟังและพระองค์ก็พร้อมที่จะช่วยให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นถ้าคุณทูลขอพระองค์สม่ำเสมอ ดังนั้นให้เราทูลขอในวันนี้เลย

ข้อคิดวันนี้
จงเลือกที่จะสร้างนิสัยให้ตัวเองอย่างระมัดระวัง เพราะการสร้างนิสัยอาจจะง่ายกว่าการที่จะต้องไปเปลี่ยนนิสัย เช่นนั้นถ้าเราอยากให้ภาพที่พระเจ้ามองเข้ามาในเราเป็นภาพแบบไหน   เราต้องสร้างต้องปลูกนิสัยที่ดี  เหล่านั้นขึ้นมา  ให้เราตั้งเป้าหมายที่การเปลี่ยนนิสัย โดยตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ตรงข้ามกับนิสัยเดิม ๆ ที่ไม่ดี ของเรา ไม่มีทางที่เราจะเป็นอิสระจากนิสัยเดิมของเราได้ ถ้าเรายังยอมทำตามมันทุกครั้ง พระเยซูต้องการช่วยให้เรามีอิสระ ทั้งร่างกายและจิตใจ อิสระจากการเป็นทาสของเนื้อหนัง คือนิสัยไม่ดีต่าง ๆ  ( 2คร.5:17 "เหตุฉะนั้น ถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ ผู้นั้นก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสารพัดเก่า ๆ ก็ล่วงไป นี่แนะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น")  แต่เราต้องร่วมมือกับพระองค์ เพื่อเราจะหลุดจากนิสัยไม่ดีเดิม ๆ ของเราเสียที อย่าบ่นว่าท้อใจและเบื่อหน่ายกับนิสัยไม่ดีของตัวเอง ถ้าเราแค่คิดได้แต่ไม่ลงมือทำอะไรเพื่อเปลี่ยนนิสัย แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร (โดย ศจ.ไพโรจน์   เปี่ยมเมตตาวัฒน์)



วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จงแสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า



อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบสอง -จงแสวงหาน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า
10ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้กระทำตามพระดำริของพระองค์
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์
ขอพระวิญญาณประเสริฐของพระองค์
ทรงนำข้าพระองค์ไปตามวิถีอันราบเรียบ
สดุดี143:10

พระเจ้าทรงมีแผนการสำหรับโลกของเราและชีวิตของเรา พระเจ้าไม่ได้ทำสิ่งใดโดยบังเอิญ  พระองค์มีเจตนาและความตั้งใจ น่าเสียดายสำหรับมนุษย์เรา ที่เราไม่สามารถเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ ทำไมนะเหรอ? ก็เพราะเราเป็นมนุษย์ที่มีความเข้าใจจำกัด แต่ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ แต่เราก็ควรวางใจในพระประสงค์ของพระเจ้าเสมอ

วันนี้ให้เราแสวงหาพระประสงค์ของพระเจ้าและเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์ เมื่อคุณมอบชีวิตให้กับพระองค์โดยไม่สงสัย  พระองค์จะให้ความกล้าหาญแก่คุณในการเผชิญหน้ากับความท้าทายใด ๆ ก็ตามที่ผ่านเข้ามา พระองค์จะมอบความแข็งแกร่งที่จะทำให้คุณอดทนต่อการทดลองใด ๆ ก็ได้และความรอบคอบที่จะอยู่ในความชอบธรรมของพระองค์

สถานที่ที่ปลอดภัยแห่งเดียวคือการให้ประสงค์ของพระเจ้าเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิต มันไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่มันยังเป็นที่ที่คุ้มค่าและน่าพึงพอใจที่สุด

ฉะนั้น วันนี้ ไม่มีสิ่งใดที่น่ากังวล เพราะ 'ความกังวล' เกิดเพราะเราดิ้นรนที่จะ 'แสวงหา' สิ่งที่ขาดมาเติมเต็มชีวิตให้เต็ม แต่พระเยซูคริสต์ตรัสว่า "...แต่ว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่าท่านต้องการสิ่งทั้งปวงนี้ แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้" (มธ.6:32-33)

ข่าวดี คือ 'พระองค์ทรงทราบดี' ... จึงไม่มีเหตุผลต้องวิตกสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่กล้าเผชิญเมื่อไรจะได้เห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่เราเชื่อ (ยน.11:40) ... อาจจะหวั่นไหวในหัวใจบ้าง แต่จงสั่งใจตนเองว่า "จงเข้มแข็งและกล้าหาญ เพราะผู้ที่อยู่ด้วยเสมอ คือ องค์อิมมานูเอล [พระเจ้าทรงสถิตกับเรา] ... และพระเจ้าสัญญาแล้วว่า 'เจ้าจะเกิดผลและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี การงานทุกอย่างที่ทำจะจำเริญขึ้น' จงเชื่อเท่านั้น" (ฉธบ.31:6, ยชว.1:7-9, สดด.1:3)

จงอย่าแสวงหาสิ่งที่เรา 'พอใจ' แต่จงแสวงหา 'น้ำพระทัย' และนั้นคือ พระพร และ "พระพรของพระยาห์เวห์ทำให้มั่งคั่ง และพระองค์ไม่ได้ทรงเพิ่มความโศกเศร้าเข้ากับพระพร" (สภษ.10:22) และ "พระยาห์เวห์นั้นยิ่งใหญ่ พระองค์พอพระทัยในความสมบูรณ์พูนสุขของผู้รับใช้ของพระองค์" (สดด.35:27) และเราคือ 'ผู้รับใช้' ที่อารักขาสิ่งที่พระเจ้าให้มา ฉะนั้น จงเลิกกังวล วางใจ ทำให้ดีที่สุดเพราะนั้นคือการรับใช้ และผลลัพธ์ทั้งสิ้นอยู่ในพระหัตถ์ และแน่นอนจะเกิดผลดีแก่เรา เพราะนั้นคือน้ำพระทัยของพระบิดาที่รักเราจริงๆ (1คร.4:1-2, รม.8:28, มธ.7:11, ลก.11:9-13)

พระเจ้าต้องการให้เรามีฝันที่ยิ่งใหญ่ กล้าจะลงมือทำ แล้วพระเจ้าจะทรงอวยพรให้เกิดผล (1คร.3:7, 2คร.9:10) (Ps.เนตรศักดิ์ ใสรังกา)


ข้อคิดวันนี้
เมื่อคุณให้ประสงค์ของพระเจ้าเป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตของคุณ... พระองค์จะจัดเตรียมสิ่งที่คุณต้องการและจะนำทางคุณตลอดไป



พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าพายุของคุณ อ่านมัทธิว 8:1 ถึง 11:1 ​    25 และพวกสาวกมาปลุกพระองค์ ทูลว่า “องค์พร...