อ่านพระคัมภีร์ 365 วัน – วันที่ยี่สิบแปด
- แผนงานของชีวิต
16พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้า
และเป็นประโยชน์ในการสั่งสอน การว่ากล่าวตักเตือน การแก้ไขข้อบกพร่อง
และการฝึกฝนในความชอบธรรม 17เพื่อเตรียมคนของพระเจ้าให้พรักพร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง
2 ทิโมธี 3:16-17
พระวจนะของพระเจ้าไม่เหมือนกับหนังสือเล่มอื่น ๆ
พระคัมภีร์เป็นแผนงานสำหรับชีวิตของเราทุกคนบนโลกนี้และเพื่อชีวิตนิรันดร์
ในฐานะคริสตชนเราถูกเรียกให้ศึกษาพระวจนะอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าเพื่อวางใจในพระสัญญา,
และเพื่อให้เราทำตามพระบัญญัติที่พระองค์มอบให้, และเพื่อให้เราได้แบ่งปันข่าวดีนี้กับชาวโลก
ในฐานะที่เราเป็นลูกของพระเจ้า เราต้องศึกษาพระคัมภีร์และใช้เวลาสงบเงียบเพื่ออธิษฐานและทำความเข้าใจกับพระวจนะเพื่อที่เราจะได้เข้าใจความหมายของชีวิตเรา
ถ้าเราไม่ทำ ก็เท่ากับเราได้กีดกันตนเอออกจากของขวัญล้ำค่าที่พระเจ้าทรงมอบไว้ให้กับเราทุกคน
พระวจนะศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าคือขุมทรัพย์ที่ไม่เหมือนใครเพราะมันสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้
และเพราะว่าพระคัมภีร์ไม่เหมือนหนังสืออื่นทั่ว ๆ ไป (
ไม่ได้เขียนขึ้นโดยมนุษย์แต่พระเจ้าเป็นผู้เขียนขึ้นมา )
เราจึงต้องดูที่คำสั่งของพระองค์เพียงหนึ่งเดียวว่าเราจะอ่านพระคัมภีร์ให้เข้าใจได้อย่างไร
พระคัมภีร์เป็นสิ่งที่เชื่อถือได้ของเราเท่านั้น
เราไม่สามารถใช้ความคิดที่ไร้สาระและจิตใจที่มีมลทินจากบาปมาเพื่อที่จะพัฒนาทำความเข้าใจ
พระคัมภีร์ได้เลย เพราะว่าถ้อยคำเหล่านี้ถูกต้องและเป็นจริง
ไม่มีข้อผิดพลาดหรือการโต้แย้งใด ๆ ในพระคัมภีร์ ดังนั้น
ถ้าเราพบข้อความตอนใดซึ่งดูเหมือนว่าขัดแย้งต่อกันแล้วล่ะก็
เราสามารถรู้ได้ว่าเรากำลังเข้าใจข้อความนั้นไม่ถูกต้อง
บ่อยครั้งที่พระเจ้าใช้ข้อความที่ขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดเพื่อเรียกร้องความสนใจของพวกเราต่อคำสอนที่สำคัญนั้น
บังคับให้เราต้องศึกษาอย่างขยันขันแข็งเพิ่มมากขึ้น ไม่มีหนังสือเล่มไหนในจักรวาลนี้ที่มีความสำคัญมากไปกว่า
นี้ พระเจ้าจะไม่ช่วยเหลือผู้ซึ่งละเว้นจากอำนาจพระวจนะของพระองค์
นี่คือแก่นแท้ของความสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ
ข้อคิดวันนี้
พระเจ้าตั้งใจและมีเจตนาให้คุณใช้คำพูดของพระองค์เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของคุณ
พวกเราต้องศึกษาพระคัมภีร์อย่างอ่อนน้อมและเฝ้าสวดอธิษฐาน
ขอให้พระเจ้าเปิดดวงตาแห่งจิตวิญญาณของเราและยอมให้เราเข้าใจในถ้อยคำของพระองค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น