วันที่เจ็ดสิบสอง - มันถูกลืมทั้งหมด
18ผู้ใดเป็นพระเจ้าเสมอเหมือนพระองค์
ผู้ทรงยกบาปและอภัยการล่วงละเมิดของชนหยิบมือที่เหลือ
อันเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์?
พระองค์ไม่ได้ทรงพระพิโรธอยู่เนืองนิตย์
แต่ทรงปีติยินดีที่จะแสดงพระเมตตา
19พระองค์จะทรงเอ็นดูสงสารเราอีก
จะทรงเหยียบบาปทั้งหลายของเราไว้ใต้พระบาท
และเหวี่ยงความชั่วช้าทั้งหมดของเราลงสู่ทะเลลึก
มีคาห์7:18-19
พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้อภัยบาปเราทั้งหมด
หากเพียงเราเอ่ยขอพระองค์ มันไม่ใช่แค่ข่าวดีใช่ไหม... แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ไปกว่านั้นก็คือ..พระเจ้าทรงลืมความผิดทั้งหมดของเราทันทีที่พระองค์ให้อภัยเรา มันเหมือนราวกับว่าเราไม่เคยทำผิดอะไรมาก่อนเลย
ลองนึกภาพว่าตัวคุณเองได้ลืมไปแล้วว่าเคยมีใครทำไม่ดีไว้กับคุณ
ทำให้คุณเสียหายและเสียใจมาก แต่คุณได้ให้อภัยเขาไปหมดแล้ว และคุณเลือกที่จดจำสิ่งดี
ๆ ที่เคยทำไว้ร่วมกัน และคุณเลือกที่จะเชื่อในข้อดีมากกว่าข้อเสีย มันจึงทำให้คุณสามารถอภัยให้เขาคนนั้นได้
และนั่นคือสิ่งที่พระเจ้าเห็นในตัวคุณ พระองค์ไม่ได้มองหรือยึดอยู่กับอดีตของคุณ พระองค์ทรงพร้อมและเชื่อสิ่งที่ดีในตัวคุณเสมอมา
บางครั้งมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่เราจะขอการยกโทษจากพระเจ้า
แต่กลับยากที่จะยกโทษให้กับคนอื่น เมื่อเราขอการยกโทษจากพระเจ้าครั้งใด
ลองถามตัวเองดูสักหน่อยว่า เราได้ยกโทษให้กับคนที่ทำผิดต่อเรา
หรือทำให้เราเจ็บหรือยัง??
เหนื่อยมานานแล้วหรือยังกับการที่ต้องแบกอะไรมากมายไว้กับตัวเอง
และมันก็ไม่หลุดไปสักที โกรธเขาไม่ให้อภัยเขา
ทั้งที่บางครั้งเขาก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร หรือมาแบกอะไรร่วมกับเราเลย
วางภาระนั้นลงให้พระเยซูจัดการ วางไว้ที่กางเขนของพระองค์
พระเยซูทรงรู้วิธีการจัดการกับสิ่งเหล่านั้นมากกว่าเรา ที่ไม้กางเขนนั้นมีการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่เวลานี้มีใครไหมที่เรายังไม่ให้อภัย
จงให้อภัยแก่เขา และก้าวต่อไปข้างหน้า
พระคัมภีร์บอกเราว่า
พระเจ้ารัก เมตตา และให้อภัยเสมอ ความรักของพระองค์ลบล้างความบาปได้
พระองค์ปรารถนาให้เรามีความตั้งใจที่จะให้อภัยให้กับคนอื่น... เพียงแต่เราได้
“ตัดสินใจ” และ “ตั้งใจ” ทำสิ่งนี้ด้วยความรัก และเมตตาของพระเจ้า
พระวิญญาณบริสุทธิ์ และพระคุณความรักของพระเจ้าจะหลั่งไหลเข้าสู่จิตใจของท่าน
แล้วท่านจะรู้สึกว่าการให้อภัยแก่ผู้อื่นเป็นเรื่องที่มีแต่ความชื่นชมยินดี
พระเจ้าทรงให้เราทำได้... แท้จริงแล้วการให้อภัยผู้อื่นเป็นประโยชน์ต่อตัวเอง
ที่เราจะมีความสัมพันธ์กับองค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ฟังเสียงร้องทูลของเรา
และความสุข ความชื่นชมยินดี พระพร จะท่วมท้นจิตใจของเรา
พระวจนะของพระเจ้าจึงชูจิตใจของเราว่า
“จงเอาความขมขื่น ความฉุนเฉียว ความโกรธ การทุ่มเถียง การพูดจาดูหมิ่น
รวมทั้งการร้ายทุกอย่างออกไปจากพวกท่าน แต่จงมีใจกรุณา ใจสงสาร
และใจให้อภัยแก่กันและกัน เหมือนอย่างที่พระเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านในพระคริสต์” (เอเฟซัส
4:31-32)
และถ้อยคำของพระเจ้าจากสดุดี 32:1-2 “บุคคลผู้ซึ่งการละเมิดของเขา
ได้รับอภัยก็เป็นสุข คือผู้ซึ่งบาปได้รับการกลบเกลื่อน
บุคคลซึ่งพระยาห์เวห์มิได้ทรงถือโทษก็เป็นสุข
คือผู้ที่ไม่มีการหลอกลวงในจิตใจของเขา”
ข้อคิดระหว่างวัน
มันทำให้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
ที่รู้ว่าพระเจ้าให้อภัยกับบาปของคุณ
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ลูกขอขอบพระคุณที่พระองค์ทรงอภัยลูกเสมอมา
ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกกล้าหาญพอที่จะเป็นผู้กล่าวคำขอโทษเมื่อลูกทำผิด
และเข้มแข็งพอที่จะให้อภัยต่อผู้ที่ทำร้ายลูกด้วยทางกายวาจาใจก็ดี เพื่อให้ชีวิตของลูกได้ดำเนินต่อไปโดยที่ไม่ผูกใจเจ็บ
โกรธแค้นกับใครอีกต่อไป
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้
ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
อย่าเก็บพระพรและสิ่งดี ๆที่พระเจ้าทรงมอบให้เราไว้เพียงคนเดียว
แต่จงทำให้พระพรนี้เจริญเติบโต และเกิดประโยชน์กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
เราทุกคนอาจได้รับพระพรที่แตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นคือ การวางใจ
ที่พระเจ้าทรงมอบให้เราทุกคน
และไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด ลูกจะไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี
ลูกจะแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป
อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
ไม่มีครูใดดีกว่า "พระจิตเจ้า" ไม่มีถ้อยคำใดที่ดีกว่า
"พระวาจา"
KC Love God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น