พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ หลีกเลี่ยงการหลอกลวง

 

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

หลีกเลี่ยงการหลอกลวง

อ่านเยเรมีย์ 24:1–10; 27:1 ถึง 29:32

ลิงตัวหนึ่งพูดกับลิงอีกตัวหนึ่งว่า “เราฝันว่าเราซึ่งเป็นลิงจะปกครองโลก” ลิงตัวที่สองก็ฝันซ้ำกับลิงตัวที่สาม และลิงตัวนั้นก็พูดกับอีกตัวหนึ่งซ้ำๆ

 

ไม่นาน ลิงจำนวนมากก็สวดว่า “เราทุกคนพูดแบบนั้น มันต้องเป็นความจริง เราซึ่งเป็นลิงจะปกครองโลก” แต่ลิงได้ยินเฉพาะสิ่งที่มันอยากได้ยินเท่านั้น แหล่งที่มาของข้อมูลก็คือตัวมันเอง และทุกคนรู้ดีว่าลิงไม่รู้เรื่องอะไรเลย

 

8เพราะพระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘อย่ายอมให้ผู้เผยพระวจนะของพวกเจ้าหรือผู้ทำนายของเจ้าผู้อยู่ท่ามกลางเจ้าหลอกลวงเจ้า และอย่าเชื่อความฝันซึ่งเขาทั้งหลายได้ฝันเห็น 9เพราะที่เขาเผยพระวจนะแก่เจ้าในนามของเรานั้นเป็นความเท็จ เราไม่ได้ใช้เขาไป’ พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ (เยเรมีย์ 29:8–9)

 

ไม่มีใครต้องถูกหลอกลวง การเชื่อคำโกหกเริ่มต้นด้วยการเพิกเฉยต่อความจริง พระวจนะของพระเจ้าแสดงให้ทุกคนที่มองดูพระวจนะนั้นเห็นพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับวิธีที่ผู้คนควรดำเนินชีวิต แต่เมื่อพระวจนะของพระองค์ถูกละเมิด พระเจ้าจะทรงตีสอนลูกๆ ของพระองค์ อย่างไรก็ตาม การลงโทษใดๆ ก็ตามจะไม่ไร้ซึ่งความหวัง จุดประสงค์ของพระเจ้าคือการฟื้นฟู และแรงจูงใจของพระองค์คือความรัก

 

ข้อคิดประจำวัน: ช่วงเวลาแห่งความยากลำบากคือโอกาสที่จะหวังในพระเจ้าเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การฟังอย่างแยกแยะ

 

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้

การฟังอย่างแยกแยะ

อ่านเยเรมีย์ 13:1–27; 22:1 ถึง 23:40

เมื่อต้องใช้คำพูดที่ชัดเจน ความสับสนก็เกิดขึ้นเพราะผู้เผยพระวจนะเท็จใช้ตำแหน่งของตนเพื่อพูดคำพูดของตนเอง พวกเขาแต่งเรื่องขึ้นมาซึ่งฟังดูเหมือนว่ามาจากพระเจ้าแต่มันไม่ใช่ พวกเขาพูดในสิ่งที่ผู้คนต้องการได้ยิน ดังนั้นพระเจ้าจึงถามคำถามบางอย่างผ่านผู้เผยพระวจนะที่แท้จริงว่า

 

เพราะว่าใครเล่าที่ได้ยืนอยู่ในที่ประชุมของพระยาห์เวห์

ที่จะพิเคราะห์เห็นและฟังพระวจนะของพระองค์?

หรือใครที่ใส่ใจในพระวจนะของพระองค์และเชื่อฟัง?  (เยเรมีย์ 23:18)

 

ในช่วงเวลาแห่งความสับสน พระวจนะที่ชัดเจนจากพระเจ้าเป็นสิ่งจำเป็น และในขณะเดียวกันก็มักมีเสียงอื่นแทรกเข้ามาอีกมากมาย ซึ่งเราจะต้องวัดสิ่งที่เราได้ยินแล้วเทียบกับพระวจนะของพระเจ้า ความรู้ในพระวจนะและการพึ่งพาพระวิญญาณจึงเป็นเครื่องป้องกันที่ดีที่สุดต่อสิ่งที่ปลอมแปลง ผู้เผยพระวจนะที่แท้จริงจะได้รับสารของตนในที่ประทับของพระเจ้า ผู้ที่รับฟังต้องมีความอ่อนไหวต่อพระวิญญาณด้วย

 

จิตใจที่ตื่นตัวจะพัฒนาหูที่สามารถแยกแยะได้ จิตใจที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของจิตวิญญาณจะสามารถแยกแยะเสียงต่างๆ ที่ต้องการความสนใจจากพวกเขาได้ดีขึ้น

 

เราเรียนรู้ที่จะแยกแยะระหว่างสิ่งที่ถูกต้องและผิด สิ่งที่ดีและชั่ว สิ่งที่ดีและไม่ดี และความจริงและความผิดพลาดผ่านการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในตัวเรา พระวิญญาณของพระเจ้าทรงใช้พระวจนะของพระเจ้าเพื่อเปิดเผยและสอนความจริงที่มาจากพระองค์

 

ความท้าทายสำหรับวันนี้: ทูลขอความกระจ่างจากพระเจ้าในช่วงเวลาแห่งความสับสน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่

อ่านเยเรมีย์ 46:1 ถึง 49:39

“พระมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระนามว่า พระยาห์เวห์จอมทัพ

ตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด จะมีผู้หนึ่งมา

เหมือนภูเขาทาโบร์ท่ามกลางภูเขาทั้งหลาย

และเหมือนภูเขาคารเมลข้างทะเล (เยเรมีย์ 46:18)

 

พระเจ้าทรงเลือกที่จะใช้เนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน เพื่อทำตามคำปฏิญาณของพระองค์ที่จะทำลายล้างประชาชนแห่งยูดาห์ที่หนีไปอียิปต์โดยฝ่าฝืนพระประสงค์ของพระองค์ พระเจ้าทรงประกาศพระองค์เองว่าเป็นกษัตริย์   คำประกาศของพระองค์ทำให้ชัดเจนว่าพระองค์ทรงยืนหยัดเหนือบรรดากษัตริย์และผู้ทรงอำนาจทั้งหมดของโลก และพระองค์ทรงมีแผนการของพระองค์เองในการพิพากษา

 

เมื่อก่อนเป็นอย่างไร ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น ถ้าประชาชนของพระเจ้าจะฟังพระวจนะของพระองค์ พระเจ้าจะทรงอยู่กับพวกเขาและไม่ทรงทำลายพวกเขา พระองค์จะลงโทษ แต่ในระดับที่เหมาะสมเท่านั้น ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ พระเจ้าทรงแสดงพระองค์เองว่าเป็นเจ้านายเหนือเหตุการณ์ต่างๆ ในโลก และในช่วงเวลาแห่งความวุ่นวาย พระองค์ยังคงดูแลคนของพระองค์เอง

 

ความท้าทายสำหรับวันนี้: มุ่งเน้นไปที่วิธีที่พระเจ้ายังคงทำตามสัญญาของพระองค์ต่อผู้ที่รักพระองค์ จงเชื่อฟังและยำเกรงในพระเจ้า

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ จงฟังและกลับใจ

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

จงฟังและกลับใจ

อ่านเยเรมีย์ 25:1–38; 42:1–22; 45:1–5

พระเจ้าทรงทำอย่างไรเมื่อลูกๆ ของพระองค์ปฏิเสธพระวจนะของพระองค์ เป็นเวลา 23 ปีที่เยเรมีย์ทำนายต่อประชาชนที่กบฏของยูดาห์ แต่พวกเขาไม่สนใจ และไม่ใช่แค่เยเรมีย์เท่านั้น พระเจ้าทรงส่งผู้เผยพระวจนะหลายคนมาเตือนประชาชนให้หันหลังให้กับความชั่วร้าย พระเจ้าทรงสัญญาว่าหากพวกเขาเชื่อฟัง พระองค์จะทรงให้พวกเขาอยู่ในแผ่นดินนี้ตลอดไป ในทางกลับกัน ลูกหลานของพระเจ้ากลับทำตามพระเจ้าเทียมเท็จและบูชารูปเคารพ ความอดทนและความอดกลั้นของพระเจ้ามาถึงขีดจำกัดแล้ว

 

แผ่นดินนี้ทั้งสิ้นจะถูกทิ้งร้างและเป็นที่ร้างเปล่า และบรรดาประชาชาติเหล่านี้จะปรนนิบัติกษัตริย์แห่งบาบิโลนอยู่ 70 ปี (เยเรมีย์ 25:11)

 

พระเจ้าทรงประกาศความรกร้างว่างเปล่าสำหรับแผ่นดินนี้และการถูกจองจำสำหรับประชาชน พวกเขาจะต้องอาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของบาบิโลน แต่พระเจ้าทรงกำหนดขอบเขตของการตีสอนที่พระองค์จะบังคับใช้ หลังจากผ่านไปเจ็ดสิบปี การเนรเทศจะสิ้นสุดลงและผู้คนจะกลับคืนมา อย่างไรก็ตาม การลงโทษสำหรับบาบิโลนจะเป็นการทำลายล้างชั่วนิรันดร์

 

ข้อเสนอแนะในการอธิษฐาน: พระเจ้าที่รัก ขอให้ข้าพระองค์ได้รับการตีสอนจากพระองค์ แต่โปรดช่วยข้าพระองค์จากการพิพากษาของพระองค์ด้วยเถิดพระเจ้าข้า อาเมน

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ ตอบรับการเรียก

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

ตอบรับการเรียก

อ่านเยเรมีย์ 35:1 ถึง 36:32

 

ดังนั้นพระยาห์เวห์พระเจ้าจอมทัพพระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘นี่แน่ะ เราจะนำโทษทั้งสิ้นซึ่งเราประกาศไว้มาเหนือยูดาห์ และบรรดาชาวกรุงเยรูซาเล็ม เพราะว่าเราพูดกับพวกเขาแต่เขาไม่ฟัง เราได้เรียกเขาแต่เขาไม่ตอบ”  (เยเรมีย์ 35:17)

 

เมื่อพระเจ้าตรัส พระองค์คาดหวังคำตอบ พระองค์ตรัสผ่านพระวจนะของพระองค์ และพระองค์คาดหวังให้ลูกๆ ของพระองค์ใส่ใจและปฏิบัติตาม

 

การตอบรับการเรียกของพระเจ้าหมายความว่าอย่างไร?

การตอบรับการเรียกหมายถึงการที่บุคคลนั้นปฏิบัติตามคำสั่งที่พระเจ้าประทานให้เพื่อให้พระประสงค์ของพระเจ้าปรากฏอยู่ในชีวิตของพวกเขา ชีวิตของผู้คนที่เชื่อมโยงกับพวกเขา และชีวิตของชุมชนที่พวกเขาผูกพันอยู่

 

3 คำแนะนำจากพระคัมภีร์: เราควรตอบสนองต่อการทรงเรียกของพระเจ้าอย่างไร?

-เราต้องคำนึงถึงค่าจ่ายและเต็มใจที่จะสละทุกสิ่งทุกอย่าง ...

-พระเจ้าต้องการให้เรากลับใจ (มุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลง) และรับบัพติศมา ...

-เราต้องเชื่อฟังและควรพยายามที่จะเป็นเหมือนพระเจ้าองค์บริสุทธิ์ของเรา

 

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณเพิกเฉยต่อเสียงเรียกของพระเจ้า?

หากคุณเพิกเฉยต่อเสียงเรียกของพระเจ้าในชีวิตของคุณ อาจเกิดขึ้นได้สองอย่าง คุณอาจเสียชีวิตไปกับกิจกรรมชั่วคราวอื่นๆ ที่ไม่มีคุณค่าชั่วนิรันดร์ หรือคุณอาจพบว่าพระเจ้าเริ่มเรียกร้องอย่างต่อเนื่องและพบว่าตัวเองอยู่ในท้องปลาวาฬชั่วขณะหนึ่ง หรือได้รับเวลาพักผ่อนที่ยาวนานและไม่น่าพอใจ

 

จะตอบรับเสียงเรียกของพระเจ้าอย่างไร?

-เราต้องเต็มใจที่จะละทิ้งแผนและลำดับความสำคัญของเราเอง และเปิดพื้นที่ให้พระเจ้าได้ตรัส

-จงใส่ใจ เมื่อพระเจ้าตรัสกับซามูเอล เขาเองก็ไม่ได้รู้ทันทีว่าเป็นพระเจ้า

-จงถ่อมตน เมื่อซามูเอลเข้าใจในที่สุดว่าพระเจ้ากำลังทรงเรียกเขา เขาจึงตอบสนองด้วยความถ่อมตนและเคารพ

-จงเชื่อฟัง บางครั้งการทรงเรียกของพระเจ้าอาจเป็นเรื่องน่ากลัวหรือท้าทาย และเราอาจไม่รู้สึกว่ามีคุณสมบัติหรือมีความสามารถที่จะทำสิ่งที่พระองค์ขอให้เราทำ แต่ถ้าเราวางใจในความเข้มแข็งและการทรงนำของพระเจ้า เราจะก้าวออกไปด้วยศรัทธาและทำสิ่งที่พระองค์เรียกร้องให้เราทำ

-จงแน่วแน่ บางครั้งเสียงเรียกของพระเจ้าอาจเป็นเส้นทางที่ยาวและคดเคี้ยว มีทางแยกและทางแยกมากมายตลอดทาง แต่หากเรายังคงมุ่งมั่นและจดจ่ออยู่ที่พระเจ้า เราก็สามารถเอาชนะอุปสรรคใดๆ และทำตามจุดประสงค์ของพระองค์ในชีวิตของเราได้

 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาบนสวรรค์ที่รัก เราอธิษฐานขอให้เรามีใจที่เปิดกว้างและใส่ใจเสียงของพระองค์ และขอให้เรามีความกล้าหาญและศรัทธาที่จะเชื่อฟังพระประสงค์ของพระองค์สำหรับชีวิตของเรา

 

ขอทรงช่วยให้เราถ่อมตัวและสอนง่าย โดยตระหนักว่าพระองค์เป็นผู้ควบคุมและแผนการของพระองค์สำหรับเราเป็นสิ่งที่ดี ขอทรงประทานกำลังและความเพียรพยายามให้เราเอาชนะอุปสรรคหรือความท้าทายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้เราแน่วแน่ในความมุ่งมั่นที่จะติดตามพระองค์

 

ขอให้เราเต็มใจที่จะกล่าวว่า "ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ พระเจ้าข้า" เสมอเมื่อพระองค์เรียกเรา และขอให้เราวางใจในการนำทางและการจัดเตรียมของพระองค์ขณะที่เราดำเนินชีวิตอย่างเชื่อฟังพระองค์ เราขอสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดในพระนามของพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ อาเมน

 

โดยสรุป พระเจ้ายังคงตรัสกับประชาชนของพระองค์ในปัจจุบัน เช่นเดียวกับที่พระองค์ตรัสกับประชากรของพระองค์เมื่อหลายปีก่อน คำถามคือ เรารับฟังหรือไม่ เราพร้อมรับฟัง ถ่อมตัว เชื่อฟัง และมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อการทรงเรียกของพระองค์หรือไม่ ขอให้เราเรียนรู้จากตัวอย่างของซามูเอลและตอบสนองด้วยเสียงที่ก้องกังวานว่า “ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่

ความท้าทายสำหรับวันนี้: อ่านพระคัมภีร์ด้วยความรู้สึกยำเกรงพระเจ้าอย่างเหมาะสม โดยตระหนักว่านี่เป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ตรัสกับคุณและผู้อื่นอยู่

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ หันกลับไปหาพระเจ้า

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

หันกลับไปหาพระเจ้า

อ่านเยเรมีย์ 14:1 ถึง 20:18

ในฐานะประชาชน ยูดาห์ไม่สามารถวางใจในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ไม่ว่าเยเรมีย์จะพูดถึงคำสัญญาอันเปี่ยมด้วยพระคุณหรือคำขู่ ผู้คนก็จะไม่ฟัง แต่กลับวางใจในสิ่งที่มองเห็น ยิ่งพวกเขาวางใจในสิ่งที่มองเห็นมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งห่างไกลจากพระเจ้าที่มองไม่เห็นมากขึ้นเท่านั้น ความเชื่อของพวกเขาถูกทำให้กลายเป็นความมั่นใจที่ผิดๆ ผู้ที่ถอนตัวจากความไว้วางใจในพระเจ้าจะประสบกับความสูญเสีย

 

พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “คนที่วางใจในมนุษย์ และให้เนื้อหนังเป็นกำลังของเขา และใจของเขาหันออกจากพระยาห์เวห์ คนนั้นก็เป็นที่แช่งสาป (เยเรมีย์ 17:5)

 

คำแช่งสาป มี 2 ประการคือ: ผู้คนจะสูญเสียในสิ่งที่เขามองเห็นและสิ่งที่เขารักใคร่ และพวกเขาจะสูญเสียความสัมพันธ์กับพระเจ้า หากยูดาห์ถอนตัวออกจากโลกและหันเข้าหาพระเจ้า พวกเขาจะได้รับพร และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเราจะใกล้ชิดกับโลกและจะยังคงใกล้ชิดพระเจ้าในเวลาเดียวกัน

 

ความท้าทายประจำวัน: เมื่อคุณรู้สึกว่าหัวใจของคุณจดจ่ออยู่กับสิ่งต่างๆ ในชีวิตมากกว่าพระคำของพระเจ้า ให้คุณหยุดทันทีและหันกลับไปหาพระองค์

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ จงซ่อมทางและการกระทำของเจ้าเสีย

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

จงซ่อมทางและการกระทำของเจ้าเสีย

อ่านเยเรมีย์ 7:1 ถึง 10:25; 26:1–24

 

พระยาห์เวห์จอมทัพพระเจ้าของอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า จงซ่อมทางและการกระทำของเจ้าเสีย และเราจะให้เจ้าอาศัยอยู่ในสถานที่นี้  อย่าไว้วางใจในคำหลอกลวงเหล่านี้ที่ว่า ‘นี่เป็นพระวิหารของพระยาห์เวห์ พระวิหารของพระยาห์เวห์ พระวิหารของพระยาห์เวห์’  (เยเรมีย์ 7:3-4)

 

ผู้เผยพระวจนะต้องประกาศว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลผู้สูงสุดทรงสัญญาว่าหากประชากรของพระองค์กลับใจ (เปลี่ยนความคิด การกระทำ และวิถีชีวิต) พระองค์จะทรงยอมให้พวกเขาอาศัยอยู่ในแผ่นดินของตนต่อไป

 

 ชาวยูดาห์สันนิษฐานว่าพระเจ้าจะไม่มีวันยอมให้ทำลายพระวิหารแน่นอน แต่เมื่อผู้คนไม่ถวายเกียรติพระเจ้าอย่างต่อเนื่อง พระวิหารก็พังทลายลง การสร้างอาคารพระวิหารที่ใหญ่ที่สุดและอัศจรรย์ที่สุดไม่ใช่การออกแบบอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า แต่ความปรารถนาของพระองค์คือสร้างผู้คนที่ให้เกียรติพระองค์จากใจ

 

เราเองก็อาจตกหลุมพรางเดียวกันโดยพูดว่า: “นี่คืองานของพระเจ้า!” การสร้างคริสตจักรขนาดใหญ่ มีพันธกิจที่ยิ่งใหญ่ และมีสมาชิกจำนวนมากจึงไม่ใช่จุดสนใจของพระเจ้า แต่พระองค์ทรงมุ่งเน้นที่ความบริสุทธิ์ ความชอบธรรม และความสัมพันธ์ที่ให้เกียรติพระนามของพระองค์

 

คำแนะนำในการอธิษฐาน: ข้าแต่พระเจ้า โปรดช่วยให้ข้าพระองค์ถวายเกียรติแด่พระองค์และอย่าวางใจในสถานการณ์ของข้าพระองค์

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ ความคาดหวังที่ชัดเจน

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

ความคาดหวังที่ชัดเจน

อ่านเยเรมีย์ 11:1 ถึง 12:17

“เอาล่ะ ไมเคิล” แม่ของเขาพูด “แม่อยากให้ลูกทำความสะอาดห้องก่อนออกไปเล่นข้างนอก” หลังจากที่แม่ของเขาปิดประตู เด็กชายวัย 6 ขวบก็ยัดทุกอย่างใส่ตู้เสื้อผ้าแล้วออกไปข้างนอกเพื่อเล่นกับเพื่อนๆ พอกลับมาก็โดนดุว่าไม่ทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อย ปัญหาคืออะไร? เขาไม่เข้าใจความคาดหวังของแม่

 

3เจ้าจงกล่าวแก่เขาว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ให้คนที่ไม่เชื่อฟังถ้อยคำในพันธสัญญานี้ถูกแช่งเถิด 4คือพันธสัญญาที่เราบัญชาแก่บรรพบุรุษของพวกเจ้า ผู้ซึ่งเราได้นำออกมาจากแผ่นดินอียิปต์ จากเตาไฟเหล็ก และกล่าวแก่เขาว่า จงฟังเสียงของเรา และจงทำทุกอย่างที่เราบัญชาเจ้าไว้ เจ้าจึงจะเป็นประชากรของเรา และเราจะเป็นพระเจ้าของเจ้า (เยเรมีย์ 11:3–4)

 

พระเจ้าทรงแสดงความคาดหวังของพระองค์แก่ชนชาติอิสราเอลอย่างชัดเจน พระองค์ไม่เหลือพื้นที่ว่างไว้สำหรับความเข้าใจผิด หากผู้คนเชื่อฟังพระเจ้า พวกเขาก็จะได้รับประโยชน์จากพระองค์ หากพวกเขาไม่เชื่อฟัง พวกเขาก็สามารถคาดหวังผลที่ตามมาร้ายแรงได้

 

ข้อคิดสำหรับวันนี้: ค่าเสียหายของการไม่เชื่อฟังพระเจ้านั้นสูงเกินกว่าที่เราจะจ่ายได้

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ ทรงสัตย์ซื่อเสมอ

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

ทรงสัตย์ซื่อเสมอ

อ่านเยเรมีย์ 1:1 ถึง 6:30 น

แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “เจ้าเห็นถูกต้องแล้ว เพราะเราเฝ้าดูถ้อยคำของเรา เพื่อจะทำให้สำเร็จ”  (เยเรมีย์ 1:12)

 

มันเป็นการรับรองและยืนยันอีกครั้ง ผู้เผยพระวจนะเข้าใจสิ่งนั้น พระเจ้าทรงเตือนเยเรมีย์ว่าพระองค์จะทรงทำสิ่งที่ทรงสัญญาว่าจะทำ ท่ามกลางทุกสถานการณ์ที่ผู้คนเผชิญ พระเจ้ามีบางสิ่งที่จะพูด คนของพระเจ้าเข้าใจสิ่งที่พระองค์พูด แต่พวกเขาต้องการการยืนยันอีกครั้งเมื่อพวกเขาต้องรอให้พระคำนั้นเกิดขึ้น

 

ความมั่นใจของเราไม่ใช่แค่ในคำพูดที่พูดออกไปเท่านั้น แต่ในตัวผู้ที่พูดด้วย ขณะที่เรารอ พยายามทำความเข้าใจจังหวะเวลาของพระเจ้า เป็นการดีที่จะมุ่งความสนใจไปที่ว่าพระองค์คือใคร

 

เมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ เราเห็นว่าพระเจ้าบรรลุผลสำเร็จตามที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ เพียงเพราะมันต้องใช้เวลาไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้น พระองค์ทรงสัตย์ซื่อ เมื่อเราต้องรอ เราควรเตือนตัวเองว่าพระองค์จะทรงทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จในชีวิตของเรา

 

ความท้าทายสำหรับวันนี้: เตือนตัวเองเมื่อคุณกำลังรอคอยว่าพระเจ้าทรงซื่อสัตย์ต่อพระคำของพระองค์เสมอ

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้ สิ่งที่ไม่คาดคิดและน่าทึ่ง

 

พระคำของพระเจ้าสำหรับวันนี้

สิ่งที่ไม่คาดคิดและน่าทึ่ง

อ่านฮะบากุก 1:1 ถึง 3:19

จงมองบรรดาประชาชาติ และจงดูให้ดี จงประหลาดใจ และจงตกตะลึง เพราะเรากำลังทำงานอย่างหนึ่งในสมัยของเจ้า ถึงจะบอก เจ้าก็จะไม่เชื่อ.  (ฮาบากุก 1:5)

 

สิ่งไม่คาดคิดและน่าทึ่ง—สองคำที่บรรยายแผนการของพระเจ้าสำหรับประชากรของพระองค์และอนาคตของพวกเขาได้ดีเยี่ยม จริงๆ แล้วเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงมากที่พวกเขาจะได้เห็นพระเจ้ากำลังทำงานเบื้องหลังอยู่ เหตุการณ์ต่างๆ จะเข้าใจได้เฉพาะเมื่อเรามองย้อนกลับไปเท่านั้น

 

คุณเคยมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นบ้างไหม? บางทีพระเจ้าอาจกำลังนำทางคุณในทางใดทางหนึ่ง เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น สิ่งที่ไม่คาดคิดก็อาจกลายเป็นสิ่งที่น่าทึ่งได้

 

เมื่อคุณจับตาดูพระเยซู นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงศรัทธาและความคาดหวังของคุณ ศรัทธาคือสิ่งที่ทำให้พระเจ้าสนใจ เมื่อคุณมีทัศนคติที่ศรัทธาและคาดหวัง คุณจะเปิดประตูรับพระเดชานุภาพของพระองค์ในชีวิตของคุณ วันนี้ จงเงยหน้าขึ้นมองและเปิดหัวใจของคุณแล้วลุกขึ้นสู่ชีวิตแห่งชัยชนะที่พระองค์ได้เตรียมไว้สำหรับคุณ! พระองค์ทรงทำงานอยู่เบื้องหลังเพื่อคุณและคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของคุณ พระองค์ทรงมีแผนงานที่ดีสำหรับคุณ

 

ข้อคิดสำหรับวันนี้: พระเจ้าทรงใช้สิ่งที่คาดไม่ถึงเพื่อสร้างสิ่งอัศจรรย์

 

เราสนับสนุน และท้าทายคุณ ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน

 ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

 ag.org

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot