วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2566

หนี้รัก

 


หนี้รัก

จงรักกันเพราะวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว

8อย่าติดค้างเป็นหนี้ใคร เว้นแต่หนี้ซึ่งไม่อาจจ่ายคืนได้หมด คือความรักที่มีต่อกันและกัน เพราะผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ก็ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติอย่างครบถ้วนแล้ว 9พระบัญญัติที่ว่า “อย่าล่วงประเวณี” “อย่าฆ่าคน” “อย่าลักขโมย” “อย่าโลภ” และพระบัญญัติอื่นๆ ล้วนรวมอยู่ในข้อนี้คือ “จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” 10ความรักไม่ทำร้ายเพื่อนบ้านของตน ฉะนั้นการมีความรักจึงเป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติอย่างครบถ้วนแล้ว

โรม 13:8-10

 

คุณเคยลำบากในการปฏิบัติตามพระบัญญัติสิบประการหรือไม่? คุณพบว่ามันยากเกินไปหรือไม่ที่จะเผชิญหน้ากับการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องเหล่านี้ว่าคุณจะไม่ฆ่าคนหรือไม่โกหกหรือไม่ลักขโมยหรือไม่โลภ หรือไม่ล่วงประเวณี? เปาโลบอกว่ามันง่ายมากที่จะทำสิ่งนี้ และสิ่งที่คุณต้องทำคือการแสดงความรัก  ให้เราแสดงความรักต่อผู้คนและไม่ทำร้ายพวกเขา วิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดที่เราต้องต่อสู้นี้มีเพียงสิ่งเดียวนั่นคือ ความรัก

 

คุณเคยคิดบ้างไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นในโลกนี้ ถ้าผู้คนได้รับการสอนให้รู้จักความรัก (รักให้ถูกวิธี รักเหมือนที่พระองค์ทรงรักเรา รักคนอื่นเหมือนเรารักตนเอง) แล้วพวกเขาก็ทำมันได้อย่างดี?

 

ยิ่งหนังสือโรมเผยออกมามากเท่าไหร่ เรายิ่งเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับพระคุณอันน่าอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่เรา – ในขณะที่เรายังเป็นคนบาป พระคริสต์สิ้นพระชนม์เพื่อเรา เพื่อเราจะได้เป็นบุตรของพระเจ้าและเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์ เพราะพระองค์ผู้ไม่ทรงทราบบาป ได้ถูกทำให้เป็นบาปแทนเรา เพื่อเราจะได้เป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้าในพระองค์

 

วิธีการที่พระเจ้าทรงสำแดงความชอบธรรมในชีวิตของผู้ที่เชื่อในพระองค์ คือผ่านการสำแดงชีวิตที่เปลี่ยนแปลง เมื่อเราบังเกิดใหม่ เราเริ่มเติบโตในพระคุณและรู้จักพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา เมื่อเราถวายชีวิตแด่พระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ เราก็เริ่มคล้อยตามพระฉายาและอุปมาของพระเยซูเจ้า และช่วยให้การเป็นพยานของคริสเตียนของเราเกิดผลได้

 

มีลักษณะเฉพาะบางอย่างและเครื่องหมายบ่งชี้ของผู้เชื่อที่ดำเนินชีวิตด้วยจิตวิญญาณและความจริง และชีวิตที่เปลี่ยนแปลงซึ่งใช้ของประทานแห่งพระวิญญาณและบังเกิดผลแห่งความบริสุทธิ์ เป็นประจักษ์พยานถึงการทำงานภายในของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระคริสต์ – ซึ่งถ่ายโอนไปสู่การกระทำภายนอกของชีวิตของแต่ละคน

 

มีหลักการบางอย่างที่ผู้เชื่อทางจิตวิญญาณได้รับการกระตุ้นให้นำไปปฏิบัติ และในบรรดาคุณลักษณะอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดของพระเจ้า สิ่งที่เราได้รับบัญชาให้มีส่วนร่วมและพัฒนาก็คือความรัก ซึ่งดูเหมือนจะเป็นทั้งหลักการชี้นำและจุดสูงสุดของชีวิตคริสเตียน - เพราะพระเจ้าทรงเป็นความรัก

 

แท้จริงแล้ว ความรักที่มีต่อโลกทำให้พระบิดาประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์สิ้นพระชนม์เพื่อทดแทนบาปของเราบนไม้กางเขน และความรักที่มีต่อคริสตจักรที่ตรึงพระเยซูไว้กับไม้กางเขน เพราะพระองค์ทรงรักคริสตจักรอย่างสุดหัวใจ  

 

ความรักไม่ได้เป็นเพียงหลักการชี้นำเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของบัญญัติทางศีลธรรมที่ประทานแก่ชาวอิสราเอล พระเยซูทรงย่อพระบัญญัติของโมเสสทั้งหมดเป็นคำแนะนำง่ายๆ ข้อเดียว: "จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของคุณสุดหัวใจและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง" และพระองค์ยังทรงบัญชาเหล่าสาวก (และเรา) ให้รักกันด้วยความรักเหนือธรรมชาติแบบเดียวกับที่พระองค์ทรงรักเรา

 

เปาโลไม่เพียงพยายามอธิบายว่าธรรมบัญญัติไม่สามารถช่วยเราให้รอดได้ แต่ยังระบุว่าธรรมบัญญัติเป็นเครื่องมือง่ายๆ ที่พระเจ้าใช้ระบุความต้องการพระผู้ช่วยให้รอดของเรา และด้วยเหตุนี้จึงนำมนุษย์ที่ตกสู่บาปมาสู่ศรัทธาในพระคริสต์ ซึ่งเป็น 'ชดใช้บาป' ของเรา นอกจากนี้พระองค์ยังสอนด้วยว่าความรักคือการบรรลุธรรมบัญญัติ และเราต้อง "ไม่เป็นหนี้ใครนอกจากการรักซึ่งกันและกัน เพราะผู้ที่รักเพื่อนบ้านของตนได้ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติแล้ว"

 

เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าหากความรักกลายเป็นหลักชี้นำมนุษยชาติ มนุษย์ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดบนโลกได้ แต่ความรักเหนือธรรมชาติและความชอบธรรมที่เปาโลกำลังพูดถึง เป็นความรักที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเทียบได้ของพระคริสต์ ซึ่งมอบให้แก่ผู้เชื่อฝ่ายวิญญาณเท่านั้น โดยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณที่สถิตอยู่ของพระเจ้า – และจะอยู่เหนือความเข้าใจของเราตลอดไป

 

อย่างไรก็ตาม การรักอย่างที่พระคริสต์ทรงรักนั้นไม่ใช่คำแนะนำแต่เป็นคำสั่ง ซึ่งเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเราอยู่ในพระองค์และพระองค์ทรงอยู่ในเรา หากเราต้องปฏิบัติตามกฎของพระคริสต์โดยรักผู้อื่นเหมือนที่พระคริสต์ทรงรักเรา และหากเราไม่เป็นหนี้ใครนอกจากการรักพวกเขา สิ่งนี้สามารถทำได้ในอำนาจของพระวิญญาณที่สถิตอยู่เท่านั้น

 

ขอให้เราเติบโตในพระคุณและดำเนินชีวิตด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพื่อโดยพระคุณของพระองค์ เราจะไม่เป็นหนี้ใครนอกจากการรักซึ่งกันและกันด้วยความรักที่สมบูรณ์และเหนือธรรมชาติของพระคริสต์ ให้เราดำเนินชีวิตในฐานะผู้ที่เดินในความสว่าง โดยสวมยุทธภัณฑ์ฝ่ายวิญญาณของความสว่าง ด้วยการแสดงความรักต่อกันและกัน

 

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาบนสวรรค์ ข้าพระองค์ขอบพระคุณสำหรับหนังสือพระธรรมโรมที่น่าทึ่ง ความจริงอันน่าเหลือเชื่อที่อยู่ในนั้น และบทเรียนสำคัญที่ทรงสอน โปรดประทานจิตวิญญาณแห่งการเรียนรู้แก่ข้าพระองค์ เพื่อว่าโดยพระคุณของพระองค์ ข้าพระองค์จะเรียนรู้ที่จะรักทุกคนด้วยความรักที่เหนือธรรมชาติเหมือนพระคริสต์ ขอทรงโปรดช่วยให้ข้าพระองค์ยกโทษแก่ผู้ที่คิดร้ายหรือทำร้ายข้าพระองค์ และทรงทวีความรักนิรันดร์ของพระองค์แก่ผู้อื่นภายในใจของข้าพระองค์ เพื่อการสรรเสริญและพระสิรินิรันดร์ของพระองค์ ข้าพระองค์ทูลขอสิ่งนี้ในนามพระเยซู อาเมน


ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

knowing-jesus

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...