อะไรคือเหตุผลที่พระเจ้าต้องการให้เราอยู่ที่นี่บนโลก?

 

ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่?

อะไรคือเหตุผลที่พระเจ้าต้องการให้เราอยู่ที่นี่บนโลก?

 

ทำไมเราถึงอยู่บนโลก? จุดประสงค์ของเราคืออะไร? ความหมายของชีวิตคืออะไร? เราจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือที่ที่เราควรจะอยู่?

 

แม้ว่าพระคัมภีร์จะกระตุ้นให้เราทำตามแผนของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเรา (ดู โยชูวา 22:5) แต่การค้นพบแผนของพระเจ้าอาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่เราผ่านไปไม่ได้ง่าย ซึ่งบางครั้งเราก็แอบหวังว่า..เราอยากจะมีแผนที่ที่บอกเอาไว้ชัดเจนโดยระบุรายละเอียดว่าเราจะต้องปฏิบัติอย่างไรและสรุปทุกการตัดสินใจที่สำคัญในชีวิตของเราเอาไว้ให้พร้อมสรรพ มันคงจะทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น แต่ถ้าแผนที่ดังกล่าวนี้มีอยู่จริง มันคงจะขัดขวางความเชื่อและการพึ่งพาพระเจ้าของเราในแต่ละวันมากด้วยเช่นกัน

 

แต่จงตั้งใจปฏิบัติตามบทบัญญัติและกฎเกณฑ์ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้มอบไว้กับท่าน คือจงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงดำเนินตามทางทั้งสิ้นของพระองค์ จงปฏิบัติตามพระบัญชา จงยึดมั่นในพระองค์ และปรนนิบัติพระองค์ด้วยสุดจิตสุดใจเถิด” -โยชูวา 22:5

 

แล้วแผนการของพระเจ้าสำหรับคุณคืออะไร? พระคัมภีร์สรุปหลายสิ่งหลายอย่างที่เปิดเผยแผนการของพระองค์สำหรับลูกๆ ทุกคน พระเจ้าทรงปรารถนาให้คุณรักพระองค์ (ดูเฉลยธรรมบัญญัติ 6:5) เชื่อฟังพระองค์ (ดูเฉลยธรรมบัญญัติ 6:24) เติบโตในความเชื่อ (ดู 1 เธสะโลนิกา 4:3) พัฒนาของประทานเพื่อรับใช้คริสตจักร (ดู 1 โครินธ์ 12:4 – 7) ทำความดีเพื่อผู้อื่น (ดู เอเฟซัส 2:10) ห่างจากการผิดศีลธรรมทางเพศ(ดู 1 เธสะโลนิกา 4:3) เป็นอิสระจากการรักเงินทอง ( ดู ฮีบรู 13:5) และแบ่งปันข่าวดีเรื่องพระเยซูกับผู้อื่น (ดู มัทธิว 28:18 – 20) วันนี้คุณอาจกำลังทูลขอคำแนะนำถึงขั้นตอนต่อไปสำหรับการเดินทางของชีวิตว่ามันคืออะไรและจะนำไปสู่ที่ใด โปรดจำไว้ว่ามีสิ่งหนึ่งที่คุณจะมั่นใจได้นั่นก็คือพระวจนะของพระเจ้าจะไม่นำคุณออกไปจากสิ่งเหล่านี้

 

คุณสามารถแยกแยะแผนการของพระเจ้าได้มากขึ้นผ่านการอ่านพระคัมภีร์ จากคำแนะนำอันชาญฉลาดของผู้อื่น ตลอดจนการดูแลและพัฒนาของประทานที่พระเจ้าประทานให้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด จงซื่อสัตย์ในการสวดอธิษฐาน เพราะเมื่อคุณทูลคำถามของคุณต่อพระเจ้าและพึ่งพาพระองค์ในการชี้นำคุณ พระองค์ทรงสัญญาว่าจะนำคุณไปในทิศทางที่ถูกต้อง: “ไม่ว่าท่านจะหันไปทางซ้ายหรือทางขวา หูของท่านจะได้ยินเสียงข้างหลังกล่าวว่า “นี่คือหนทาง จงเดินในทางนี้เถิด’ ” (อิสยาห์ 30:21)

 

ต่อไปนี้เป็นแนวคิดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนของพระเจ้าจากพระคัมภีร์

 

ตัวตนและจุดมุ่งหมายในชีวิตของเรา

18ทั้งหมดนี้มาจากพระเจ้าผู้ทรงให้เราคืนดีกับพระองค์โดยทางพระคริสต์ และทรงมอบหมายพันธกิจแห่งการคืนดีนี้แก่เรา 19คือพระเจ้าได้ทรงให้โลกคืนดีกับพระองค์ในพระคริสต์ ไม่ทรงถือโทษบาปของมนุษย์ และพระองค์ทรงมอบหมายเรื่องราวแห่งการคืนดีนี้ไว้กับเรา 20ฉะนั้นเราจึงเป็นทูตของพระคริสต์เสมือนหนึ่งพระเจ้าทรงร้องเรียกท่านทั้งหลายผ่านทางเรา เราจึงขอร้องท่านในนามของพระคริสต์ว่า จงคืนดีกับพระเจ้า 21พระเจ้าทรงกระทำพระองค์ผู้ปราศจากบาปให้เป็นบาปเพื่อเรา เพื่อในพระองค์เราจะกลายเป็นความชอบธรรมของพระเจ้า

– 2 โครินธ์ 5:18 – 21

 

ใน 2 โครินธ์ เปาโลบอกเราว่าบทบาทของเราในโลกในฐานะคริสเตียนคืออะไร เราต้องเป็นทูตของพระคริสต์บนโลก แสดงความรักต่อมนุษยชาติตามที่เปิดเผยในข่าวประเสริฐ เช่นเดียวกับที่เราคืนดีกับพระเจ้าโดยความเชื่อในพระคริสต์ และคนอื่นๆ ก็สามารถคืนดีกับพระเจ้าได้เช่นกัน เมื่อพระเจ้าใช้เราให้แบ่งปันข่าวสารแห่งการคืนดีกับพวกเขา

 

การทำตามแผนของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเราหมายความว่าเราสะท้อนแบบอย่างของอัครสาวก แบ่งปันข่าวประเสริฐกับผู้อื่น และแสดงให้พวกเขาเห็นถึงผลงานที่ดีของเราโดยการเป็นแบบอย่างที่ดี เช่นเดียวกับที่พระเยซูทรงบัญชาเหล่าอัครสาวกให้วางใจในพระเจ้าเมื่อพวกเขากลายเป็นผู้นำของชายและหญิง เราเองก็ต้องวางใจในพระเจ้าเช่นกันเพื่อช่วยให้เราทำสิ่งที่ถูกต้อง การเป็นคริสเตียนจึงเป็นมากกว่าแค่การไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ — แผนของพระเจ้าต้องการให้คริสเตียนเป็นทูตของพระคริสต์ ตลอดทั้งเจ็ดวันในสัปดาห์และทุกวันตลอดทั้งปี ความรักที่เรามีต่อพระคริสต์ควรประจักษ์ในใจของเราและแสดงออกผ่านคำพูดและการกระทำของเรา

 

เราเกิดมาเพื่อรับใช้

เหตุฉะนั้นเมื่อมีโอกาส ให้เราทำดีต่อคนทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคนที่อยู่ในครอบครัวแห่งความเชื่อ – กาลาเทีย 6:10

 

เมื่อเราคิดถึงแผนการของพระเจ้าสำหรับชีวิตของเรา เรามักจะจบลงด้วยการสงสัยเกี่ยวกับคำถามที่ต่างไปอย่างสิ้นเชิง: เช่น แล้วแผนสำหรับชีวิตของเราล่ะ เราเพ้อฝันว่าเราควรจะแต่งงานกับใคร เราควรทำงานอะไร เราควรอยู่ที่ไหน หรือองค์ประกอบอื่นๆ ของชีวิตที่เราควรไขว่คว้าเพื่อความสุขของเรา มีอะไร เราคิดเท่านั้น

 

สิ่งที่เราลืมไปคือแผนการของพระเจ้าที่มีสำหรับเรานั้นยิ่งใหญ่กว่าแผนการของเราเองมากนัก พระเจ้าบอกเราตลอดพระคัมภีร์ว่าเราเกิดมาเพื่อรับใช้พระองค์ ชีวิตแห่งการรับใช้หมายความว่าเราต้องรักผู้อื่นและเอาใจใส่ต่อความต้องการของพวกเขา พระเจ้าทรงเรียกให้เรามีเมตตา อ่อนโยน และให้อภัยซึ่งกันและกัน (ดู เอเฟซัส 4:32) ส่วนหนึ่งของแผนของพระเจ้าสำหรับเราคือการรับใช้ผู้อื่นในแบบที่พระองค์กำหนดไว้สำหรับเรา เช่นเดียวกับชาวสะมาเรียผู้ใจดีที่ช่วยชายที่ต้องการความช่วยเหลือในคำอุปมาของพระเยซู (ดูลูกา 10:25 – 37) เราต้องทำตามแบบอย่างของพระคริสต์และช่วยเหลือคนที่ต้องการเรามากที่สุดอย่างเชื่อฟัง

 

การเห็นคุณค่าของผู้คน

เพราะพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์ – ยอห์น 3:16

 

ในขณะที่เราได้รับเรียกให้ปฏิบัติภารกิจในการเป็นทูตของพระคริสต์ในโลกนี้ แผนการของพระเจ้าสำหรับเราขยายออกไปไกลกว่าสิ่งที่เราทำบนโลกนี้ พระองค์ทรงเรียกเราให้กลับบ้านที่อาณาจักรของพระองค์เพื่ออยู่กับพระองค์ชั่วนิรันดร์ เราเรียนรู้ในพระวรสารของยอห์นว่าแผนการของพระเจ้าที่มีต่อเราเกิดจากความรัก ความรักที่แข็งแกร่งจนยอมเสียสละพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ — พระเยซูคริสต์ — เพื่อไถ่เรา วันนี้ แม้ว่าเราอาจกังวลเกี่ยวกับวันพรุ่งนี้ — ไม่ว่าเราจะได้งานทำหรือไม่? เราจะเจอคนพิเศษคนนั้นหรือไม่?— แต่ความห่วงใยที่พระเจ้ามีต่อเรานั้นยิ่งใหญ่กว่านั้นมากนัก ความรักที่พระเจ้ามีต่อเราหมายความว่าแผนของพระองค์สำหรับเราคือหนึ่งในความรอดนิรันดร์ เราทุกคนทำบาปและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า (ดูโรม 3:23) แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์เรียกเราให้รับความรักของพระเจ้าและแบ่งปันมันกับผู้อื่น

 

เพราะพระเจ้าทรงสร้างเรา รักเรา และไถ่เราในพระคริสต์ พระองค์จึงสมควรได้รับคำสรรเสริญและเกียรติทั้งสิ้น และชีวิตของเราควรเป็นพยานถึงพระคุณและความดีงามของพระองค์

ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ

Thenivbible

ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot