ฉันเป็นใครในพระคริสต์?
รู้จักตัวตนที่แท้จริงขอคุณ:ตัวตนในพระคริสต์
ยกมือขึ้นหากคุณเคยถามคำถามนี้ว่า “ฉันเป็นใครในพระคริสต์”
ตัวตนที่แท้จริงของฉันคืออะไร? คำถามเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเข้าใจของเราในฐานะลูกๆของพระผู้เป็นเจ้า
คุณอาจเคยถามคำถามเหล่านี้มาก่อน: ฉันเป็นใคร? จุดประสงค์ของฉันคืออะไร? ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่? ฉันควรทำอย่างไรกับชีวิตของฉัน?
เราทุกคนต่างก็เคยสงสัย ดังนั้นอย่ารู้สึกว่าคุณอยู่คนเดียวหรือคุณเป็นคนคนเดียวที่ถามคำถามนี้
เราอยู่ในโลกที่ต้องแข่งขันกันทุกวันเพื่อตัวตนของเรา
ฉันเป็นใครในพระคริสต์?
ฉันเป็นใครในพระคริสต์? ตัวตนที่แท้จริงของคุณในสิ่งที่คุณเป็น ถูกระบุในพระคริสต์ ทันทีที่คุณยอมรับพระองค์เข้ามาในชีวิตในฐานะพระเจ้าและผู้ช่วยให้รอด
คุณก็เป็นของพระองค์
เราจะลืมสิ่งนี้ได้เร็วและมันง่ายมากเมื่อมีสิ่งรบกวนเรา ไม่ว่าจะเป็น
ความสับสน คำวิจารณ์ และความยุ่งเหยิงของโลกนี้
ดังนั้นหากคุณต้องการการเตือนใจตนเองในวันนี้ ว่า คุณได้รับการไถ่อย่างมีค่าโดยพระโลหิตของพระคริสต์! ซึ่งเราไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าความรักของพระบิดานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
“เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์
เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์ (ยอห์น 3:16)
คุณเป็นของพระองค์
พระองค์ทรงซื้อคุณด้วยราคาพระบุตรของพระองค์
หากเราเติบโตมาในคริสตจักรนี่เป็นเรื่องที่เราจะ
"ได้ยิน" ได้ไม่ยาก แต่เท่าที่ผ่านมาคุณเคยใช้เวลาในการพิจารณาถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้อย่างจริงจังบ้างหรือไม่? เพราะนี่คือความจริงอันทรงพลังที่เป็นแก่นแท้ของตัวตนของเรา
ลองคิดดูสักนิดเกี่ยวกับการที่พระเยซูเสียสละชีวิตเพื่อคุณ และเมื่อเรารับของประทานนี้
แสดงว่าเรายอมรับตัวตนของพระองค์อย่างเต็มที่และสมบูรณ์
เราเป็นของพระองค์ ตัวตนของพระองค์นำมาซึ่งความมั่งคั่ง อำนาจ
และความงามมากกว่าที่โลกจะมอบให้เราได้!
จงวางใบขับขี่ -ใบประกอบวิชาชีพ- บัตรประจำตัว-บัตรโรงยิม และบัตรลงทะเบียนทางการเมืองลง แล้วตระหนักว่าเรามีธงซึ่งตราสัญลักษณ์แห่งความรักอยู่เหนือเราโดยบอกว่าเราเป็นของพระองค์
(4เขาพาดิฉันไปในห้องโถงงานเลี้ยง และใครๆ
ก็เห็นว่าเขารักดิฉันมากเพียงไร เพลงโซโลมอน 2:4)!
ตัวตนของฉันในพระคริสต์หมายความว่าอย่างไร?
ก่อนอื่น เมื่อคุณอยากรู้ว่า “ฉันเป็นใครในพระคริสต์”
หรือตัวตนของฉันในพระคริสต์หมายความว่าอย่างไร? มันหมายความว่าคุณถูกรับเข้าเป็นครอบครัวของพระเจ้า
คุณไม่ถูกระบุว่าเป็นเด็กกำพร้าอีกต่อไป – หรือการถูกแยกจากพระเจ้าเพราะบาปอีก
เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ทรงไถ่เราจากบาปและเปิดทางให้เราถูกนำกลับไปหาพระบิดาของเรา
เมื่อเราสารภาพความต้องการถึงความรอด
เราก็ได้เข้ามาในครอบครัวของพระเจ้าทันทีในฐานะลูกสาวหรือลูกชายของกษัตริย์!
ดังนั้นเมื่อคุณถามว่า ฉันเป็นใครในพระคริสต์? ตอนนี้คุณได้เป็นลูกบุญธรรมของราชาแห่งราชา!
ตัวตนใหม่ของคุณหมายความว่าคุณมีอิสระในพระคริสต์
เมื่อพระเยซูสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน พระองค์ทรงปลดโซ่ตรวนแห่งความบาปเพื่อเรา
เราไม่ใช่ทาสของบาปอีกต่อไป!
หมายความว่า สิ่งที่เคยจำกัดคุณ ควบคุมคุณ และกดขี่คุณ บัดนี้มันไม่มีอำนาจเหนือคุณแล้ว! คุณเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ในพระคริสต์และโดยอำนาจของพระองค์
คุณสามารถดำเนินชีวิตอย่างอิสระได้แล้ว
ดังนั้นเมื่อคุณถามว่า ฉันเป็นใครในพระคริสต์? ตอนนี้คุณเป็นอิสระจากอำนาจของบาปและมีอิสระอย่างแท้จริงในพระคริสต์จากความบาป
ความอับอาย ความกังวล และความกลัว
นี่เป็นเรื่องจริงแม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกถึงอิสระนั้นก็ตาม การค้นพบและการเติบโตเพื่อรู้จักพระคริสต์มากขึ้นเรื่อย ๆ
จะทำให้ความเชื่อของคุณเติบโตขึ้นในเรื่องนี้ เมื่อคุณไล่ตามพระองค์ คุณจะเริ่มเชื่อพระคำของพระองค์ที่เกี่ยวกับคุณ
ฉันเป็นใครในพระคัมภีร์คริสต์
พระคัมภีร์เหล่านี้ได้บอกเราเอาไว้เกี่ยวกับ ฉันเป็นใครในพระคริสต์
เพื่อเตือนคุณถึงความจริงเหล่านี้ จงดื่มด่ำกับข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ที่ระบุเกี่ยวกับตัวตนและจุดประสงค์เพื่อให้คุณมีตัวตนที่แท้จริง!
1 ยอห์น 3:1 ความรักที่พระบิดาทรงมีต่อเราทั้งหลายนั้นใหญ่หลวงปานใดในการที่เราได้ชื่อว่าบุตรของพระเจ้า!
และเราก็เป็นเช่นนั้น! เหตุที่โลกไม่รู้จักเราก็เพราะโลกไม่รู้จักพระองค์
โปรดรู้ว่า: คุณเป็นลูกของพระเจ้า
2 โครินธ์ 5:17 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ การทรงสร้างใหม่ได้เกิดขึ้นแล้ว
สิ่งเก่าได้ล่วงไป สิ่งใหม่ได้เข้ามา!
โปรดรู้ว่า: คุณได้ถูกสร้างใหม่! อดีตของคุณไม่ได้กำหนดคุณ
คุณมีชีวิตฝ่ายวิญญาณใหม่ในพระคริสต์!
1 เปโตร 2:9 แต่พวกท่านเป็นประชากรที่พระเจ้าได้ทรงเลือกสรร
เป็นปุโรหิตหลวง เป็นชนชาติบริสุทธิ์ เป็นพลเมืองของพระเจ้า
เพื่อท่านจะได้ประกาศพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ผู้ทรงเรียกท่านออกจากความมืดเข้าสู่ความสว่างอันล้ำเลิศของพระองค์
โปรดรู้ว่า: คุณได้รับเลือก คุณเป็นชนชาติบริสุทธิ์ คุณเป็นพลเมืองของพระเจ้า - แม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกก็ตาม! คุณเป็นสมบัติที่พิเศษของพระเจ้า เพราะพระองค์ประทานพระบุตรให้อยู่กับเรา!
กาลาเทีย 3:26 ท่านทั้งหลายล้วนเป็นบุตรของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์
โปรดรู้ว่า: คุณเป็นลูกของพระเจ้า
พระองค์ตรัสเช่นนี้หลายครั้งเพราะทรงต้องการให้เรารู้ว่าเราเป็นของพระองค์!
กาลาเทีย 2:20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว
ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่ต่อไป พระคริสต์ต่างหากทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า
ชีวิตที่ข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในกายนี้ ข้าพเจ้าดำเนินด้วยความเชื่อในพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรักข้าพเจ้าและประทานพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า
โปรดรู้ว่า: ตอนนี้ชีวิตของคุณอยู่ในพระคริสต์
ชีวิตนี้ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ เชื่อพระวจนะของพระเจ้า
และยอมรับความจริงนี้ว่าพระองค์ทรงรักคุณมากจนยอมตายเพื่อคุณ
อิสยาห์ 43:4 เพราะเจ้าล้ำค่าและมีเกียรติในสายตาของเรา และเพราะเรารักเจ้า
เราจึงยอมเอาผู้คนแลกกับเจ้า เอาประชากรแลกกับชีวิตของเจ้า...
โปรดรู้ว่า:
คุณมีค่าและได้รับเกียรติในสายพระเนตรของพระเจ้า พระองค์รักคุณอย่างแน่นอน!
โรม 8:17 บัดนี้ถ้าเราเป็นบุตรของพระองค์แล้ว
เราก็เป็นทายาทคือเป็นทายาทของพระเจ้า และเป็นทายาทร่วมกับพระคริสต์
ถ้าเราร่วมทนทุกข์อย่างแท้จริงกับพระองค์ เราก็จะร่วมในพระเกียรติสิริของพระองค์ด้วย
โปรดรู้ว่า:
คุณเป็นลูกของพระเจ้าซึ่งหมายถึงทายาทของพระเจ้าด้วย พระองค์ไม่สามารถจะบอกคุณมากพอว่าคุณเป็นพระองค์และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระองค์
จะเป็นแบบนั้นเสมอและตลอดไป ไม่ว่าคุณจะต้องเจอบาป ความผิดพลาด
หรือความยุ่งเหยิงใดๆ พระองค์ต้องการให้คุณกลับมาหาพระองค์
อิสยาห์ 43:1 แต่บัดนี้องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสดังนี้ว่า ยาโคบเอ๋ย พระองค์ผู้ทรงสร้างท่าน อิสราเอลเอ๋ย พระองค์ผู้ทรงปั้นท่าน“อย่ากลัวเลย เพราะเราได้ไถ่เจ้าไว้แล้วเราได้เรียกชื่อเจ้า เจ้าเป็นของเรา"
อิสยาห์ 49:16 ดูเถิด เราได้สลักชื่อของเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงของเจ้าอยู่ตรงหน้าเราเสมอ..
โปรดรู้ว่า: คุณเป็นของพระองค์
การแสวงหาตัวตนของเราในพระคริสต์
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะตั้งคำถามว่า “ฉันเป็นใครในพระคริสต์”
เมื่อโลกของเราเต็มไปด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ -รายการโชว์ต่างๆ – ดารานักร้อง- ข้อความ
และสื่อล่อลวงที่ทำให้เรารู้ได้ยากมากขึ้นว่าแท้จริงแล้วเราเป็นใคร?
ในความเป็นจริงสิ่งล่อลวงเหล่านี้มันพยายามที่จะมีส่วนร่วมในตัวตนของเราและอ้างสิทธิ์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของเรา
ทุกๆอย่างต่างมีเครื่องหมายกำกับเอาไว้: เช่น
-วิชาชีพของเรา
-ความร่วมมือทางการเมือง
-การศึกษา
-นิกาย
-สถานภาพสมรส/โสด
เราถูกระบุโดยเครื่องหมายมากมายในโลกนี้
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะตั้งคำถามว่าเราเป็นใครหรือสงสัยว่าฉันเป็นใครในพระคริสต์
ยิ่งไปกว่านั้น การรู้ว่าฉันเป็นใครในพระคริสต์เป็นเครื่องบ่งชี้ตัวตนนิรันดร์ที่ไว้วางใจได้ และน่าเชื่อถือที่สุดที่คุณเคยมี!
กลยุทธ์ที่โลกทำให้เราสงสัย:
จงระวังว่าโลกพยายามที่จะขโมยตัวตนของคุณในพระคริสต์ไป และเราสรุปออกมาได้สี่กลยุทธ์ง่ายๆ
ที่มันแอบแฝงเข้ามาและทำให้เราสงสัยหรือทำให้เราลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดไป
กลยุทธ์ #1: สิ่งรบกวนที่ทำให้ไขว้เขว
ฉันเป็นใครในพระคริสต์ กับ สิ่งรบกวนที่ทำให้ไขว้เขว: เราตกหลุมรักสิ่งรบกวนที่เข้ามาทำให้เราไขว้เขว
เช่นการพบว่าตัวตนของเราขึ้นอยู่ในจำนวนเพื่อนที่เรามี- ยี่ห้อรถที่เราขับ -การกินหรูอยู่แพง-
ขนาดของที่พักอาศัย- ตำแหน่งงานของเรา -อำนาจของเรา หรือเราทำเงินได้มากเท่าไหร่
สิ่งรบกวนอาจทำให้เราสงสัยว่าเราเป็นใครและทำให้เราสูญเสียความสนใจในตัวตนที่แท้จริงของเราไปในที่สุด บ่อยแค่ไหนที่คุณละสายตาจากตัวตนของคุณและหลงไหลไปกับสิ่งรบกวนรอบๆ
ตัวคุณ? เพราะฉันเองก็เผลอตกหลุมรักไปกับสิ่งล่อลวงเหล่านี้เช่นกัน
กลยุทธ์ #2: ความสับสน
ฉันเป็นใครในพระคริสต์ กับ ความสับสน: ความสับสนทำให้เกิดความสงสัยและตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวตนของเรา หลายครั้งที่โลกบอกเราว่าเราต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้นะเพื่อเราจะกลายเป็น..... (เติมในช่องว่าง) ตัวอย่างเช่น
-คุณต้องเป็นอย่างนั้นนะ อย่างนี้นะ
-โด่งดังบนเฟซบุ๊กสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้เป็นที่รู้จักและจดจำ
-ความสวยงามภายนอกที่คนจะสังเกตเห็น
-การประสบความสำเร็จเป็นเศรษฐี
เราถูกปรนเปรอจากสื่อที่มีอิทธิพลต่างๆ ว่าอะไรคือความสวยงามและเป็นที่นิยมในสังคมและอะไรคือการประสบความสำเร็จ
ทั้งหมดนี้มันช่างน่าหลงใหลและเราเผลอคิดว่า “ใช่แล้ว! ฉันต้องการสิ่งเหล่านี้ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำเพื่อที่ฉันจะได้กลายเป็นสิ่งนั้น”
เหมือนกับที่คนอื่นๆเป็น
ดังนั้นเราจึงถูกล่อลวงให้เข้าร่วมและการเร่งรีบด้วยวิธีการของเรา ด้วยความหวังที่จะได้เป็นอย่างที่โลกกำหนดไว้
มันนำไปสู่ความสับสนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเราทำทุกอย่างที่จำเป็นทั้งที่ยังไม่ได้ทบทวนให้ดี สุดท้ายมันก็นำเราไปสู่ความสงสัยและผิดหวัง
กลยุทธ์ #3: การวิจารณ์
ฉันเป็นใครในพระคริสต์ กับ การวิจารณ์:
ไม่ว่าจะเป็นการบังคับตัวเองหรือจากความคิดเห็นเชิงลบ การวิจารณ์มักทำให้เราสงสัยในตัวตนของเราได้มากเช่นกัน
เราตกหลุมพรางของการเปรียบเทียบและการวิจารณ์ไปอย่างไม่รู้ตัว
ว่าเราสอดคล้องกับคนอื่นหรือไม่ หรือการที่เรามีความคิด และความประทับใจที่เกี่ยวกับตัวเองในเชิงลบ เพียงเพราะว่าเราไม่ได้ มาตรฐานตามแบบของโลก
โลกนี้อาจไม่ได้พูดตรงๆ แต่ข้อความมันชัดเจนว่า “คุณยังไม่ดีพอ” แต่จงจำไว้ว่า ในพระคริสต์
เรามีครบทุกสิ่ง
กลยุทธ์ #4: ความยุ่งวุ่นวาย
ฉันเป็นใครในพระคริสต์ กับ
ความยุ่งวุ่นวาย: เมื่อเราเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและยุ่งวุ่นวายกับชีวิต
เราจะจัดลำดับความสำคัญผิดเพี้ยนไป และตัวตนของเราจะถูกกีดกัน
เรากำลังยุ่งอยู่กับการเป็น มุ่งมั่น เร่งรีบ และไขว่คว้าเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดไปเรื่อยๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่เราจะตั้งคำถามกับพระเจ้าหรือลืมว่าเราเป็นใคร!
นี่เป็นกลยุทธ์ที่เกิดขึ้นและแต่ละวิธีก็สามารถทำให้เราสงสัยและตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวตนของเราว่าเราเป็นใคร?
โลกชอบให้คุณคิดว่าทุกอย่างนั้นเกี่ยวกับตัวคุณ(เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง) และคุณต้องมุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างตัวตนในแบบที่โลกกำหนดขึ้น
ฉันต้องการชี้ให้เห็นที่นี่ หรือบางทีคุณอาจจะสังเกตเห็นแล้วว่าสิ่งที่โลกกำหนดนั้นมันตรงกันข้ามกับพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง
โลกฉกฉวยและพยายามที่จะรับเอาสิ่งที่พระเจ้าประทานมาให้แล้วใช้ไปอย่างฟุ่มเฟือย
พระคริสต์แต่เพียงผู้เดียวที่ให้ตัวตนที่แท้จริงแก่เรา
เครื่องหมายประจำตัวใหม่ของคุณ: การระบุตัวตนในพระคริสต์
คุณถูกระบุตัวตนไว้ในพระคริสต์ ฉันเป็นใคร? ในพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้แตกต่างมากกับที่โลกได้ระบุตัวตนของคุณ
สิ่งสำคัญคือเราต้องรู้และได้รับการเตือนอยู่เสมอถึงตัวตนที่แท้จริงของเรา คือ โลกของเรามีการแก่งแย่งชิงดีกันมากขึ้นทุกวัน และเราต้องมีพื้นฐานที่มั่นคงในการรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราซึ่งมันสำคัญที่สุด
ฉันแนะนำให้คุณลองเขียนข้อพระคัมภีร์นี้และติดไว้ทั่วบ้าน ที่ทำงาน และในรถของคุณ ใช้กระดาษโน้ตเพื่อช่วยให้คุณได้รับการเตือนอยู่ตลอดเวลา
เขียนข้อพระคำเหล่านี้ลงในสมุดบันทึก บนกระดานดำ หรือบนกระจกห้องน้ำของคุณด้วยปากกาที่ลบออกได้
ฉันเป็นใครในพระคริสต์? ตัวตนที่แท้จริงของเราพบได้ในองค์พระผู้เป็นเจ้า
เราเป็นของพระองค์และไม่มีสิ่งใดที่โลกมอบให้ได้หรือมีสิ่งล่อใจใดมาเทียบได้กับสิ่งที่เราได้รับจากการเป็นลูกของพระองค์
จุดประสงค์ของเราอยู่ในมาระโก 12:30-31: 30จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านอย่างสุดใจ สุดจิต
สุดความคิด และสุดกำลังของท่าน’ 31ส่วนข้อที่สองคือ
‘จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ ไม่มีบทบัญญัติใดใหญ่กว่าสองข้อนี้”
หลังจากนี้ให้เรามาเฝ้าจับตาดูกันว่า...เราเป็นใครและเรากำลังถูกเรียกให้ทำอะไร!
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อธิษฐานขอให้พระองค์ทรงไขหัวใจของข้าพระองค์
เพื่อข้าพระองค์จะได้มีชีวิตอยู่อย่างเต็มที่เพื่อระบุตัวตนที่แท้จริงของข้าพระองค์ในพระองค์
โปรดประทานการสำแดงที่ชัดเจนแก่ข้าพระองค์เพื่อให้ข้าพระองค์เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเห็นข้าพระองค์
ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้ยืนหยัดในความจริงของพระองค์ต่อการโจมตีของศัตรูและปกป้องจิตใจข้าพระองค์ด้วยความระแวดระวัง
(สุภาษิต 4:23) อธิษฐานในนามพระเยซู อาเมน
ที่สำคัญที่สุด จงระแวดระวังใจของเจ้า
เพราะทุกสิ่งที่เจ้าทำล้วนไหลออกมาจากใจ
-สุภาษิต 4:23
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
raiseyoursword
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น