วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เยเซเบล - กับความรุนแรง

 


เยเซเบล - ความรุนแรง

แล้วเยเซเบลก็ส่งผู้สื่อสารไปบอกเอลียาห์ว่า “ถ้าพรุ่งนี้ เวลานี้ เราไม่ได้ทำชีวิตของเจ้าให้เหมือนอย่างชีวิตของคนเหล่านั้นแล้ว ก็ให้พระทั้งหลายทำอย่างนั้นกับเรา และทำให้หนักกว่า”

1 พงศ์กษัตริย์ 19: 2

เยเซเบลเป็นหนึ่งในคนชั่วร้ายในคัมภีร์ไบเบิล เธอชอบใช้ความรุนแรงและคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก เธอยังฆ่าผู้เผยพระวจนะของพระเจ้าหลายคนและเธอก็ฆ่าเอลียาห์ด้วย ในพระคัมภีร์บอกไว้ว่า คุณจะได้เก็บเกี่ยวสิ่งที่คุณหว่านออกไปซึ่งมันหมายความว่าคุณจะได้รับในสิ่งที่คุณให้กับคนอื่นไว้เช่นกัน เนื่องจากความชั่วของเยเซเบล นางจึงจบลงด้วยความตายอันน่าสยดสยอง

คุณอาจรู้จักเพื่อนบางคนที่โรงเรียนหรือที่ทำงานที่ชอบทะเลาะ เอะอะ โวยวาย หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว บ้างก็ด้วยวาจา บ้างก็ด้วยการกระทำ  หากคุณกระทำการรุนแรงต่อคนอื่นไม่ว่าจะด้วยวาจา หรือการกระทำ จงอย่าลืมว่าความรุนแรงนั้นมันจะกลับมาหาคุณอย่างแน่นอน จงอย่าเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงเพราะมันมีค่าเท่ากับคุณกำลังเชิญชวนให้ผู้อื่นกลับมาใช้ความรุนแรงต่อตัวคุณและอาจส่งผลต่อคนที่คุณรักด้วย

"วิญญาณเยเซเบล” เป็นวิญญาณที่เด่นในการควบคม (Controlling Spirit) คำว่า “เยเซเบล” ในภาษาฮีบรูคือ “Isavel” ซึ่งเป็นสตรีที่มีความชั่วร้ายมาก “เยเซเบล” มีความหมายว่า "ไม่มีผู้ร่วมอาศัยด้วย"  ดังนั้นวิญญาณเยเซเบลหรือวิญญาณการควบคุมนั้นจึงเป็นวิญญาณที่มีท่าทีปฏิเสธที่จะอาศัยอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และจะควบคุมผู้ที่มีใจขมขื่น

ดัง นั้นเราจึงต้องตระหนักถึงวิญญาณเหล่านี้ที่เข้ามาครอบครองหรือควบคุมอยู่ใน ชีวิตของเรา ควบคุมอยู่ในครอบครัวของเรา ควบคุมอยู่ในคนรอบข้างของเรา หรือแม้แต่ในพระศาสนจักรของเราด้วย จงเข้มแข็งในศรัทธา หากเราต้องเผชิญหน้ากับวิญาณร้ายอย่างเยเซเบล อย่ายอมให้สถานการณ์ร้ายใดๆ เข้ามาทำให้ศรัทธาของเราสั่นคลอน อย่าให้เราโอนอ่อนไปตามแรงกดดันนั้นๆ เพราะความหดหู่ท้อใจมักทำให้เรามองเห็นปัญหาใหญ่เกินกว่าตัวปัญหาจริงๆ เสมอ อย่าวิตกกับสิ่งใดๆ ถ้าคุนเดินในทางแห่งน้ำพระทัยของพระเจ้า เชื่อเถอะว่า ไม่มีทางใดที่จะปลอดภัยและนำไปสู่พระพรเท่ากับทางที่พระเจ้าเรียกให้คุณเดิน!!!

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระเยซูคริสต์ ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกอย่าเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงต่อคนอื่นไม่ว่าจะด้วยการกระทำ หรือด้วยคำพูด โปรดช่วยทำให้ลูกรู้จักสงบอารมณ์และขอพระองค์มอบสติปัญญาให้แก่ลูกในการแก้ไขปัญหาด้วยเทอญ   อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 emunahinyeshua.blogspot.com

เฟสถ้อยคำแห่งการเยียวยาและกำลังใจ

วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2563

 


ชาวมีเดียนที่โหดร้าย

พวกมีเดียนพ่ายแพ้คนอิสราเอล ไม่อาจยกศีรษะขึ้นอีกได้เลย และแผ่นดินก็สงบสุขในสมัยกิเดโอนถึง 40 ปี

ผู้วินิจฉัย 8:28

ชาวมีเดียนโหดร้ายต่อประชากรของพระเจ้า ชาวมีเดียนได้ทำลายพืชผลของอิสราเอล    ชาวอิสราเอลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า ดังนั้นพระองค์จึงตั้งผู้นำชื่อกิเดโอน เขาได้รวบรวมผู้ชายชาวอิสราเอลและตั้งเป็นกองทัพ ชาวมีเดียนได้ชุมนุมกันเพื่อจะเข้าโจมตีอิสราเอล พระเจ้าพูดกับกิเดโอนว่า “พวกที่อยู่กับเจ้ามีมากเกินไป ดังนั้นจงประกาศว่าผู้ใดที่กลัวก็ให้ผู้นั้นกลับ(บ้าน)ไปเสีย” มีทหารของกิเดโอนจำนวนมากได้เดินทางกลับบ้าน แต่พระเจ้าพูดกับกิเดโอนอีกว่า “ทหารของเจ้ายังมากอยู่ จงพาพวกเขาไปที่ริมน้ำแล้วเราจะทำการทดสอบพวกเขาให้เจ้าที่นั่น” กิเดโอนจึงพาทหารลงไปที่ริมน้ำเพื่อดื่มน้ำ มีทหารจำนวนมากคุกเข่าลงดื่มน้ำเหมือนสุนัข แต่มีเพียง 300 คนเท่านั้นที่ใช้มือวักน้ำดื่ม แล้วพระเจ้าจึงพูดว่า “โดยทหาร 300 นายที่ดื่มน้ำจากมือของพวกเขาเราจะทำให้เจ้าได้รับชัยชนะเหนือพวกมีเดียน”

กุญแจสำคัญที่กิเดโอนถูกลิดกองกำลังลงเหลือเพียง 300 คน ก็เพื่อเขาจะได้ติดสนิทกับพระเจ้ามากขึ้น จดจ่อกับพระเจ้ามากขึ้น ฝึกฟังเสียงการทรงนำจากพระเจ้ามากขึ้น รับสติปัญญาและกำลังความสามารถ ฤทธิ์เดช และพระคุณจากพระเจ้าที่ดีกว่าและยิ่งใหญ่กว่าของตัวเขาเอง!  และในที่สุด ผู้ที่ถูกลิด ก็จะเกิดความเชื่อ ความรัก และความหวังใจในพระเจ้าเข้มแข็งขึ้น พึ่งพาฤทธิ์อำนาจและพระคุณพระเจ้ามากขึ้น จนสามารถรบชนะ หรือมีชัยชนะเหนืออุปสรรคปัญหาใหญ่โตได้ เพราะการติดสนิทและการตระหนักชัดถึงการอยู่ด้วยของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง!

ทหารสามร้อยนายได้เข้าล้อมค่ายชาวมีเดียนในตอนกลางคืน จากนั้นพวกเขาก็เป่าเขาสัตว์และเคาะหม้อให้แตกแล้วตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า “ดาบของพระเยโฮวาห์และของกิเดโอน” สิ่งเหล่านี้ทำให้ทหารชาวมีเดียนตกใจและเกิดการโกลาหลอย่างยิ่ง พวกเขาฆ่าฟันกันเองและล้มตายจำนวนมาก ส่วนทหารที่เหลือก็รีบหนีออกไปจากค่าย ดังนั้นชาวอิสราเอลจึงได้รับชัยชนะเหนือพวกมีเดียน

พระเจ้ารักประชากรของพระองค์และพระองค์จะลงโทษคนเลวที่ทำร้ายพวกเขา คุณควรจะดีใจเพราะว่าตอนนี้คุณก็เป็นหนึ่งในประชากรของพระเจ้า ดังนั้นพระองค์กำลังมองมาที่คุณ คุณควรจะรู้สึกถึงความรักและรู้สึกปลอดภัยเพราะพระเจ้าดูแลคนที่รักพระองค์

ข้อคิด

พี่น้องที่รักทั้งหลาย ถึงแม้ว่าเราจะมีกำลังน้อยหรือมีจำนวนน้อยเหมือนกับกองทหารของกิเดโอน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้าเราก็สามารถมีชัยชนะเหนือศัตรูของเราคือมารซาตานได้ มารซาตานจะต่อสู้กับทุคนที่เชื่อและดำเนินชีวิตติดตามทางของพระเยซู แต่พระเจ้าสำแดงแก่เราว่าเราสามารถมีอำนาจเหนือมารซาตานผ่านเรื่องราวของกิเดโอน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

เฟสบุคGoodnews

 globalrecordings.net

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2563

อย่าอิจฉาทางของคนชั่ว

 




อย่าอิจฉาทางของคนชั่ว

ในชีวิตจริงของใครหลายๆคน บางครั้งก็เกิดความรู้สึกท้อแท้ ในการทำความดี ต่อเพื่อนมนุษย์หรือต่อองค์กรมันเป็นเพราะความดีไม่สามารถเอาชนะความอยุติธรรมของมนุษย์ได้เลย แต่ ถ้าคุณเชื่อมั่นในพระเจ้าและยังคงทำความดีต่อไป คุณจะได้เห็นสิ่งที่พระเจ้าเตรียมไว้สำหรับคุณ บางครั้งพระเจ้าอาจจะใช้เหตุการณ์ที่ทำให้คุณคับข้องใจหรือใช้ผู้คนเข้ามาในชีวิตแล้วทำให้ คุณรู้สึกอึดอัดใจ รู้สึกถึงการเอาเปรียบ รู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม พระเจ้าอาจจะใช้สถานการณ์นี้เข้ามาเพื่อเปลี่ยนแปลงและนำพาคุณออกไปจากที่ที่คุณเคยอยู่มานานแสนนาน

บางครั้งหากมีใครมาพูดมาแนะนำให้คุณเดินออกมาจากที่ๆคุณเคยอยู่ คุณก็อาจไม่เชื่อเขาหรอก คุณต้องเจอมันด้วยตัวเอง พระเจ้าจะใช้สถานการณ์ในชีวิตเป็นตัวช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างเด็ดเดี่ยว แล้วถ้าคุณไม่ฝืนและยังคงเชื่อมั่นในพระเจ้า คุณจะได้พบพระพรอีกมากมายที่พระองค์เตรียมไว้สำหรับคุณ เพราะว่า พระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความยุติธรรม

ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้รับความยุติธรรมจากสังคมเพื่อนมนุษย์แต่ขอให้คุณมั่นใจว่าพระเจ้ามีความยุติธรรมให้กับเราเสมอไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายหรือจะลำบากแค่ไหนขอให้คุณเชื่อมั่นว่าถ้าคุณตั้งไจและยึดมั่นทำความดีโดยไม่ได้ขัดต่อพระบัญญัติของพระองค์คุณจะได้รับความยุติธรรมจากพระองค์เสมอ

พระองค์ไม่เคยมาสายแต่พระองค์มาทันเวลาเสมอ และถ้าหากคุณเชื่อฟังในการนำของพระองค์พระองค์จะนำพาคุณไปอยู่ในที่ที่ใช่ในที่ที่เป็นที่ของคุณและคุณจะประสบความสำเร็จในชีวิต ส่วนหน้าที่ของเราก็คือการให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้วในอดีตและอย่าให้สิ่งนั้นมาทำร้ายจิตใจของเราอีกต่อไป หน้าที่ของเราก็แค่เชื่อว่าพระเจ้าจะนำสิ่งที่ดีมาให้ในชีวิตของเรา

หน้าที่ของการเป็นลูกของพระเจ้าหมายถึงการให้อภัยผู้อื่นโดยไม่มีข้อแม้เพราะว่าพระเจ้าก็ทรงให้อภัยเราอย่างไม่มีข้อแม้เช่นกัน

การขอที่คุณไม่ต้องอายคือการขอโทษ

การให้ที่เราไม่ต้องเสียอะไรเลยก็คือการให้อภัย

ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน


อับซาโลม - การกบฏ



อับซาโลม - การกบฏ

ขณะเมื่อบรรดาพระราชโอรสทรงดำเนินอยู่ตามทาง มีข่าวไปถึงดาวิดว่า “อับซาโลมประหารพระราชโอรสของพระราชาทั้งหมดแล้ว ไม่เหลืออยู่สักองค์เดียว”

2 ซามูเอล 13:30

อับซาโลมเป็นโอรสของกษัตริย์ดาวิด ลักษณะวิญญาณอับซาโลมจะมีทักษะในการพูดโน้มนาวสูง  , ฉลาดในสร้างภาพ , เก่ง , ใจเย็น , เขาทำทุกอย่างซึ่งดูเหมือนดี  "แต่"..มีแรงจูงใจแอบแฝง(คดเคี้ยว คดโกงแบบผิดๆ) จนทำให้หลายคนหลงเชื่อและคล้อยตาม เช่น กษัตรย์ดาวิด และ คนอิสราเอล เขามีท่าทีที่เสแสร้ง และ โกหกหลอกลวงผู้อื่น , เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง(เป็นใหญ่) , เห็นแก่ตัว , ไม่จริงใจ , ใช้คนอื่นเป็นสะพานเพื่อไปถึงความสำเร็จ, เป็นผู้ชักใย และบงการอยู่เบื้องหลังในเรื่องต่างๆ เขาพยายามที่จะขโมยบัลลังก์จากบิดา พระคัมภีร์อธิบาย "ลักษณะของอับซาโลม" ใน 2 ซามูเอล 14:25 : แต่ในบรรดาคนอิสราเอล #ไม่มีผู้ใดรูปงามน่าชมอย่างอับซาโลม ตั้งแต่ฝ่าเท้าของท่านจนถึงกระหม่อมของท่านไม่มีตำหนิในตัวท่านเลย เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่มีผู้คนต้องการให้เขาเป็นกษัตริย์แทนพ่อของเขา อับซาโลมจึงวางแผนกบฏเพื่อขึ้นเป็นกษัตริย์แทนพ่อ เขายังฆ่าพี่น้องของเขาเองด้วย แต่ในที่สุดอับซาโลมก็ถูกจับและถูกสังหาร เรื่องของเขาสอนให้เราละรึกว่าคนที่คิดการกบฏมักมีจุดจบแบบไม่สวยแน่นอน

สาเหตุที่อับซาโลมก่อกบฏ นอกจากเขาจะเชื่อคำของอาหิโธเฟลอย่างง่ายๆ แต่สาเหตุลึกๆในใจก็คือเขาก็มีความแค้นเป็นทุนเดิมเช่นกัน เรื่องของเขาเริ่มมาจากการที่น้องสาวของเขาที่ชื่อทามาร์  ถูก อัมโนน โอรสอีกคนของดาวิด “ขืนใจ” ดาวิดเมื่อรู้เรื่องนี้ก็กริ้ว แต่ไม่ได้มีลงโทษอะไร สำหรับ อับซาโลม แล้ว การไม่ได้ทำอะไรเลยของดาวิด มีความหมายว่าเขาต้องเรียกร้องความยุติธรรมด้วยมือของเขาเอง นั่นคือการ ล้างแค้น

บางครั้งมันง่ายที่จะรู้ว่าอะไรถูกและอะไรผิด แต่ครั้งนี้อับซาโลมเลือกทำสิ่งผิดอย่างแน่นอนและชัดเจนมาก เพราะเขาเลือกก่อกบฏต่อพระบิดาของเขาซึ่งเป็นกษัตริย์ ความเย่อหยิ่งและการหาประโยชน์ให้กับตัวเองเป็นเหตุให้หลายชีวิตต้องเจอกับความสูญเสีย

พระเจ้าเองก็ไม่ชอบเมื่อเห็นคนหนุ่มสาวต่อต้าน ขัดขืน ดื้อรั้นต่อพ่อแม่ของตน คุณไม่ควรต่อต้านกฎระเบียบของโรงเรียนหรือต่อต้านผู้อื่นที่มีอำนาจเหนือคุณ(กฎระเบียบควรมีหลักการและเหตุผลที่ได้รับการยอมรับและมีความยุติธรรม ที่สำคัญกฎนั้นต้องสร้างมาเพื่อเสริมสร้างให้คนทุกคนเป็นคนดี)   จงให้เกียรติและเคารพพ่อแม่-ครู และผู้ใหญ่คนอื่น ๆ ในชีวิตของคุณ การกบฏมักนำมาซึ่งปัญหาทุกครั้ง

ถ้าเรามีลูกวัยเล็กๆ เราก็คงจะวางขอบเขตให้ลูกอยู่ เพื่อที่จะช่วยรักษาลูกให้ปลอดภัย และถ้าลูกอยากไปเล่นที่ถนน เราก็คงจะบอกว่า “ไม่” แม้ว่าลูกจะร้องไห้ เพราะว่าเรารู้ถึงอันตรายนั้นดี แม้ว่าลูกจะไม่รู้และเข้าใจเลยก็ตามในทํานองเดียวกัน พระเจ้าได้ทรงวางขอบเขตไว้เพื่อปกป้องเรา พระบัญญัติทั้งหลายของพระองค์มิได้ขโมยเอาเสรีภาพของเราไป แต่พระบัญญัติเหล่านั้นได้ให้ขอบเขตที่ปลอดภัยแก่เรา ที่เราจะสามารถมีอิสรภาพได้ตามที่พระเจ้าทรงมีไว้เพื่อเรา

บางครั้งปัญหาความยุ่งยากต่างๆที่เกิดขึ้น  มันทำให้เรารู้ว่าเราทุกคนต่างมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน แต่ที่สำคัญที่สุดก็เพื่อให้เรารู้ว่า เราสามารถพึ่งพาพระเจ้าผู้ไม่มีขีดข้อจำกัดได้เสมอ จงขอสติปัญญาจากพระเจ้าว่าเราควรจะตอบสนองและมีท่าทีอย่างไร?

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ถึงแม้ว่าบางครั้งคนอื่นอาจจะทำให้ลูกต้องรู้สึกเสียใจ น้อยใจบ้าง แต่ขอพระองค์โปรดเตือนสติให้ลูกยึดหลักความรักและรู้จักเคารพต่อบิดามารดา อย่าปล่อยให้อารมณ์มานำพาชีวิตของลูกไปในทางบาป ลูกไม่ต้องการดำเนินชีวิตโดยมีทัศนคติที่ต่อต้าน-ดื้อรั้นขัดต่อบทบัญญัติของพระองค์ โปรดประทานสติปัญญาให้ลูกได้กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง และให้ลูกกระทำด้วยความซื่อสัตย์ ในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

เฟสบุคผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ 

 choojaiproject.org

 suthailand.org

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ความโลภของเดวิด

 


เดวิด - ความโลภ

3ดาวิดทรงส่งคนไปไต่ถามเรื่องผู้หญิงคนนั้น และเขาทูลว่า “หญิงนี้คือบัทเชบา บุตรีของเอลีอัม ภรรยาของอุรียาห์คนฮิตไทต์ไม่ใช่หรือ พ่ะย่ะค่ะ?” 4ดาวิดก็ทรงส่งพวกผู้สื่อสารไป และเขาก็นำนางมา นางมาเฝ้าพระองค์ แล้วพระองค์ทรงหลับนอนกับนาง (พอดีนางได้ชำระตัวจากมลทินของนางแล้ว) แล้วนางก็กลับไปบ้านของนาง

2 ซามูเอล 11: 3-4

เดวิดเป็นฮีโร่เมื่อตอนที่เขายังเด็ก แต่พอโตขึ้นเขาเริ่มมีความโลภ เขาเป็นพระราชา เขามีเงินและอำนาจมากมาย เขาสามารถมีอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ แต่เขาต้องการมากกว่านั้น และเมื่อเขาเห็นนางบัทเซบาและต้องการเธอ แต่เธอแต่งงานแล้ว เดวิดจึงคิดแผนฆ่าสามีเธอและแต่งงานกับเธอ ความโลภทำให้เขาอยากได้สิ่งที่ไม่ใช่ของเขา เขาทั้งทำผิดประเวณีและฆาตกรรม จนกระทั่งผู้​พยากรณ์​นาธันมาเผชิญหน้ากับเขาและตักเตือนเขา ทำให้เขารู้สึกผิดและขอการให้อภัย และพระเจ้าก็ยกโทษให้เขา แต่ดาวิดก็ต้องชดใช้บาปของเขา แต่คงจะดีกว่านี้มากถ้าดาวิดจะรู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เขาและไม่ปรารถนาสิ่งที่เขาไม่ควรมี 

ตัวคุณเองก็เช่นกันอย่าโลภ อยากได้ในสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา เมื่อพระเจ้าอวยพรให้คุณแล้วไม่ว่าจะดูเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่ในสายตาเพื่อนมนุษย์ แต่สิ่งนั้นมีค่าและสำคัญต่อคุณเสมอเพราะมันคือสิ่งที่พระเจ้ามอบให้กับคุณ และเพราะพระองค์รู้ดีกว่าใครว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นที่สุดสำหรับคุณ สิ่งเดียวที่คุณไม่ควรละเลย นั่นคือการมีใจขอบพระคุณ

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกไม่ต้องการที่จะเป็นคนโลภ อยากได้ของคนอื่น หรือครอบครองในสิ่งที่ไม่ใช่ของตน ดังนั้นขอพระองค์โปรดสัมผัสหัวใจของลูก เพื่อให้ลูกรู้จักที่จะขอบคุณสำหรับสิ่งที่ลูกมีอยู่แล้ว และให้ลูกกล้าหาญที่จะแสดงความยินดี-ความจริงใจเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี-มีความสุข ในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ไม่เชื่อฟัง

 


ฟาโรห์ - ไม่ยอมฟัง

ฟาโรห์ตรัสว่า “พระยาห์เวห์นั้นเป็นใครเล่า? เราจึงจะต้องฟังเสียงของพระองค์และปล่อยคนอิสราเอลไป เราไม่รู้จักพระยาห์เวห์ และยิ่งกว่านั้น เราจะไม่ปล่อยคนอิสราเอลไปเป็นอันขาด”

อพยพ 5: 2

โมเสสไปหาฟาโรห์พร้อมกับสาสน์ของพระเจ้าเพื่อขอให้เขาปลดปล่อยชาวอิสราเอลจากการเป็นทาส แต่ฟาโรห์ปฏิเสธที่จะฟัง เขาคงคิดว่าตนเองมีพลังมากกว่าพระเจ้าของกลุ่มคนที่เป็นทาสอย่างชาวอิสราเอล  เขาดูถูกว่าถ้าหากพระเจ้าของชาวอิสราเอลมีอำนาจมากจริงๆ คนพวกนี้คงไม่ต้องตกเป็นทาสของเขา

ถึงแม้ว่าพระเจ้าจะสำแดงฤทธิ์เดชผ่านภัยพิบัติมากมายในอียิปต์ แต่ฟาโรห์ก็ยังไม่ยอมฟังโมเสส ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เขาต้องชดใช้อย่างมากด้วยการสูญเสียลูกชายของเขาไปด้วยโรคระบาดและกองทัพของเขาต้องจมอยู่ในทะเลแดง

ไม่ว่าคุณจะตกอยู่ในสถานการณ์ใด ๆ ก็ตาม คุณต้องมั่นใจว่าตัวคุณได้เลือกที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกันกับพระเจ้า!   เพราะพระองค์เป็นฝ่ายที่ชนะเสมอ หลายคนอาจมีคำถามต่อว่า แล้ฉันจะรู้ได้อย่างไรละ?ว่าฉันอยู่ข้างพระเจ้าหรือยัง? คำตอบคือ คุณต้องฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ ซึ่งคุณสามารถอ่านศึกษษเพิ่มเติมได้จากพระคัมภีร์

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกรู้จักฟังเมื่อพระองค์ตรัสกับลูกผ่านทางพระวจนะของพระองค์ หรือเวลาที่ลูกอธิษฐาน หรือเมื่อมีคนอื่นมาให้คำแนะนำกับลูก ขออย่าให้ลูกปฏิเสธโอกาสนั้น เพราะว่าลูกต้องการอยู่เคียงข้างพระองค์

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563

เราทุกคนคือผู้รับใช้ของพระเจ้า

 


พระเจ้าให้คุณมาอยู่ในโลกนี้เพื่อทำประโยชน์

 “ ความฉลาดของมนุษย์ทำให้เขาโกรธช้า และการให้อภัยความผิดก็เป็นศักดิ์ศรีแก่เขา”

สุภาษิต 19:11

สิ่งที่ต้องการพูดถึงในวันนี้คือ“ วิญญาณแห่งการกระทำความผิด” ผมเชื่อว่ามันเป็นเครื่องมือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ศัตรูใช้เพื่อทำลายสายสัมพันธ์ของพระเจ้า-ทำลายมิตรภาพความสัมพันธ์และทำลายชีวิตการแต่งงาน ทุกสิ่งล้วนถูกทำลายโดยวิญญาณนี้  นี่เป็นเหตุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการปิดกั้นตัวเราเองจากพระคริสต์

“เราเป็นคนรับใช้ของพระคริสต์”

1 โครินธ์ 4:1–5

คำว่าผู้รับใช้เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเรา เพราะเราทุกคนคือผู้รับใช้ของพระเจ้า พระเจ้าได้ให้เราเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ในงานที่ต่างกัน ตามของประทานและความสามารถที่พระเจ้าประทานให้ ชีวิตของเราถูกสร้างมาเพื่อการรับใช้พระเจ้า

พระเยซูตรัสว่า "ใครไม่มีเหตุสะดุดในตัวเรา คนนั้นก็เป็นสุข”

มัทธิว 11: 6

ให้คุณลองนึกภาพดูว่า หากพระเจ้าทรงตัดสินใจใช้คนที่มีอดีตอาชญากรมาปฏิบัติศาสนกิจคุณจะเชื่อเขาหรือไม่? คุณจะตอบสนองเขาอย่างไร? หลายคนในที่นี้คงขุ่นเคืองและพูดในใจว่า ฉันจะไม่มีวันได้รับสิ่งใดจากพระเจ้าผ่านทางคน ๆ นี้แน่นอน ความคิดแน่วแน่แบบนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของความอหังการที่จะสร้างฐานในใจให้“ วิญญาณแห่งความผิด” ดำเนินและเติบโตจนกว่าเราจะสำนึกผิด

ลองย้อนเวลากลับไปเพื่อพิจารณาปฏิกิริยาของคุณเอง ยกตัวอย่างเช่น หากพระเจ้านำ“ เซาโล” เข้ามาท่ามกลางคุณ คุณจะยอมรับเซาโล ตัวตนคนเก่า ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนแปลงตนเองมาเป็นเปาโลได้หรือไม่? หรือ คุณจะปฏิเสธบุคคลที่พระเจ้าทรงเลือกเพียงเพราะสิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับอดีตของพวกเขามาก่อน?  หรือถ้าในวันหนึ่ง ดาวิด(เด็กเลี้ยงแกะก่อนที่จะมาเป็นกษัตริย์) มายืนอยู่ต่อหน้าคุณและมีคนบอกว่าเขาจะได้รับการยกเว้นในฐานะที่พระเจ้าเจิมไว้หรือคุณจะขุ่นเคืองใจกับการเลือกของพระเจ้าหรือไม่?

หากคุณเลือกที่จะปกป้องใจตัวเองและต่อต้านอารมณ์ขุ่นเคืองไม่ให้มันมาขับเคลื่อนชีวิต แล้วยอมรับให้พระเจ้าใช้สิ่งที่พระองค์ทรงเลือกมาแล้วสำหรับคุณ บางทีพระองค์อาจจะเลือกใช้คุณเพื่อไปทำอะไรบางอย่างในชีวิตของผู้เชื่อคนอื่นๆบ้างก็ได้ ต่อให้คุณเองก็เคยทำผิดพลาดมาก่อน  พระองค์อาจเลือกใช้คุณได้เช่นกัน ขอเพียงคุณมีใจนบนอบ และเชื่อฟังพระเจ้าอยู่เสมอ พระเจ้าอาจจะเรียกคุณให้ทำสิ่งใหม่ๆ ก็ได้ ที่สำคัญ…อย่าพึ่งบอกว่าไม่ใช่ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลอง และไม่ได้เกี่ยวว่าใครดีกว่าหรือเก่งกว่า เพราะว่าพระเจ้าไม่ได้เรียกให้เรามาแข่งขันกัน แต่พระเจ้าทรงเรียกให้เราทำ ก็คือเรียกให้เรามาทำ

พระคัมภีร์กล่าวไว้ว่า มนุษย์มีหน้าที่รับผิดชอบที่จะรับหรือปฏิเสธพระคุณของพระเจ้าได้ พระเยซูคริสต์เคาะอยู่ที่ประตูใจของทุกคน หน้าที่ของเราคือเปิดประตูและให้พระองค์เสด็จเข้ามาถ้าเราไม่เปิดประตูใจของเรา พระองค์ก็ไม่ยอมเข้ามา เพราะการเปิดประตูต้อนรับเป็นหน้าที่ของเรา ดังนั้นอย่าตัดสินใครเพียงแค่ภูมิหลัง ภาพลักษณ์ภายนอก หรืออดีตของเขา เพราะพระเจ้าอาจใช้คนที่ดูต่ำต้อยที่สุดในสายตาโลกมาเพื่อทำอะไรบางอย่างในชีวิตของเราก็ได้ พระเจ้าอาจจะพูดกับคุณผ่านคนบางคนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ หรือใช้สถานการณ์บางอย่างที่เฉพาะเจาะจงกับคุณ เพราะว่าทุกอย่างไม่มีคำว่าบังเอิญสำหรับพระเจ้า

 พี่น้องที่รักในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าได้ทรงเรียกเรา ให้เป็นคนรับใช้ของพระองค์ ขอให้เราเป็นคนรับใช้ที่เกิดผล เป็นที่พอพระทัยและเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า โดยเป็นผู้ที่มุ่งมองไปที่พระเจ้า เป็นผู้ที่ไว้ใจได้ และเป็นผู้รับใช้ที่อดทน

เครดิต พ่อช้าง

การไม่เชื่อฟังพระเจ้าของซาอูล

 


ซาอูล – การเปลี่ยนใจ ไม่เชื่อฟังพระเจ้า

7ซาอูลจึงรับสั่งกับพวกมหาดเล็กของพระองค์ว่า “จงไปค้นหาหญิงคนทรงให้เรา เพื่อเราจะได้ไปหานางและถามนางดู” และมหาดเล็กก็กราบทูลว่า “ดูเถิด มีหญิงคนทรงคนหนึ่งอยู่ที่บ้านเอนโดร์”

8ซาอูลจึงปลอมพระองค์และทรงฉลองพระองค์อย่างอื่น เสด็จออกไปพร้อมกับชายสองคน ไปหาหญิงคนทรงในเวลากลางคืน พระองค์ตรัสว่า “ขอทำนายให้ฉันโดยการเข้าทรง และจงเรียกคนนั้นที่ฉันจะบอกเธอขึ้นมา”

1 ซามูเอล 28: 7-8

เดิมซาอูลเป็นคนดี พระเจ้าได้เลือกให้เขาให้เป็นกษัตริย์ แต่แล้วเขาก็เริ่มหันเหไปจากพระเจ้า เมื่อพระเจ้าเริ่มแสดงความโปรดปรานต่อดาวิด ซาอูลพยายามหาทางเพื่อสังหารดาวิด ในที่สุดซาอูลก็หันใจของเขาห่างจากพระเจ้าไม่เชื่อฟังพระเจ้า เขาหันไปคุยกับคนทรง  เพื่อขอคำแนะนำจากนาง

คุณอาจเคยเชื่อฟังพระเจ้าเมื่อครั้งที่คุณยังเด็กและถึงตอนนี้คุณก็อาจจะยังทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่ แต่มื่ออายุมากขึ้นคุณก็อย่าเป็นเหมือนซาอูล เพราะมีบางคนคิดว่าเมื่อพวกเขาโตขึ้นพวกเขาจะรู้มากกว่าพระเจ้า เก่งมากขึ้น  แต่พวกเขากลับทำมันไม่ได้  ขอให้คุณใช้ชีวิตอยู่ใกล้ชิดกับพระเจ้า ใช้ชีวิตสนิทสัมพันธ์กับพระองค์เป็นการส่วนตัวในทุกๆ วันและพระองค์จะอยู่ใกล้คุณ

ในชีวิตของเรา ในวัยต่าง ๆ กันก็จะมีสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดในชีวิตของเราแตกต่างกันไป เช่น ในวัยเด็ก ก็จะเห็นว่าการที่ได้อยู่กับพ่อแม่ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด พอโตมา ก็อาจเห็นว่าการได้งานที่ดี ได้เรียนสูง ๆ มีฐานะที่ดี จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แล้วเราในฐานะคริสตชนที่เชื่อในพระเจ้า สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตที่พระเจ้าทรงปรารถนาจากชีวิตของเรา คืออะไร? คำตอบคือ สิ่งที่พระเจ้าทรงต้องการให้เรายึดมั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเรา คือ พระวจนะของพระองค์

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ขอพระองค์ทรงช่วยให้ลูกยอมรับในส่วนที่ทำผิดและสารภาพต่อพระองค์ เมื่อลูกทำผิดต่อพระองค์   และขอให้ลูกเข้มแข็งมั่นคงที่จะนำพระธรรมของพระองค์มาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต ทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตครอบครัว เพื่อลูกจะได้รู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตของลูก โปรดช่วยให้ลูกเชื่อฟังพระองค์อยู่เสมอเพื่อที่ลูกจะได้ไม่เป็นเหมือนอย่างซาอูล ในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 followhissteps.com 

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563

 


โกลิอัท - ความภาคภูมิใจในตนเอง

เขายืนตะโกนทางแนวรบของอิสราเอลว่า “พวกเจ้าออกมาเพื่อเตรียมทำสงครามทำไมเล่า? ข้าเป็นคนฟีลิสเตียไม่ใช่หรือ? พวกเจ้าก็เป็นข้ารับใช้ของซาอูลไม่ใช่หรือ? จงเลือกชายคนหนึ่งแทนพวกเจ้า ให้เขาลงมาหาข้า

1 ซามูเอล 17: 8

โกลิอัทเป็นทหารที่ตัวใหญ่มาก! เขาสูงมากกว่าเก้าฟุต ดูตัวใหญ่กว่าใคร ๆ ที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ โกลิอัทคิดว่าเขาสามารถเอาชนะใครก็ได้ และด้วยความภาคภูมิใจในตัวเองของเขาเขาจึงล้อเลียนกองทัพของพระเจ้า โกลิอัท​ไม่​นับถือ​​พระเจ้า และ​พระเจ้า​จะ​จัด​การ​เขาพระคัมภีร์กล่าวว่าความภาคภูมิใจมาก่อนการล่มสลายซึ่งหมายความว่าใครก็ตามที่หยิ่งผยองจะถูกทำให้ถ่อมลง

 โกลิอัทถูกทำให้ถ่อมลง เขาไม่เพียง แต่พ่ายแพ้เท่านั้น แต่เขายังถูกเด็กที่ไม่มีอาวุธพิเศษอะไรในมือนอกเสียจากเชือก​สำหรับ​เหวี่ยง​หินและหินอีกสองสามก้อน   ความภาคภูมิใจหมายความว่าคุณกำลังคิดว่าคุณดีกว่าใคร ๆ และไม่มีใครชอบคนที่ทำตัวแบบนั้น

พระเจ้าต้องการให้คุณอ่อนน้อมถ่อมตนซึ่งหมายถึงการขอบคุณพระองค์สำหรับสิ่งที่คุณทำได้ดีและรู้จักชื่นชมผู้อื่นและมีน้ำใจต่อผู้อื่นเสมอ


คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกไม่อยากเป็นคนเจ้าเล่ห์เหมือนโกลิอัท ลูกขอขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงช่วยพัฒนาลูกให้มีท่าทีที่ถูกต้องต่อทุกคำพูดและคำแนะนำที่เข้ามา โดยการเจิมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในขณะที่ลูกตอบสนองด้วยความถ่อมใจต่อพระคำของพระองค์ นำมาซึ่งผลลัพธ์และทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตของลูก ในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions


วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ความอิจฉา

 


พี่น้องของโยเซฟ - ความอิจฉา

ฝ่ายอิสราเอลรักโยเซฟมากกว่าบุตรชายทั้งหมดของท่าน เพราะโยเซฟเกิดมาเมื่อท่านแก่แล้ว บิดาทำเสื้อคลุมยาวมีแขนให้แก่โยเซฟ 4เมื่อพวกพี่ชายเห็นว่าบิดารักโยเซฟมากกว่าพวกเขา จึงเกลียดโยเซฟและพูดดีกับท่านไม่ได้

ปฐมกาล 37: 3-4

 พ่อของโยเซฟรักเขามากจนมอบเสื้อคลุมหลากสีให้เขา เสื้อผ้าที่มีสีสันและสวยงามเช่นนี้หายากมากในสมัยพระคัมภีร์ไบเบิล และเกินกว่าที่คุณสามารถจินตนาการได้ว่าสิ่งนี้สามารถทำให้พี่น้องของโยเซฟเกิดความรู้สึกอิจฉามาก นี่อาจจะเป็นเหมือนกับชีวิตของคนเราที่อาจมีบางครั้งที่เราเห็นพ่อแม่ดูแลใส่ใจพี่หรือน้องเป็นพิเศษ  ซื้อของหรือให้ของขวัญกับน้องที่ดูพิเศษกว่าสิ่งที่คุณเคยได้รับ  จนบางครั้งคุณอาจเคยรู้สึกอิจฉาน้อง ๆของคุณ เพราะคุณรู้สึกว่าทำไมน้องๆถึงได้รับความรัก ความเอาใจใส่ และการดูแลอย่างเป็นพิเศษจากพ่อแม่มากกว่าลูกคนโต  โยเซฟได้เห็นนิมิตรในความฝันที่เขามักจะฝันเห็นบ่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่พี่น้องน้องเขามากราบไหว้เขา แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับนิมิตรนั้น และในที่สุดพี่น้องของโยเซฟก็ปล่อยให้ความอิจฉานำพาชีวิตจนคิดแผนที่จะฆ่าโยเซฟ แต่สุดท้ายพวกเขากลับขายโยเซฟไปเป็นทาสแทน แต่สุดท้ายแล้วโยเซฟได้ยกโทษให้พวกพี่ชายและช่วยเหลือพวกเขา

 

อย่าปล่อยให้ตัวคุณเองเป็นเหมือนพี่น้องของโยเซฟเพราะความอิจฉาอาจทำให้คุณไม่พอใจผู้คนและถึงกับทำเรื่องโง่ ๆ ลงไปโดยขาดสติ พระเจ้าต้องการให้คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี การรู้สึกอิจฉาแสดงให้เห็นว่าเรากำลังไม่พอใจกับสิ่งที่พระเจ้าได้ทรงประทานแก่เรา

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกมีความสุขกับสิ่งที่ลูกมี โปรดช่วยให้ลูกอย่าเป็นคนที่อิจฉาคนอื่นเมื่อเห็นเขาได้รับในสิ่งดี ๆ แต่โปรดสวมจิตใจที่ชื่นชมยินดีให้กับลูกเพื่อที่ลูกจะได้ร่วมยินดีไปกับคนอื่นด้วยเทอญ  ลูกกขออธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

knowgod.in.th


วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563

การไม่ให้อภัย

 


ฮามาน – การไม่ให้อภัย

กษัตริย์ทรงลุกขึ้นจากงานเลี้ยงด้วยพระพิโรธ และเสด็จเข้าในพระราชอุทยาน แต่ฮามานยังอยู่เพื่อทูลขอชีวิตจากพระราชินีเอสเธอร์ เพราะเขาเห็นว่ากษัตริย์ทรงมุ่งร้ายต่อเขาแล้ว

เอสเธอร์ 7: 7

ในพระธรรม เอสเธอร์บทที่ 3 บอกไว้ว่าฮามานได้รับการแต่งตั้งให้มีตำแหน่งสูงรองจากกษัตริย์ และกษัตริย์สั่งให้เจ้านายต่าง ๆ กราบลงทำความเคารพเขา จะมีก็แต่โมรเดคัยที่ไม่ยอมทำตาม ฮามานกลายเป็นผู้นำที่มีอำนาจมาก วันหนึ่งฮามานเดินออกไปด้วยใจชื่นบานและยินดี แต่เมื่อฮามานเห็นโมรเดคัยที่ประตูพระราชวังเขาไม่ได้ยืนขึ้นหรือตัวสั่นเมื่ออยู่ต่อหน้าตน ฮามานก็โกรธแค้นโมรเดคัยมาก เพราะฮามานรู้สึกว่าเขาไม่ได้รับการเคารพจากโมรเดคัยอย่างที่เขาสมควรได้รับ ฮามานต้องการให้โมรเดคัยเคารพตนเหมือนเช่นที่คนอื่นให้ความเคารพเขา แต่เป็นเพราะโมรเดคัยเป็นชาวยิว และการกราบไหว้นั้นนับเป็นการนมัสการพระอย่างหนึ่ง ซึ่งเขาเชื่อในพระเจ้าและนมัสการพระเจ้าเที่ยงแท้แต่เพียงองค์เดียวเท่านั้น การกราบมนุษย์และให้เปรียบประหนึ่งว่าเป็นพระเจ้า โมรเดคัยจึงทำไม่ได้ นี่จึงเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด เพราะเมื่อฮามานรู้ก็ไม่พอใจแลโกรธมากเขาจึงวางแผนฆ่าโมรเดคัยและทำลายคนยิวทั้งหมดที่อยู่ทั่วราชอาณาจักรของกษัตริย์อาหสุเอรัส พระราชินีเอสเธอร์ยอมเสี่ยงชีวิตเพราะได้ทรงตระหนักถึงสิ่งที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย พระนางทรงเต็มใจที่จะทำในสิ่งที่อาจเป็นภัยร้ายแรง และจัดการคนสำคัญลำดับที่สองในราชอาณาจักรสามีของพระองค์ คือฮามาน พระนางได้ทรงพิสูจน์ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ชาญฉลาดและมีคุณค่าที่สุด ทรงอ่อนน้อมถ่อมตนและเคารพฐานันดรศักดิ์ของพระสวามีคือองค์กษัตริย์ และทำให้พระสวามีเห็นว่าฮามานต่างหากที่เป็นตัวปัญหาไม่ใช่โมรเดคัย กษัตริย์เห็นด้วยกับพระนางและสั่งลงโทษฮามานด้วยความตาย

ฮามานไม่ควรปล่อยให้ความโกรธของเขากลายเป็นแผนการฆาตกรรม เมื่อมีคนทำร้ายคุณหรือทำให้คุณรู้สึกโกรธและจมลึกอยู่กับความโกรธจนไม่ยอมให้อภัยมันจะทำให้คุณเจ็บปวด จะดีกว่ามากถ้าคุณจะให้อภัยและปล่อยมันไป

บทเรียนอีกอย่างในเรื่องนี้คือความอดทน - ทั้งเอสเธอร์และโมรเดคัยไม่ได้มีการตัดสินใจใด ๆ ที่หยาบคายและไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับการแก้ไขทันที เขาวางแผนการและทำช้าๆและเงียบ โดยเอสเธอร์ขอให้คนของเธอรีบไปหาเธอและรอเวลาที่เหมาะสม ความอดทนเป็นบทเรียนที่ยากที่จะเรียนรู้เมื่อเราอยู่ในโลกใบนี้ แต่พระเจ้าจะทำงานในเวลาของพระองค์ไม่ใช่ของเรา ถ้าเรายอมให้พระองค์ทำงานตามจังหวะของพระองค์เราจะเห็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้น

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก บางครั้งกับคนบางคนลูกเองก็ไม่อยากให้อภัย เพราะสิ่งที่เขาทำมันมากมายและบ่อยครั้งเขาก็ทำอย่างไร้สำนึกในผิดชอบชั่วดี   แต่ลูกรู้ว่าลูกควรจะให้อภัย ลูกจึงต้องการความช่วยเหลือจากพระองค์ ขอให้ลูกกล้าหาญที่จะให้อภัยและมีความอดทน ไม่จดจำความผิดของคนอื่น เพราะว่าเราทุกคนทำผิดพลาดกันได้ และเราทุกคนก็ต้องการโอกาสเพื่อที่จะปรับปรุงแก้ไข เช่นเดียวกันกับที่พระองค์ทรงมองข้ามความไม่น่ารักของลูกและให้อภัยลูกเสมอมา! อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

 th.eferrit.com


วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2563

ความสงสัยในพระเจ้า

 


 ความสงสัยในพระเจ้า

ในบรรดาสัตว์ป่าทั้งหมด ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงสร้างนั้น งูฉลาดกว่าหมด มันถามหญิงนั้นว่า “จริงหรือ? ที่พระเจ้าตรัสว่า ‘ห้ามพวกเจ้ากินผลจากต้นไม้ทุกต้นในสวนนี้’ ”

ปฐมกาล 3: 1

ในสวนเอเดนทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ ไม่มีอาชญากรรม ไม่มีความโกรธเกลียดและไม่มีการร้องไห้ แต่แล้วซาตานในคราบงูก็มาพูดคุยกับอาดัมและเอวาบอกให้ฝ่าฝืนกฎข้อเดียวที่พระเจ้าประทานให้ ซึ่งงูทำสิ่งนี้โดยการตั้งคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าและตั้งข้อสงสัยในจิตใจของเอวาเกี่ยวกับความดีงามของพระองค์ ก่อนใครอื่น

อาดัมและเอวาได้ทำบาปและทันใดนั้นโลกที่สมบูรณ์แบบของพวกเขาก็ไม่สมบูรณ์แบบอีกต่อไป กลยุทธ์ของปีศาจไม่เคยเปลี่ยนแปลงจริงๆ พวกมันจะพยายามตั้งข้อสงสัยในใจของคุณเกี่ยวกับพระเจ้า แต่อย่าให้เราเป็นเหมือนอาดัมและเอวา ให้เราวางใจพระเจ้าและความดีของพระองค์ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิตก็ตาม

พระเจ้าทรงสร้างงูให้ฉลาดหลักแหลมมากกว่าบรรดาสัตว์ แต่ในความฉลาดของงูในที่นี้เป็นการใช้ความฉลาดไปในทางที่ผิด  เช่น ฉลาดเเกมโกง กลิ้งกลอก ร้อยเล่ห์ เหลี่ยมจัด เป็นต้น ก็คงเป็นเหมือนลักษณะของงูที่ใช้คำพูดหลอกล่อเอวา ดูเหมือนหวังดี แต่ในใจลึก ๆ ก็คิดร้าย หรือ ไม่ได้หวังดีเหมือนอย่างที่พูด เหมือนดั่งสุภาษิตไทยที่ว่า “ปากหวานก้นเปรี้ยว” ดังนั้นงู ในสวนเอเดน จึงเต็มไปด้วย ความเจ้าเล่ห์ เพทุบาย 

ในชีวิตเราก็เช่นเดียวกัน มารซาตานพยายามศึกษาชีวิตของเราแต่ละคนอย่างละเอียด มันรู้ว่าเราพักอยู่ที่ไหน เรียนโรงเรียนอะไร ทำงานอะไร เราชอบกินอะไร ชอบเที่ยวแบบไหน นิสัยเราเป็นอย่างไร ความฝันและเป้าหมายของเราคืออะไร หน้าที่ของมันก็คือพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะทำลายเรา ทำให้เราออกห่างจากพระเจ้า ให้เราเดินเข้าไปยังหลุมพรางต่าง ๆ ที่มันวางไว้ ให้เราเดินเข้าไปหากับระเบิด และตายในที่สุด

เราจำเป็นต้องมีพระคำของพระเจ้า เพราะคนของพระเจ้าจะรู้จักแยกแยะดีชั่วได้ เหมือนใน ฮิบรู 5: 14 บอกว่า “อาหารแข็งนั้นสำหรับผู้ใหญ่ สำหรับคนที่ฝึกฝนจนมีความสามารถแยกแยะดีชั่วได้แล้ว”

หากเราต้องการเดินบนเส้นทางแห่งชีวิตได้อย่างปลอดภัย เราจำเป็นต้องยึดพระคำพระเจ้าไว้ให้มั่น เราจำเป็นต้องรู้กลยุทธ์ของมารซาตาน เราต้องรู้ทันอุบายที่มันวางเอาไว้ และพระคำพระเจ้าจะเป็นแผนที่บอกเราว่ามีกับดักและหลุมพรางซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง คำถามก็คือ เมื่อเรารู้แล้ว เราจะทำอย่างไร เดินหลบไปอีกทาง หรือว่าเดินเข้าไปหามัน?

บทเรียนที่ได้รับจากเรื่องนี้คือ 1. การใช้ของประทานที่พระเจ้ามอบให้เราแต่ละคนไห้เกิดผลในทางที่ถูกต้องเเละให้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้า จงระวังที่จะมีนิสัยเป็นเหมือน งู ในพระธรรมตอนนี้ ที่ใช้ของประทานในทางที่ผิด 2. การดำเนินชีวิตคริสเตียน เราต้องคอยระวังเเละเตรียมพร้อมต่อกลอุบายของมารซาตานอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้มารซาตานได้เปรียบเรา เราสามารถระวังและป้องกันตัวเองได้ด้วยการอ่านพระคัมภีร์ให้มากที่สุดเพราะในนั้นมีคำสอน คำชี้แนะมากมายที่จะช่วยให้เราไม่ตกอยู่ในการล่อลวงของซาตาน

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก โปรดช่วยให้ลูกอย่าหลงไปเชื่อฟังใครก็ตามที่ประสงค์ทำให้ลูกตั้งคำถามเกี่ยวกับพระองค์และตั้งข้อสงสัยในความรักที่พระองค์มีต่อลูก อาเมน

ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

choojaiproject.org

 siamchristian.com


ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...