วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563

จงอุทิศเวลาให้กับการอ่านพระคัมภีร์

 


การใส่ใจอย่างแท้จริง

จงอุทิศเวลาให้กับการอ่านพระคัมภีร์ในที่ประชุม ให้กับการเทศนาและสั่งสอนจนกว่าข้าพเจ้าจะมา

1 ทิโมธี 4:13

พระคัมภีร์เป็นหนังสือเล่มใหญ่มากและอาจมีบางช่วงบางตอนที่คุณอาจไม่เข้าใจ  แต่อย่างไรก็ตามพระคัมภีร์เป็นเสียงของพระเจ้า การที่คุณพยายามอ่านพระคัมภีร์มาก ๆ จะเป็นการช่วยเสริมกำลังใจให้กับผู้ที่อ่าน และยังทำให้คุณสามารถได้ยินพระองค์ตรัสกับคุณ พระเจ้าไม่ต้องการให้คุณอ่านพระคัมภีร์ด้วยตัวเองเพียงลำพังเท่านั้น แต่พระองค์ยังยังต้องการให้คนจำนวนมากอ่านร่วมกัน เช่นที่โบสถ์ เพราะการฟังคำเทศนาจากพระสงฆ์หรือจากผู้เทศนามีส่วนช่วยให้เราเข้าใจความหมายของพระวจนะได้ดีมากขึ้น และถ้าหากเรามีการแบ่งปันพระวาจากันในกลุ่มเล็กๆ จะที่โบสถ์หรือที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็จะช่วยให้เราได้ฟังมุมมองที่แตกต่างกันไป เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันในการตีความ -หัวข้อ- แนวคิดเพื่อให้เข้าใจตรงกัน รวมถึงแตกแนวคิดออกไปให้กว้างไกลมากขึ้น วิธีนี้มีข้อดีคือทุกคนจะรู้สึกว่าการเรียนรู้เรื่องศาสนาไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งแต่เราต้องยึดหลักความจริงจากพระคัมภีร์เป็นที่ตั้งด้วย

 สมัยของทิโมธี มี “ชั่ว และคนเจ้าเล่ห์ ล่อลวงคนอื่นและถูกคนอื่นล่อลวง” ท่านเปาโลสอนทิโมธีให้ดำเนินตามสิ่งที่เรียนรู้แล้ว และเชื่ออย่างมั่นคงที่เขาได้เรียนมาจาก คุณแม่และคุณยายที่รักพระเจ้า ตั้งแต่เป็นเด็กมา คือพระคัมภีร์นั่นเอง ทุกวันนี้มีคำสอนแปลกๆ ปรัชญาแปลกๆ ที่ไม่อยู่ในหลักของพระคัมภีร์ แพร่สะพัด แชร์กันในเฟสบุ๊ค ส่งให้อ่านกันตามไลน์ ไม่แพ้ยุคของทิโมธี จำเป็นอย่างยิ่งที่อนุชนทุกวันนี้ จะต้องแยกให้ออก และยึดมั่นอยู่ในหลักคำสอน ที่สามารถสร้างชีวิตอันแข็งแกร่งแก่เราได้  เราต้องเห็นความพิเศษของพระวจนะ เพราะนี่คือ ถ้อยคำที่มาแต่การดลใจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่ความคิดของมนุษย์  “ทิโทธีได้เรียนรู้พระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่เด็กแล้ว  ซึ่งสามารถสอนท่านให้รู้ถึงความรอดได้”  เรารักพระคำของพระเจ้าเพราะเรารักพระเยซู ผู้ประทานพระวจนะให้เรา ความรักของพระองค์ ทำให้เราอยากอ่านอยากรู้ อยากใคร่ครวญ และนำมาปฏิบัติตาม

ประโยชน์ที่ได้รับจากการอ่านพระคัมภีร์ที่สำคัญก็คือ ทำให้เราเกิดความสำนึกผิดเมื่อทำบาป พระคัมภีร์จะช่วยให้เราได้เห็นความผิดหรือ บาปที่เราได้กระทำอย่างชัดเจน  ทำให้เรามีความสำนึกที่ตัวในการทำบาปของเรา และมีความเป็นทุกข์ถึงบาปด้วยการขอกลับคืนดีกับพระเจ้า และด้วยการละทิ้งบาปนั้นที่จะไม่ทำต่อไปอีกในชีวิตของเรา

การศึกษาพระคัมภีร์จะทำให้เรามีความหวัง ความหวังเป็นของประทานอันอุดมสมบูรณ์มาจากพระเป็นเจ้า ซึ่งจะมีอยู่ท่ามกลางผู้มีความเชื่อเท่านั้น พระคัมภีร์ก็คือ พระวาจาหรือคำสอนของพระเจ้า ผู้ใดที่เชื่อและปฏิบัติตาม ผู้นั้นก็จะพบกับความหวัง ซึ่งเป็นพระวิญญาณของพระเป็นเจ้าที่ปรากฏอยู่ในพระวจนะของพระองค์

การศึกษาพระคัมภีร์ทำให้เกิดสันติสุข ผู้ที่รู้และเข้าใจในพระวจนะของพระเจ้า จะมีความรู้สึกปิติยินดีและมั่นคงที่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความรักของพระเจ้าที่มีต่อเขามากขึ้น และจะทำให้เขาได้มีโอกาสพบกับสันติสุขกับพระเจ้าซึ่งเป็นสันติสุขที่มนุษย์ทุกคนทั่วโลกเสาะแสวงหาและสันติสุขดังกล่าวจะค้นหาได้จากที่เดียวคือ ในพระคัมภีร์

การศึกษาพระวจนะของพระเจ้าจะทำให้เราสามารถจัดการกับปัญหาต่างที่เกิดกับชีวิตของเราได้เป็นอย่างดี  ผู้ที่ศึกษาพระคัมภีร์จะพบว่าปัญหาต่างๆที่เรามีในชีวิตของเรานั้น พระคัมภีร์ได้บอกถึงแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้นไว้ให้เราแล้วทุกประการ หากเราได้ปฏิบัติตามพระวาจาของพระเจ้า และมีความเชื่อและไว้วางใจในพระองค์อย่างแท้จริงแล้วปัญหาต่างๆก็จะได้รับการช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า

คำอธิษฐาน

ข้าแต่พระบิดาที่รัก ลูกขอขอบพระคุณสำหรับโบสถ์-คริสตจักรของลูกและสำหรับพระสงฆ์-ศิษยาภิบาล-ผู้อภิบาล (pastor)ที่นำคำสอนของพระองค์มาแบ่งปันเพื่อให้เกิดผลดีในชีวิตของพวกเรา ขอพระองค์ช่วยให้ลูกใส่ใจในการให้ความสำคัญกับพระคำของพระองค์ในทุก ๆ วันมากกว่าสิ่งอื่นใดด้วยเทอญ เอเมน

 ขอขอบคุณข้อความหนุนใจจาก

หนังสือ One minute devotions

kamsondeedee.com

bangkokfellowship.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ

  พระวจนะของพระเจ้าสำหรับวันนี้ การทรยศ อ่านมัทธิว 26:3 ถึง 27:66 ยูดาสตอบรับการเรียกของพระเยซูให้ติดตามเช่นเดียวกับสาวกคนอื่นๆ เขาออ...