วันที่สี่สิบห้า-จงฟังเสียงของพระเจ้า
ใครมีหูที่จะฟังก็จงฟังเถิด
มัทธิว11:15
จงหยุดและฟัง.
คุณได้ยินเสียงอะไรบ้าง?? เสียงนกร้อง?? เสียงคนพูดคุยกัน?? หรือเสียงเพลง??
พระคัมภีร์กล่าวว่าเราทุกคนมีหู เราควรตั้งใจฟัง
เพื่อที่เราจะได้ยินเสียงของพระเจ้า
คุณคิดว่าเสียงของพระเจ้าเป็นอย่างไร?? มันอาจฟังดูเหมือนว่ามีคนกำลังอ่านพระคัมภีร์ให้คุณฟังอยู่
หรือเมื่อคุณไปโบสถ์ก็มีคนกำลังบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆในพระคัมภีร์ให้คุณฟัง
หรืออาจฟังเหมือนเสียงของครอบครัวคุณที่กำลังสวดภาวนาอ้อนวอน ฯลฯ พระเจ้าสามารถตรัสถึงเราผ่านทางผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา
และบางครั้งเราเองก็สามารถได้ยินเสียงของพระเจ้าตรัสกับเราภายในใจ ด้วยการเตือนให้เราเป็นคนดี
รู้จักคิดดี รู้จักทำดี รู้จักผิดชอบชั่วดี และเตือนให้เราเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง
ให้คุณหาเวลาสงบนิ่งเพื่อที่คุณจะสามารถได้ยินสิ่งที่พระเจ้าต้องการตรัสกับคุณ
ข้อคิดระหว่างวัน
ให้คุณลองพิจารณาดูสิว่า วันนี้คุณสามารถได้ยินเสียงพระเจ้าตรัสกับคุณหรือไม่
ให้เราอธิษฐาน
ข้าแต่พระบิดาที่รัก
ขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงประทานหูเพื่อให้ลูกสามารถได้ยิน.
ขอพระองค์โปรดช่วยให้ลูกได้ยินเสียงที่พระองค์ทรงตรัสกับลูกอยู่เสมอ
อย่าให้ลูกได้ละเลยในการตั้งใจฟังเสียงของพระองค์ในทุก ๆ วัน
ลูกขออธิษฐานในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านที่สละเวลามาอธิษฐานร่วมกันนะคะ
การฝึกฟังเสียงของพระเจ้าและติดตามการทรงนำของพระวิญญาณฯเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก
พระเจ้าอยากจะบอกถึงแผนการของพระองค์ที่มีต่อชีวิตของเรา
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการที่ดี แต่เราอาจจะพลาดจากการทรงนำได้ ถ้าเราไม่ฝึกฝนในการฟังเสียงของพระเจ้าหรือไม่เชื่อฟังพระองค์.
ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใด ลูกจะไม่ย่อท้อต่อการทำหน้าที่ประกาศข่าวดี
ลูกจะแบ่งปันและบอกเล่าถึงความรักของพระองค์ให้โลกได้รู้ว่า
ความรักของพระองค์นั่นยิ่งใหญ่ มั่นคงและจะคงอยู่ตลอดไป อย่าลืมศึกษาพระคัมภีร์กันไปวันละนิดวันละหน่อยนะคะ
เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับพระเจ้านะคะ
KC Love God
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น