การให้ข้อคิดทางวิญญาณประจำวัน
ความเงียบ
อ่านโยบ 1:1 ถึง 7:21
โยบมีชื่อเสียงที่ดี พระเจ้าทรงถือว่าเขาไม่มีตำหนิและเที่ยงธรรม เมื่อถูกศัตรูโจมตี ชีวิตของโยบเปลี่ยนไปอย่างมาก เขารักษาความรักต่อพระเจ้า แต่ต้องดิ้นรนผ่านการสูญเสียครอบครัวและทรัพย์สินของเขา ไม่มีปัญหาใดที่สามารถอธิบายได้ง่ายๆหรือถูกแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ตลอดเรื่องราวของโยบ “เพื่อนของโยบพูดผิด” โดยพวกเขาไม่รู้เลยว่าจริง ๆ โยบไม่ได้ทำความผิด”คำปลอบโยนเหล่านั้นกลับเต็มไปด้วยทัศนคติที่ผ่านมุมมองอันคับแคบ โยบต่อสู้เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดจึงเกิดขึ้น แต่ในช่วงแรกกลับมีแต่ความเงียบ โยบและเพื่อนๆ ของเขาไม่ได้พูดอะไรเลบ
แล้วพวกเขาก็นั่งบนพื้นกับเขาเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่มีใครพูดกับโยบสักคำ เพราะพวกเขาเห็นว่าความทุกข์ทรมานของเขาหนักเกินกว่าจะบรรยายได้ 12เมื่อพวกเขาเห็นโยบแต่ไกลก็จำเขาแทบไม่ได้ พวกเขาจึงพากันร้องไห้เสียงดัง ฉีกเสื้อผ้า และโปรยฝุ่นใส่ศีรษะ 13แล้วนั่งอยู่ที่พื้นเป็นเพื่อนโยบตลอดเจ็ดวันเจ็ดคืน ไม่มีใครเอ่ยอะไรแม้แต่คำเดียวเพราะเห็นว่าโยบทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพียงใด (อโยบ 2:12-13)
บางคนเสนอวิธีแก้ปัญหาและข้อเสนอแนะที่เรียบง่ายและไม่ถูกต้องหลังจากได้ยินเรื่องราวอันเจ็บปวดของเพื่อน บ่อยครั้งอาจจะเป็นการดีที่สุดที่เราจะไม่พูดอะไรออกไปและอยู่ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้าผู้ทรงห่วงใยเรา เพราะพระองค์ทรงรู้ทุกอย่างและสามารถช่วยเหลือความเจ็บปวดได้ของเราได้ ให้เราโอบกอดความเงียบเอาไว้ เพราะการเปิดรับพลังแห่งความเงียบเป็นวิธีหนึ่งในการรู้จักแหล่งที่มาของคุณและตัวคุณเอง
สิ่งที่พระเจ้าอนุญาตให้เกิดขึ้นกับเราในวันนี้ แม้เราไม่เข้าใจ
แต่เราก็มั่นใจได้ว่า จะนำผลดีและพระพรมาสู่ชีวิตของเราในอนาคต หากเรายังคงดำเนินตามทางของพระองค์
หากเราพบเจอกับความทุกข์ยากลำบากอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เรายังคงสรรเสริญพระเจ้า
และถ่อมใจลง มองด้วยสายตาฝ่ายวิญญาณว่า แท้จริงพระเจ้าทรงเป็นเจ้าของทุกสิ่งที่เรามี
พระองค์มีสิทธิอนุญาตให้อะไรเกิดขึ้นก็ได้กับทุกสิ่งที่เรามี
ความท้าทายสำหรับวันนี้: ตระหนักว่าบางครั้งเป็นการดีที่สุดที่เราจะไม่พูดอะไรเลย
คำคม : “
สิ่งร้ายที่ประสบจะกลายเป็นสิ่งดีเสมอ สำหรับผู้ที่ยำเกรงพระเจ้า ”
เราสนับสนุน และท้าทายคุณ
ที่จะแสวงหาความใกล้ชิดกับพระเจ้าในทุกๆวัน
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
ag.org
drkerministry
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น