การให้ข้อคิดทางวิญญาณประจำวัน
พยากรณ์เท็จ
อ่าน 1 กษัตริย์ 12:1 ถึง 16:34
ที่ประชุมเชื่อในของประทานแห่งพระวิญญาณที่บรรยายไว้ใน 1
โครินธ์ 12 รวมทั้งคำพยากรณ์ด้วย เย็นวันหนึ่งระหว่างเวลาแสดงประจักษ์พยาน
เฟรดผู้มาเยือนจากอีกคริสตจักรหนึ่งหยิบไมโครโฟนขึ้นมา แทนที่เขาจะให้คำประจักษ์พยานส่วนตัว
เขาเริ่มกล่าวว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้” และเริ่มให้ข่าวสาร “คำพยากรณ์”
มันดูเหมือนอยู่นอกฐานของความจริง บาทหลวงจึงรีบขอไมโครโฟนคืนแล้วขอให้เฟร็ดนั่งลงเพราะคำพูดของเฟรดเป็นคำพูดของเขาเอง
ไม่ใช่ของพระเจ้า
แต่ผู้เผยพระวจนะชรานั้นตอบว่า “เราก็เป็นผู้เผยพระวจนะเหมือนกัน
และทูตสวรรค์องค์หนึ่งแจ้งพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าแก่เราว่า
‘ให้พาเขากลับมาที่บ้านของเจ้าเพื่อเขาจะได้รับประทานอาหารและดื่มน้ำ’”
(แต่ผู้เผยพระวจนะชราโกหกเขา) (1 พงศ์กษัตริย์ 13:18)
คริสเตียนควรปรารถนาของประทานฝ่ายวิญญาณ
แต่พวกเขาก็ต้องการความเข้าใจในการสำแดงของพวกเขา
ผู้เชื่อที่เปี่ยมด้วยพระวิญญาณไม่ควรดูหมิ่นคำพยากรณ์
แต่ก็ไม่ควรยอมรับข้อความใดๆง่ายๆ
โดยไม่ทดสอบความจริงและจิตวิญญาณที่อยู่เบื้องหลังข้อความนั้น เพราะสิ่งใดก็ตามที่ดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง
หลอกลวง หรือมีแรงจูงใจอื่นๆ ควรถูกปฏิเสธ
ในระดับพื้นฐานที่สุด คำพยากรณ์มีไว้เพื่อสั่งสอน ตักเตือน
และปลอบโยน (1 โครินธ์ 14:3) อย่างไรก็ตาม
เราไม่ควรสับสนระหว่างคำพยากรณ์ (ข้อความ) กับคำพูดให้กำลังใจ
คำพยากรณ์มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า และหากเป็นคำทำนายโดยธรรมชาติแล้ว
ก็จะเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงเพราะพระเจ้าไม่สามารถตรัสมุสาได้ (ทิตัส 1:2) คำพยากรณ์มาจากพระเจ้าและพระองค์ทรงให้เกียรติพระวจนะของพระองค์
(วิวรณ์ 19:10) ส่วนคำพูดให้กำลังใจนั้นแตกต่างออกไปเพราะว่ามันมาจากจิตวิญญาณของบุคคล
และคำพูดนี้มีไว้เพื่อทำให้บุคคลนั้นรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเขาหรือเธอเองและ/หรือสถานการณ์
ของขวัญพยากรณ์ 7 ประการคืออะไร?
ของประทานทั้งเจ็ดของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ได้แก่ สติปัญญา
ความเข้าใจ คำแนะนำ ความแข็งแกร่ง ความรู้ ความนับถือ และความยำเกรงพระเจ้า แม้ว่าคริสเตียนบางคนยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นรายการคุณลักษณะเฉพาะที่ชัดเจน
แต่คนอื่นๆ
เข้าใจว่าเป็นเพียงตัวอย่างงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านทางผู้ซื่อสัตย์เท่านั้น
ข้อคิดสำหรับวันนี้: คำพยากรณ์ไม่ควรทำให้ใครเกิดความเข้าใจที่ผิดๆ
ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของบทความหนุนใจ
ag.org
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น