อธิษฐานเพื่อชีวิตการแต่งงานของเรา ระยะเวลา 100 วัน
วันที่ 6 หาทางแก้ปัญหาเพื่อรักษาความสัมพันธ์
1“อย่าให้ใจของพวกท่านเป็นทุกข์เลย พวกท่านวางใจในพระเจ้า
จงวางใจในเราด้วย
ยอห์น14:1
ในชีวิตของเราทุกคนมีโอกาสที่จะต้องเจอกับปัญหา-ความผิดหวัง-ความปวดใจ
และการสูญเสีย ซึ่งไม่มีใครได้รับการยกเว้น รวมถึงชีวิตการแต่งงานของคู่เราด้วย เมื่อเรามีปัญหาพระเจ้าก็พร้อมและเต็มใจที่จะปกป้องเรา
แน่นอนความรับผิดชอบของเราคือการทูลขอการเยียวยารักษาจากพระองค์ เมื่อเราขอร้องพระองค์ด้วยการอธิษฐานอย่างจริงใจพระองค์จะตอบ
- ในเวลาของพระองค์และมันจะเป็นไปตามแผนที่สมบูรณ์แบบของพระองค์
เมื่อเราพบปัญหาหรือความเข้าใจผิดในความสัมพันธ์ของคู่เรา
เราต้องหาทางแก้ไขเพื่อรักษาปัญหาเหล่านั้นโดยเร็วที่สุดดีกว่าปล่อยไว้นาน ๆ
แล้วมาคิดแก้ไขในภายหลัง เพราะทุกปัญหาที่เกิดขึ้นมันอาจมีวิธีแก้ไขได้ง่ายถ้ามันคือปัญหาที่เพิ่งเกิดขึ้น-ยังสดใหม่อยู่ และยังเป็นปัญหาเล็ก
ๆ. แต่ถ้าหากคุณและคู่สมรสทำเพิกเฉยที่จะหาทางแก้ไขปัญหานั้น
ๆ จากที่มันเล็กน้อยก็จะสะสมกลายเป็นปัญหาใหญ่และอาจสายเกินเยียวยา. คู่รักที่ฉลาดในการใช้ชีวิตเขาจะคิดหาวิธีการที่จะรักษาความสัมพันธ์ให้คงอยู่และยืนยาว
และคิดหาวิธีจัดการกับปัญหาของพวกเขาอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว
ไม่มีการสมรสใดสมบูรณ์แบบ.
คู่สมรสทุกคู่ต่างเจอปัญหาไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง. ไม่ว่าปัญหาจะใหญ่หรือเล็ก สิ่งสำคัญอยู่ที่สามีและภรรยา
ได้เรียนรู้และจริงจังในการหาวิธีแก้ไข เพื่อรักษาความสัมพันธ์บ้างหรือเปล่า? เมื่อเวลาผ่านไป ปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการสื่อความ.
หากการสื่อความเป็นเหมือนเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตสมรส
ความรักและความนับถือก็เป็นเหมือนหัวใจและปอดของสัมพันธภาพนั้นด้วย. เมื่อมีปัญหาที่ต้องแก้ไข
ความรักจะกระตุ้นคู่สมรสให้มองข้ามความผิดพลาดในอดีตซึ่งทำให้เจ็บช้ำใจและมุ่งสนใจปัญหาที่เผชิญอยู่ในเวลานั้น. คู่สมรสที่แสดงความนับถือต่อกันจะยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งพูดอย่างเปิดอกและพยายามจะเข้าใจว่าเขาหมายความอย่างไร
ไม่เพียงแต่ฟังว่าพูดอะไรเท่านั้น.แต่เป็นการฟังด้วยใจที่พร้อมจะเข้าใจ
ข้อคิด
สามีภรรยาที่ไม่ร่วมมือกันเป็นทีมก็จะอึดอัดและไม่มีความสุขภายใต้แอกแห่งการสมรส.
อีกด้านหนึ่ง ถ้าพวกเขาเรียนรู้ที่จะทำงานด้วยกัน
พวกเขาจะสามารถแก้ปัญหาได้เกือบทุกเรื่องและทำอะไรดี ๆ ได้มากมาย. ชีวิตการแต่งงานจะมีความสุข ถ้าเราและคู่สมรสสามารถพูดคุยกันอย่างเปิดอก, รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา, อธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ,
และนำหลักคำสอนจากพระคัมภีร์ มาใช้จริงในการดำเนินชีวิต.”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น