เมื่อคุณรู้สึกเครียด
แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ
จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์
ฟิลิปปี 4: 7
คุณเคยไปหาหมอเพราะป่วยอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า? หลายคนป่วยและมีอาการซึ่งเป็นผลมาจากการอยู่ภายใต้ความเครียด
บางคนเกิดความเครียด เพราะจากการทุ่มเท
ผูกพันตัวเองกับหน้าที่การงาน-กับความคิด,คำพูดคนอื่น-กับความสำเร็จมากเกินไป
บางคนเครียดจากการมีนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนคิดมาก หรือมีนิสัยชอบคิดไปเอง ความเครียดเป็นภาวะของอารมณ์
หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ
คับข้องใจ หรือถูกบีบคั้น กดดันจนทำให้เกิดความรู้สึกทุกข์ใจ สับสน โกรธ
หรือเสียใจ ความเครียดที่มีไม่มากนัก
จะเป็นแรงกระตุ้นให้คนเราเกิดแรงมุมานะที่จะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ได้
คนที่มีความรับผิดชอบสูงจึงมักหนีความเครียดไปไม่พ้น
ความเครียดเป็นเรื่องปกติของชีวิตของทุกคน
พระเจ้าได้สร้างเราให้ทนต่อแรงกดดันและความตึงเครียดได้ในระดับหนึ่ง
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเราก้าวข้ามขีดจำกัด และเพิกเฉยต่อคำเตือนที่ร่างกายของเราบอกกับเรา
นั่นคือเมื่อมันเกิดเจ็บป่วยเจ็บปวดหรือหมดแรง
วันนี้ขอให้คุณดูแลตัวเองให้ดีเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายของคุณพังลง คุณจะไม่สามารถไปที่ร้านสะดวกซื้อและขอซื้อมันใหม่ได้
หลายสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในชีวิต อาจทำให้เรามีความเครียดมากเกินไปทั้งที่เรารู้ตัวบ้างและไม่รู้ตัวบ้าง
แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากเราต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยให้เราซื่อสัตย์กับตัวเอง
ให้สำรวจตนเองว่ามีอะไรบ้างที่เราควรหยุดทำมัน?และทูลขอให้พระเจ้าทรงช่วยคุณตัดสิ่งที่ทำให้ร่างกาย-จิตใจของคุณเสื่อมโทรมรวมถึงทุกสิ่งที่ไม่เกิดผลดี
ออกไปจากชีวิตของคุณ
ในฐานะผู้เชื่อ ความเครียดก็มาในหลายรูปแบบ แต่กล่าวโดยทั่วไป สำหรับเราส่วนใหญ่ก็คือ
การขาดความวางใจในพระเจ้า ในพระเยซูเราพบมรดกแห่งสันติสุขที่เป็นของเราเอง และเป็นของขวัญจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระองค์จะประทานเมื่อเราดำเนินชีวิตโดยการเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์
ดังนั้น เมื่อความเครียดเข้าควบคุมชีวิตของเรา จึงอาจพูดได้ว่านั่นเป็นเวลาที่เรากำลังขาดความวางใจในพระเจ้านั่นเอง
มีหลักการทางโลกที่เราสามารถปฏิบัติได้เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียด
เช่น การพักผ่อนอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารที่ถูกหลักอนามัย
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรักษาสมดุลระหว่างงาน กับครอบครัว อย่างไรก็ตาม เมื่อมองจากมุมมองฝ่ายวิญญาณ
การผ่อนคลายความเครียดเริ่มต้นและจบลงด้วยหลักการพื้นฐาน 3 ประการ คือ การอธิษฐาน แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ
ซึ่งถ้าทำเช่นนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือความกระวนกระวายใจและความเครียด
พระคัมภีร์แนะนำว่าให้มอบทุกสิ่งไว้กับพระเจ้าโดยการอธิษฐาน การใคร่ครวญพระวจนะ
พระคัมภีร์เต็มไปด้วยพระสัญญาจากพระเจ้า
การใคร่ครวญพระคำที่เป็นพระสัญญาจากพระองค์เหล่านี้สามารถขจัดความห่วงกังวล
ความสงสัย ความกลัว และความเครียดไปจากจิตใจของเราได้
ลองใคร่ครวญข้อพระวจนะเหล่านี้ดูเมื่อเกิดความเครียด การสรรเสริญพระเจ้า และการนมัสการพระจ้าจะทำให้เราไม่คิดถึงเรื่องไม่สบายใจของเรา
ปัญหาหนักที่กำลังรุมเร้าอยู่ และมุ่งความสนใจที่พระเจ้า
เมื่อเราเริ่มสรรเสริญและนมัสกรพระเจ้า ปัญหาต่างๆ ของก็เริ่มเล็กลงทันทีเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
ดนตรีก็สามารถทำให้จิตใจได้รับการประเล้าประโลมเช่นกัน
ข้อคิด
วิธีรับมือกับความเครียด คือวางใจพระเจ้าให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องรับมือกับความเครียดอีกเลย
แทนที่เราจะมานั่งเครียดและจมอยู่กับความสิ้นหวังเราควรจะเรียนรู้ว่า…พระเจ้าอนุญาตให้เราเผชิญกับปัญหานี้เพราะอะไร?
และพระองค์ต้องการที่จะทำอะไรผ่านชีวิตเรา? นี่คือสิ่งที่เราควรมุ่งหาคำตอบ ให้เราโฟกัสที่พระเจ้า
ให้ความคิดของเราเต็มไปด้วยการขอบพระคุณ
ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก
คุณสิธยา คูหาเสน่ห์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น