วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2563

เมื่อคุณรู้สึกเครียด

 


เมื่อคุณรู้สึกเครียด

แล้วสันติสุขของพระเจ้าที่เกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านทั้งหลายไว้ในพระเยซูคริสต์

ฟิลิปปี 4: 7

 คุณเคยไปหาหมอเพราะป่วยอยู่ตลอดเวลาหรือเปล่า? หลายคนป่วยและมีอาการซึ่งเป็นผลมาจากการอยู่ภายใต้ความเครียด    บางคนเกิดความเครียด เพราะจากการทุ่มเท ผูกพันตัวเองกับหน้าที่การงาน-กับความคิด,คำพูดคนอื่น-กับความสำเร็จมากเกินไป บางคนเครียดจากการมีนิสัยส่วนตัวที่เป็นคนคิดมาก หรือมีนิสัยชอบคิดไปเอง ความเครียดเป็นภาวะของอารมณ์ หรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ คับข้องใจ หรือถูกบีบคั้น กดดันจนทำให้เกิดความรู้สึกทุกข์ใจ สับสน โกรธ หรือเสียใจ ความเครียดที่มีไม่มากนัก จะเป็นแรงกระตุ้นให้คนเราเกิดแรงมุมานะที่จะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ได้ คนที่มีความรับผิดชอบสูงจึงมักหนีความเครียดไปไม่พ้น

 ความเครียดเป็นเรื่องปกติของชีวิตของทุกคน พระเจ้าได้สร้างเราให้ทนต่อแรงกดดันและความตึงเครียดได้ในระดับหนึ่ง ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเราก้าวข้ามขีดจำกัด และเพิกเฉยต่อคำเตือนที่ร่างกายของเราบอกกับเรา นั่นคือเมื่อมันเกิดเจ็บป่วยเจ็บปวดหรือหมดแรง

 วันนี้ขอให้คุณดูแลตัวเองให้ดีเพราะถ้าเมื่อไหร่ที่ร่างกายของคุณพังลง  คุณจะไม่สามารถไปที่ร้านสะดวกซื้อและขอซื้อมันใหม่ได้ หลายสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในชีวิต อาจทำให้เรามีความเครียดมากเกินไปทั้งที่เรารู้ตัวบ้างและไม่รู้ตัวบ้าง แต่มันก็เป็นสิ่งที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้หากเราต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยให้เราซื่อสัตย์กับตัวเอง ให้สำรวจตนเองว่ามีอะไรบ้างที่เราควรหยุดทำมัน?และทูลขอให้พระเจ้าทรงช่วยคุณตัดสิ่งที่ทำให้ร่างกาย-จิตใจของคุณเสื่อมโทรมรวมถึงทุกสิ่งที่ไม่เกิดผลดี ออกไปจากชีวิตของคุณ

 ในฐานะผู้เชื่อ ความเครียดก็มาในหลายรูปแบบ แต่กล่าวโดยทั่วไป สำหรับเราส่วนใหญ่ก็คือ การขาดความวางใจในพระเจ้า ในพระเยซูเราพบมรดกแห่งสันติสุขที่เป็นของเราเอง และเป็นของขวัญจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งพระองค์จะประทานเมื่อเราดำเนินชีวิตโดยการเชื่อฟังพระวจนะของพระองค์ ดังนั้น เมื่อความเครียดเข้าควบคุมชีวิตของเรา จึงอาจพูดได้ว่านั่นเป็นเวลาที่เรากำลังขาดความวางใจในพระเจ้านั่นเอง

 มีหลักการทางโลกที่เราสามารถปฏิบัติได้เพื่อหลีกเลี่ยงความเครียด เช่น การพักผ่อนอย่างเพียงพอ รับประทานอาหารที่ถูกหลักอนามัย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรักษาสมดุลระหว่างงาน กับครอบครัว อย่างไรก็ตาม เมื่อมองจากมุมมองฝ่ายวิญญาณ การผ่อนคลายความเครียดเริ่มต้นและจบลงด้วยหลักการพื้นฐาน 3 ประการ คือ  การอธิษฐาน แทนที่จะกังวลเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ซึ่งถ้าทำเช่นนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือความกระวนกระวายใจและความเครียด พระคัมภีร์แนะนำว่าให้มอบทุกสิ่งไว้กับพระเจ้าโดยการอธิษฐาน  การใคร่ครวญพระวจนะ พระคัมภีร์เต็มไปด้วยพระสัญญาจากพระเจ้า การใคร่ครวญพระคำที่เป็นพระสัญญาจากพระองค์เหล่านี้สามารถขจัดความห่วงกังวล ความสงสัย ความกลัว และความเครียดไปจากจิตใจของเราได้ ลองใคร่ครวญข้อพระวจนะเหล่านี้ดูเมื่อเกิดความเครียด การสรรเสริญพระเจ้า และการนมัสการพระจ้าจะทำให้เราไม่คิดถึงเรื่องไม่สบายใจของเรา ปัญหาหนักที่กำลังรุมเร้าอยู่ และมุ่งความสนใจที่พระเจ้า เมื่อเราเริ่มสรรเสริญและนมัสกรพระเจ้า ปัญหาต่างๆ ของก็เริ่มเล็กลงทันทีเมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ดนตรีก็สามารถทำให้จิตใจได้รับการประเล้าประโลมเช่นกัน

ข้อคิด

วิธีรับมือกับความเครียด คือวางใจพระเจ้าให้มากขึ้น เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องรับมือกับความเครียดอีกเลย  แทนที่เราจะมานั่งเครียดและจมอยู่กับความสิ้นหวังเราควรจะเรียนรู้ว่า…พระเจ้าอนุญาตให้เราเผชิญกับปัญหานี้เพราะอะไร?  และพระองค์ต้องการที่จะทำอะไรผ่านชีวิตเรา? นี่คือสิ่งที่เราควรมุ่งหาคำตอบ ให้เราโฟกัสที่พระเจ้า ให้ความคิดของเราเต็มไปด้วยการขอบพระคุณ

ขอขอบคุณ บทความหนุนใจจาก

คุณสิธยา คูหาเสน่ห์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7

  ข้อพระคัมภีร์ประจำวันและการอุทิศตน – โคโลสี 2:7   จงหยั่งรากและก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ จงมั่นคงในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาแล้ว และ...