ไม่พูดสิ่งชั่วร้าย
อย่าให้คำเลวร้ายออกจากปากของท่านทั้งหลาย
แต่จงกล่าวคำดีๆ ที่เสริมสร้างและที่เหมาะกับความต้องการ
เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยิน
เอเฟซัส 4:29
การพูดของคุณมีเสน่ห์หรือไม่? คำพูดและการกระทำของคุณสามารถดึงดูดใจผู้คนรอบข้างได้บ้างหรือเปล่า คุณมีสิ่งที่ใครบางคนเรียกมันว่า
"บุคลิกภาพที่ดึงดูดใจ" หรือไม่?
หรือ คุณเป็นคนที่มีปัญหาในการสร้างและรักษาสัมพันธ์? คุณเคยพิจารณาถึงสิ่งที่เกี่ยวกับตัวคุณ—อุปนิสัยของคุณ—ที่ทำให้คุณเป็นที่ชื่นชอบ หรือ เป็นคนที่ไม่น่าคบ
หรือ ที่แย่กว่านั้น คือ เป็นคนที่ถูกเพิกเฉย บ้างหรือเปล่า?
แน่นอนว่าลักษณะหลายอย่างทำให้เราเป็นที่ชื่นชอบ เช่น คุณลักษณะด้านบวก คุณธรรม คุณลักษณะทางจิตวิญญาณภายในของเรา ล้วนมีส่วนช่วยให้เกิดความน่าคบหา และถ้าคุณมีความสุข เวลาคนอื่นเห็นคุณยิ้ม พวกเขาก็จะยิ้มด้วย เมื่อคุณหัวเราะด้วยความยินดี พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในความสุขนั้น หากคุณเป็นคนใจกว้าง เห็นอกเห็นใจ เป็นผู้ฟังที่ดี ผู้คนก็จะมองหาคุณ หากพวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถพึ่งพาคุณได้เมื่อต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาจะรู้สึกยินดีที่ได้เห็นคุณ
ข้อพระคัมภีร์วันนี้พูดถึงความสำคัญของคำพูด คำพูดเป็นสิ่งเล็กน้อยแต่สามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ คำพูดสามารถทำลายใครบางคนลงหรือสร้างพวกเขาขึ้นมาได้ เราควรพยายามทำในสิ่งที่ทำได้เพื่อพูดถ้อยคำแห่งชีวิตกับผู้อื่น คำพูดของเราควรดีและเป็นประโยชน์ ควรเป็นคำที่สร้างเสริมกำลังใจแก่กันและกัน
คำพูดที่เลวร้ายสามารถกัดกร่อนและทำร้ายผู้คนได้
มันสามารถทำลายผู้คนทีละเล็กทีละน้อย บางครั้งคุณอาจเห็นผลทันตาและบางครั้งคุณก็อาจยังไม่เห็นผลของมันทันที
บางคนอาจคิดว่า ไม่เป็นไรหรอกมั้งเพราะว่า
“คนที่ฉันพูดถึงเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันกำลังพูดถึงเขา” แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่คุณคิดของคุณคนเดียว
อย่างไรก็ตาม
คำพูดเหล่านั้นที่ออกจากปากคุณ มันสามารถส่งผลกระทบต่อคนอื่นได้มากมาย คุณเชื่อหรือไม่ว่าคำพูดที่แสดงความเกลียดชัง ความขมขื่น ความอิจฉาริษยา ความโกรธ
การเหยียดหยามหรือการดูหมิ่น สามารถกัดกร่อนใจผู้ที่ได้ยินได้?
แม้ว่าคุณจะไม่ได้พูดตรงๆไปที่พวกเขา
แต่มันก็ยังสามารถกัดกร่อนใจของผู้ที่ได้ฟังอยู่ดี
ประเภทของคำพูดชั่วร้ายและเสื่อมทราม คำพูดหยาบโลน. คำแช่งด่า, คำพูดสบประมาท,หลายคนใช้คำอุทานที่หยาบคายเพื่อเน้นคำพูดของตน หรือใช้เป็นคำพูดแทรกเมื่อนึกคำเหมาะ ๆ ไม่ออก. บ่อยครั้งที่เราหลายคนมักใช้คำพูดหยาบคายที่เน้นเรื่องเพศเพื่อทำให้คนหัวเราะ. แต่คำพูดหยาบโลนเหล่านั้นเป็นที่น่ารังเกียจสำหรับพระเจ้า อีกทั้งยังน่ารังเกียจสำหรับคนที่รักพระองค์ด้วย.
การซุบซิบนินทา การพูดใส่ร้าย. การพูดถึงคนอื่นก่อความเสียหายเสมอไปไหม? คำตอบคือ ไม่ เพราะหากการสนทนานั้นทำให้เราได้มีส่วนร่วมนั้นในการให้ความรู้หรือข่าวที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ดี การพูดถึงคนอื่นอาจก่อความเสียหายได้หากมีการบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือเปิดเผยเรื่องส่วนตัว และการพูดใส่ร้ายมักก่อความเสียหายเสมอ. การพูดใส่ร้ายคือ “คำพูดกล่าวหาในเรื่องที่ไม่จริง ซึ่งทำลายชื่อเสียงของคนอื่นหรือทำให้เขาได้รับความเสียหาย.” บ่อยครั้ง คำพูดใส่ร้ายก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาท การชิงดีชิงเด่นกัน และ การแตกแยกกัน
คำพูดที่เสื่อมทรามคือสิ่งที่ไม่ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า ดังนั้นเราไม่ควรปล่อยให้คำพูดที่ไม่ดีออกจากปากของเราแม้แต่คำเดียว
เพื่อจะเป็นที่รักของพระเจ้าเสมอ เราต้องใช้ของประทานในการพูดตามที่ผู้ให้ทรงมุ่งหมายไว้. พระเจ้าทรงระบุอย่างชัดเจนถึงคำพูดชนิดที่ทำให้พระองค์พอพระทัยไว้ในเอเฟซัส 4:29 วันนี้ขอให้เราพิจารณาถึงเหตุผลที่เราต้องระวังคำพูดของเรา,และมีคำพูดอะไรบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยง และระมัดระวังในการใช้คำพูดมากขึ้น
จำไว้ว่าพระคำของพระเจ้ากระตุ้นเตือนเราให้พูดแต่ “คำดี ๆ ที่ทำให้เจริญขึ้น.” ให้เราฝึกใช้คำพูดที่เสริมสร้างกันและกันและให้กำลังใจคนอื่นในทุกๆวัน วันนี้ ขณะที่คุณกำลังพูด ให้สังเกตคำที่คุณใช้ ทูลขอพระเจ้าช่วยให้คุณใช้คำพูดที่ดี ที่มีประโยชน์ และให้กำลังใจผู้อื่นนะคะ! ก่อนที่เราจะพูด ให้หยุดคิดสักนิด ถ้าคำพูดของเราไม่เป็นมงคลและเป็นประโยชน์ต่อผู้ฟัง เราก็ไม่ควรพูดอะไรเลย มีคำโบราณกล่าวไว้ว่า “ถ้าคิดหาคำพูดดีๆมาพูดกับคนอื่นเขาไม่ได้ ให้เราอยู่เงียบๆไป ไม่ต้องไปออกความคิดเห็น”
คำอธิษฐาน
ข้าแต่พระเจ้า ขอโปรดประทานสติปัญญาแก่ข้าพระองค์ในวันนี้
เพื่อข้าพระองค์จะได้พูดถ้อยคำที่เป็นพรแก่ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และผู้ที่ข้าพระองค์พบเจอ
ข้าพระองค์ต้องการเป็นคนสัตย์จริง มีความรัก ความเมตตา และความกรุณาเมื่อเปิดปากพูด
ขอให้ถ้อยคำจากปากของข้าพระองค์ใช้ในการปรนนิบัติ และถวายเกียรติแด่พระองค์ในวันนี้
อธิษฐานในนามพระเยซู อาเมน
ติดตามอ่านบทความหนุนใจอื่นๆได้ที่ kattcrewslovegod.blogspot
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น